28 ธันวาคม 2552 23:16 น.
อรรธนิศา
เราคบกันนั้นเหมือนเพื่อนสนิท
รู้ความคิดน้ำใจให้ปรึกษา
รู้อภัยให้กันและกันมา
รู้คุณค่าของเพื่อนไม่เลือนใจ
แม้ยามที่มีทุกข์มารุกเร้า
เธอก็เฝ้าปลอบขวัญหายหวั่นไหว
แม้ก้าวพลาดพลั้งบ้างไม่ตั้งใจ
เธอก็ให้คำเตือนเหมือนเคยมา
ฉันสุขมากเมื่อมีเพื่อนที่รัก
ซึ้งตระหนักน้ำใจที่ใฝ่หา
ความสัมพันธ์จึงชิดสนิทมา
ซึ้งเกินกว่าเป็นเพื่อน..อย่างเพื่อนใจ
เวียนบรรจบครบปีอีกปีหนึ่ง
ฝากใจซึ้งมามอบตอบไฉน
ฝากความรักภักดีมีจากใจ
ฝากแทนพรปีใหม่มาให้เธอ
28 ธันวาคม 2552 22:59 น.
อรรธนิศา
นึกแล้วน้อยใจตนคนอาภัพ
ขอยอมรับว่าใจเคยไหลหลง
แต่เดี๋ยวนี้ซิใจไม่มั่นคง
คอยพะวงกลัวเขาเฝ้าระแวง
เธอไม่เคยจะเป็นคนเช่นนี้
ฉันเคยมีหรือใจคิดหน่ายแหนง
แต่ทีท่าของเธอเผลอเปลี่ยนแปลง
มันแสดงออกได้ในวจี
ถึงไม่บอกฉันก็พอจะรู้
ตรองคิดดูให้ซึ้งจึงหลีกหนี
ฉันเปลี่ยนแปลงอย่างใดในไมตรี
ก็ยังมีเหมือนเดิมแต่เริ่มมา
นึกแล้วน้อยใจตนคนอาภัพ
ไม่อยากรับรู้เห็นเช่นนี้หนา
ยามใดที่นึกถึงตรึงอุรา
หยาดน้ำตาใสใสก็ไหลริน
26 ธันวาคม 2552 23:15 น.
อรรธนิศา
พักคารมนมนานเกรงหวานด้อย
คิดถึงต้อยเกินจักหักห้ามไหว
จึงประดิษฐ์คิดถ้อยร้อยจากใจ
ส่งมาให้ได้อ่านผ่านอย่างเคย
อยากปะทะคารมคมคำหวาน
กับนงคราญเช่นก่อนวอนเฉลย
ทุกทุกถ้อยต้อยย้ำคำเปรียบเปรย
เข้าใจเอ่ยอ้างคำด่ำดื่มใจ
น้ำคำต้อยร้อยให้ไพเราะเหลือ
อ่านไม่เบื่อเมื่อเหงาเศร้าไฉน
พี่อ่านแล้วอ่านซ้ำจำติดใจ
จิตสดใสยิ่งล่ำด้วยคำเธอ
มีบางครั้งออดอ้อนแสนอ่อนหวาน
พาดวงมานซ่านซึ้งถึงเสมอ
ถึงน้ำตาลหวานด้อยถ้อยคำเธอ
ที่เสนอมาสมานสานไมตรี
พี่มีแต่โลกฝันแสนบรรเจิด
งามพริ้งเพริศน่าอยู่ดูสุขขี
สุขอยู่ได้ด้วยฝันอันโสภี
บทกวีร้อยกรองคล้องหทัย
เมื่อเงียบเหงาเศร้าทุกข์ช่วยปลุกปลอบ
ให้ชื่นชอบเสพสุขทุกสมัย
ยามคิดถึงคะนึงหาเหลืออาลัย
กล่อมฤทัยด้วยบทกลอนพอหย่อนใจ
แม้ยามนี้เหว่ว้าแลหาเพื่อน
เปรียบดังเดือนข้างแรมไม่แจ่มใส
ถึงมีเพื่อนก็ไม่เหมือนดัง เพื่อนใจ
คอยอยู่ใกล้ได้ชื่นรื่นกมล
พี่จะรอพบอยู่ในโลกฝัน
เพื่อพบกันชื่นสุขทุกแห่งหน
หากมีเธออยู่ใกล้ไร้กังวล
ดังสายฝนชุ่มชื้นพื้นพสุธา
ยูงทอง อาจสดชื่นกลับยืนต้น
ด้วยน้ำฝน น้ำใจใช้รักษา
กลีบที่เหี่ยวคงฟื้นคืนชีวา
ผลิดอกมางดงามคู่ จามจุรี
แม้จะไม่สูงเทียบเปรียบดอกฟ้า
ถึงคุณค่าจะด้อยน้อยศักดิ์ศรี
ก็ยังคงความงามตามมาลี
หากยินดีประดับไว้ในแจกัน
25 ธันวาคม 2552 21:28 น.
อรรธนิศา
ถ้าตรงนี้มีเพลงบรรเลงกล่อม
ฉันจะยอมทรุดนั่งฟังเสียงหวาน
ให้ดนตรีสู่โสตปราโมทย์มาน
คงสำราญกว่าแดน แคว้นใดใด
หากมี เธอ อยู่ด้วยช่วยปลอบจิต
จะไม่คิดเหห่างร้างไปไหน
ฟังดนตรีมี นาง เคียงข้างใจ
สุขอันใดไหนเล่าจักเท่าเทียม
25 ธันวาคม 2552 19:50 น.
อรรธนิศา
แล้ววันที่คอยรอก็มาถึง
วันที่ซึ่งสำเร็จเสร็จสมหมาย
แม้เป็นเพียงก้าวแรกที่เยื้องกราย
แต่ก็คล้ายเป็นก้าว..ก้าวต่อไป
พ่อและแม่ดีใจเป็นที่สุด
ที่ "ลูก" รุดก้าวย่างอย่างผ่องใส
เรียนสำเร็จสมหวังที่ตั้งใจ
พ่อแม่ก็ ภูมิใจในอุรา
ขอให้ก้าวต่อไปในชีวิต
ให้สิ่งคิดสมมาดปรารถนา
วันนี้เป็น "วันดี" แสนปรีดา
รับปริญญาเป็น "บัณฑิต" ได้ชิดชม