1 กุมภาพันธ์ 2555 20:20 น.
อนงค์นาง
น้ำค้างปอดหายแล้วนะแก้วตา
ดีใจว่าไม่ตายได้คลายหมอง
มีเวลาฟื้นไข้สมใจปอง
ร่างกายต้องดูแลให้แน่ใจ
เพราะกรรมเก่ามีควรทำดีต่อ
ทุกวันขอให้คิดจิตแจ่มใส
ไม่ขึ้งเคียดโกรธเขาให้เศร้าไป
ควรอภัยให้กันสุขสันต์ครอง
ทำหน้าที่ต่อไปอย่าได้ท้อ
ทำงานต่อสร้างตัวไม่มัวหมอง
สุจริตซื่อสัตย์ประหยัดตรอง
ครอบครัวคล้องความรักสามัคคี
เพราะความตายมาใกล้ไม่ประมาท
ไม่ถึงฆาตบุญช่วยไม่ม้วยหนี
สร้างบุญต่อควรทำแต่กรรมดี
โรคภัยมีให้หายมลายไป
ดิฉันเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมค่ะ เพราะปวดท้องอย่างแรง ต้องผ่าตัดลำไส้เพราะมีสิ่งกีดขวางทำให้ลำไส้พันกัน และผ่าไส้ติ่งแบบทูอินวัน กลับบ้านวันที่ 24 มกราคม ยังมีน้ำค้างในปอดข้างขวา ออกกำลังกาย คุมอาหารตามคำแนะนำของแพทย์ ได้เิ๊อ๊กซเรย์หน้าอกหลังจาก 7 วันผ่านไป ปอดปกติหายดีแล้วค่ะ วันศุกร์นี้หมอจะนัดตรวจดูว่าแผลผ่าตัด เป็นอย่างไร ทุกอย่างโอเคไหม
ได้รับบิลค่าใช้จ่ายมาแล้วค่ะ ทั้งหมด 4,428.26 เหรียญ มีระบบประกันสุขภาพคุ้มครองให้ทั้งครอบครัว ปกติหักจากเงินเดือนๆละ 158 เหรียญ นอกนั้นรัฐบาลจ่ายสมทบให้เป็นสวัสดิการ สรุปว่าต้องจ่ายเองในการรักษาพยาบาลครั้งนี้ 125 เหรียญ
ดีใจที่ความเจ็บปวดได้หายไป เพราะทรมานมากก่อนผ่าตัด
ต้องขอบคุณแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนจาก Peconic Bay Medical Center ที่ได้ดูแลรักษาช่วยชีวิตไว้
ขอบคุณสามีและลูกๆ ที่ช่วยกันดูแลด้วยความรัก
ขอบคุณการไปรษณีย์อเมริกาที่มีสวัสดิการให้ทุกอย่าง ให้ลาป่วย ได้พักฟื้น และได้เงินเดือนตามปกติ
ขอบคุณเพื่อนบ้านกลอนทุกท่านที่มีน้ำใจให้ความห่วงใยและกำลังใจ คนไทยใจดีมีเมตตาจริงๆค่ะ
โลกใบนี้ไร้พรมแดน ไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา เพศ และวัย ความกรุณาปราณีมีเสมอ ขอให้เราเป็นคนดี รู้จักหน้าที่ของตน ถึงเวลาลำบากจะมีคนช่วยให้พ้นภัย เพิ่งบอกแม่และพี่ๆที่เมืองไทยเมื่อไม่กี่วันนี้ค่ะ เพราะไม่อยากให้เป็นห่วง
30 มกราคม 2555 00:46 น.
อนงค์นาง
เรือชีวิตลอยล่องท่องสมุทร
ไม่อาจหยุดกลางคลื่นวันคืนหมุน
แม้เหนื่อยยากปลอบกันวันการุณย์
ครอบครัวอุ่นไอรักสามัคคี
ทุกอาชีพต้องสู้อย่าดูเฉย
ไม่ละเลยการงานสานศักดิ์ศรี
ค่าของคนผลงานผ่านความดี
รางวัลมีตอบแทนแม้นไม่รวย
ทำงานจ่ายภาษีมีหลักฐาน
ไม่เกียจคร้านหน้าที่ดีกว่าหวย
ไม่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คิดอยากรวย
ตื่นนอนช่วยทำกินไม่สิ้นใจ
จะไทยเทศอยู่ไหนไม่เกียจคร้าน
สร้างผลงานให้ดีมี่ค่าไหม
จะลูกจ้างเจ้านายช่วยพายไป
พึ่งกันได้สังคมสมผู้ดี
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอย่าหมิ่น
ต่างหากินกันไปในวิถี
ความซื่อสัตย์ขยันหมั่นทำดี
อดออมมีสินทรัพย์ไม่อับจน
ไม่ทอดทิ้งลูกหลานการศึกษา
พัฒนาก้าวไปให้เกิดผล
ทุกอาชีพทำเถิดเกิดเป็นคน
จงอดทนผลกรรมหมั่นทำดี
