14 มีนาคม 2549 12:21 น.
อรุณสุข
คืนฟ้าหม่น..หมอกหมัว..สลัวแสง
ลมพัดแรง..เลยรา..พาจิตหมอง
หนาวใช่หนาว..เนื่องลม..ที่ห่มครอง
แต่หนาวน้อง..นวลร้าง..มาห่างไกล
เมื่อปลายปี..เราสอง..ยังครองรัก
คงสมัคร..รักมั่น..มิหวั่นไหว
จะครองรัก..ครองเรือน..เป็นเพื่อนใจ
สัญญาไว้..รักเรา..จักเนาว์นาน
ด้วยเธอลืม..สัญญา..เมื่อหน้าหนาว
ว่าจะยาว..ยืนยง..คงรักหวาน
ยังเชิญใช้..ให้ไปขอ..อย่ารอนาน
กำหนดการ..จัดไว้..ให้วิวาห์
เราเฝ้ารอ..ก่อรัก..สมัครมั่น
พอถึงวัน..ถ้วนครบ..เธอหลบหน้า
รักใหม่ล้อม..พร้อมเวียน..เปลี่ยนวิวาห์
เธอจึงลา..ตัดรัก..มาหักใจ
ยามใดที่..คิดถึง..จึงหม่นหมอง
ความโศกครอง..เศร้าคลุม..ทุกข์สุมใส่
เกิดภาวะ..น้ำล้น..จากก้นใจ
เป็นอุทกภัย..บ่านอง..ท่วมสองตา.
2 มีนาคม 2549 09:06 น.
อรุณสุข
บทเพลงรักเมื่อวันวานยังหวานแว่ว
กล่อมจิตแผ้วยามได้ฟังกี่ครั้งหน
แต่บทรักนี่สิช้ำต้องจำทน
อยู่อย่างคนไร้รักที่พักใจ
เคยถนอมกล่อมรักสมัครมั่น
ตราบนิรันดร์จะเคียงครองจิตผ่องใส
อุ่นไอรักถ้อยวจีไมตรีใน
ฝันเอาไว้เรือรักจักยืนยง
วันนี้เหลือเรือรักมาหักล่ม
รักจ่อมจมไม่ถึงฝั่งดั่งประสงค์
เหลือเพียงรอยรักลาพาใจปลง
บุญไม่ส่งรักสร้างต้องร้างไกล
จิตหนอจิตคิดไปเหตุใดหนอ
จึงเฝ้ารอรักคืนฝืนไฉน
ดั่งย้ำรอยแผลรักให้หนักใจ
พิษรักกลุ้มดั่งสุมไฟที่ใจเรา
ขอศานติมาเยือนในเรือนจิต
รักษาพิษรักคลายให้หายเศร้า
อุ่นด้วยไอมิตรรักจักสร่างเซา
ไมตรีเข้าคุ้มถนอมกล่อมหัวใจ
1 มีนาคม 2549 16:38 น.
อรุณสุข
หนึ่งสาวหนึ่ง..หนุ่มน้อย..มาคอยฝัน
เพื่อรอวัน...วิวาห์..จะมาถึง
สัมพันธ์ก่อ...ใกล้ชิด...รักติดตรึง
คิดคำนึง...ถ้วนถี่..รักมีมา
แต่มิคิด..ผิดพลาด...ที่วาดหวัง
แม้รักยัง..คงอยู่..ยังรู้ค่า
อุปสรรค...หลักใหญ่...ใช้เวลา
เกินอัตรา..รักต่อ..ก่อสัมพันธ์
อีกเรื่องของ..ชนชั้น...มาคั่นขีด
จึงถูกกีด...กั้นขวาง..ทางแห่งฝัน
ทั้งเรื่องรส..นิยมมี..ต่างที่กัน
รักที่มั่น..จึงได้มอด..ถอดใจลา
หนึ่งสาวหนึ่ง..หนุ่มน้อย..จึงคอยฝัน
รักใหม่อัน..พิเศษสุด..พิสุทธิ์ค่า
จะเริ่มต่อ..ก่อร่าง..สร้างศรัทธา
เพื่อเฟ้นหา..รักแท้..เหมาะแก่ตน
รักที่แท้..รักสะดุด..ที่สุดรัก
คงพึ่งพัก..กายใจ..ได้ทุกหน
เป็นเพื่อนยาม..ทุกข์ร้อน..ช่วยผ่อนปรน
จักช่วยดล..รักมั่น..นิรันดร.
28 กุมภาพันธ์ 2549 18:33 น.
อรุณสุข
© ขอสาธกยกธรรม์พุทธบัญญัติ
เครื่องผูกมัดน้ำจิตมิตรทั้งผอง
ธรรมอันเป็นฐานหลักนักปกครอง
จักไม่หมองหมางมิตรสนิทใจ
© ธรรมอันเป็นพุทธพจน์ในบทนี้
ชื่อว่า สังคหวัตถุ สี่ ที่จักไข
หนึ่ง ทาน คือ เสียสละ ละทางใจ
คือการให้ ไม่หวังชอบ สิ่งตอบแทน
© สอง(ปิย)วาจา ไพเราะ เสนาะสร้อย
สุนทรถ้อยคงค่าราคาแสน
มิตรสัมพันธ์มิถ่ายถอนไม่คลอนแคลน
จักแน่นแฟ้นไม่สิ้นสุดเพราะพูดดี
© สาม อัตถจริยามาช่วยเหลือ
ประพฤติตัวด้วยศีลธรรมนำศักดิ์ศรี
ช่วยจุนเจือมวลมิตรจิตอารี
จักมั่งมีบริวารช่วยงานตน
© สี่ วางตนต้นปลายไม่คลายเคลื่อน
เสมอเหมือน เสาหลัก ก่อมรรคผล
สร้างศรัทธาไม่เรรวนเพื่อมวลชน
รู้วางตน รักษ์ศีลสัตย์ สมานัตตา
© นี่คือหลักมรรควิธีที่เกื้อหนุน
ช่วยเสริมบุญ บารมี ศรี ทักษา
เหนี่ยวน้ำใจปวงชนดลศรัทธา
เหล่ากัลยาณ์ มิตรสล้าง อยู่ข้างกาย.
21 กุมภาพันธ์ 2549 20:55 น.
อรุณสุข
...ธรรมของผู้เป็นใหญ่...
ธรรมะมีหลายบทจดเอาไว้
เป็นหลักชัยหลักธรรมนำวิถี
เป็นเครื่องมือสื่อคุณธรรมสร้างกรรมดี
หลายบทมีบอกไว้สอนใจคน
ผู้ปกครองมองไว้ใช้บทนี้
พรหมวิหารสี่นำทางสร้างกุศล
เมตตามีค้ำจุนสร้างคุณคน
กรุณาพาสุขล้นเมื่อชนดี
มุฑิตาพลอยยินดีเพื่อนมีสุข
อุเบกขาวางทุกข์จะสุขศรี
ธรรมของผู้ปกครองครรลองดี
จักช่วยชี้นำทางสร้างสังคม