ชีวิตในต่างแดนของดิฉันเริ่มจากงานล้างจานในร้านอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่เป็นโสด ต้องลากถุงขยะที่แสนหนัก เดินขึ้นลงบันไดขนของเก็บใส่ตู้เย็น ใส่ชั้นวางของ ได้เงินชั่วโิมงละห้าเหรียญ แต่งงานมีลูกคนโต กลับเมืองไทยเพราะแม่ป่วยหนัก งานแรกที่ได้ทำคือเลขานุการเจ้าของโรงเรียนเซนต์เทเรซ่าหัวหมาก ได้เงินเดือนสองหมื่นห้าตอนอายุ 34 ปี เจ้านายเป็นสุภาพสตรีที่ใจดี สอนงานให้ทุกอย่าง ได้นั่งรถเบ้นซ์ตามเจ้านายไปทำงาน ไปกินเลี้ยงตามโรงแรม เงินดีแต่ไม่ใช่ชีวิตที่ปรารถนา ลูกคนโตเข้าอนุบาลที่โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ที่บางกะปิ มาเซอร์ครูใหญ่ชวนไปเป็นครูสอนอังกฤษ ได้หนึ่งปี มีการเปิดสอบบรรจุตำแหน่งพนักงานบริหารทั่วไป ระดับสามเอกอังกฤษ ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย รุ่นนั้นดิฉันสอบได้ลำดับที่หนึ่งของประเทศ ไม่มีเส้นสายใดๆทั้งสิ้นสาบานได้ค่ะ ได้บรรจุในกองควบคุมคุณภาพบริการไปรษณีย์ จนสามีที่เคยทำงานกับบริษัทพรประภาสอบบรรจุได้เป็นปลัด อบต ที่บ้านเกิด ดิฉันลาออกไปสอบบรรจุครูที่กาฬสินธุ์ เป็นโรงเรียนอยู่ในป่า ไม่มีบ้านพักครู ห้องเรียนเป็นหลังคามุงจาก เดินทางไปกลับจากบ้านที่ร้อยเอ็ดทุกวัน จนครบสองปีได้ย้ายกลับบ้านเกิด แต่คนละอำเภอ เป็นโรงเรียนระดับตำบลในชนบท พอลูกขึ้นม.สอง ตัดสินใจพาลูกกลับมาเรียนต่อที่นิวยอร์คอีกครั้งเพราะลูกเกิดที่นี่ มีสิทธิเรียนฟรีจนจบมัธยมปลาย ช่วงสิบปีที่ทำงานในไทย ได้ดูแลรักษาแม่จนหายจากโรคร้าย ถึงได้กลับมาต่างแดนอีก ก็มาเริ่มทำงานร้านอาหาร ร้านซักผ้า ชั่วโมงละเจ็ดเหรียญ เป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลคนไข้ตามบ้าน ทำงานวันละสามที่ จนสอบบรรจุได้งานไปรษณีย์ ถูกส่งมาประจำเกือบสุดเกาะ สามีทำงานในโรงงาน ต้องยืนคุมเครื่องจักรทั้งวันช่วยวิศวกร ตอนนี้กำลังเรียนภาษาเพราะบริษัทมีทุนให้ศึกษาต่อด้านวิศวกรรม ก็ต้องสู้กันต่อไปจนกว่าจะไม่มีงานทำ เราลำบากมาด้วยกันค่ะ เขาเคยทำงานล้างจาน ร้านซักผ้าเหมือนกัน เราช่วยกันจนต่างคนต่างมีงานที่ดีกว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆด้วยการพนัน หรือฝากความฝันกับหวย เรายังไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ลูกยังเรียนไม่จบ เรามีวิถีชีวิตของเราตามที่เลือก ไม่เคยดูหมิ่นเงินน้ิอย ไม่คอยวาสนา ทำงานค่ะ แม้จะเป็นลูกจ้าง แต่ไม่เคยดูหมิ่นนายจ้างหรือคนทำมาหากินทุกอาชีพ จะไทยหรือเทศก็คนเหมือนกัน คนไทยที่ทำงานให้ต่างชาติที่มาลงทุนในบ้านเราก็มีมากมาย ทั้งญี่ปุ่น อเมริกา จีน อย่าดูถูกอาชีพใคร ให้มองดูตนเองว่าเคยทำความดีอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง
เมื่อวานไปยื่นเสียภาษีรายได้กับสามีค่ะ เราจ่ายภาษี ณ ต้นสังกัดทุกครั้งที่ได้รับเงินเดือน พอต้นปีจะต้องยื่นแบบแสดงการเสียภาษีปี 2011 ปีนี้ได้คืนสามพันเหรียญเศษๆ ดิฉันทำงานมาตลอดทั้งในไทยและต่างแดน ที่นี่รัฐบาลจะเก็บเงินสะสมที่จ่ายภาษีไป ไว้คืนให้ตอนเกษียณ จะได้มีกินมีใช้ตอนแก่
ส่งเงินกลับเมืองไทย ออมทรัพย์กับธนาคารออมสิน ทำงานตั้งแต่สาวจนย่าง 52 ยังไม่เคยหยุดเลยค่ะ ขอให้ซื่อสัตย์ สุจริต แม้ไม่มีธุรกิจของตน ไม่ร่ำรวย เป็นแค่มนุษย์กินเงินเิดือน จงอดทนต่อไป เหมือนน้ำซึมบ่อทราย ถนัดทางไหนก็ทำทางนั้นให้ก้าวหน้า อย่าดูหมิ่นเงินน้ิอย อย่าคอยวาสนา อย่าเล่นการพนัน หรือข้องแวะยาเสพติด