10 เมษายน 2545 22:33 น.
อตีตะโศก
อย่าดูถูกว่าพวกฉันนั้นต่ำต้อย
แม้ฉันด้อยไม่เคยคอยวาสนา
ด้วยปากท้องและลูกเมียยังต้องยา
ฉันต้องหาเงินมาเจือเผื่อทุกคน
แม้นฉันไม่ได้อยู่ถิ่นที่ฉันเกิด
แต่ฉันเทริดทูนไว้ไม่เคยหลง
ใต้ร่มโพธิสมภารยังยืนยง
ให้ฉันคงยืนหยัดสู้คู่ฟ้าไทย
เงินทุกบาทได้มาด้วยหยาดเหงื่อ
บางส่วนเพื่อช่วยประเทศให้สดใส
ฉันนี่แหละนักรบแรงงานไทย
รบด้วยใจที่คิดดีมีแก่พงษ์
8 เมษายน 2545 21:50 น.
อตีตะโศก
เสียงลมหวนรวนเรระเห่จิต
ในใจคิดวาบหวิวละลิ่วหา
อยากชื่นอยู่ในความรักทุกเวลา
รักไม่มาแม้นาทีให้ดีใจ
ฉันยังอยู่ในวัยที่ใสสด
ยังจำจดอยู่ในความสดใส
และไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไป
แม้ภายในยังรู้ไว้ไม่มีวัน
ฉันอยากใช้ความเป็นไปในวัยรุ่น
ที่คุกรุ่นเต็มไปด้วยสีสัน
อยากให้สีไม่จางไปแม้นนานวัน
ว่าไปครันไม่ต้องบอกหลอกตัวเอง
ฉันต้องการความรักที่ยิ่งใหญ่
มาจากความจริงใจใช่ข่มเหง
อยากจะมีเพื่อนใจเพื่อบรรเลง
ดนตรีเพลงแห่งความรักที่ปักใจ
ฉันอยากมีอำนาจราชศักดิ์
คนคำนับกราบกรานทั้งน้อยใหญ่
แต่มันก็เป็นได้แค่ฝันไป
ไม่อยากให้ตื่นกลางครันฉันอยากนอน
ฉันจะมีเพื่อนฝูงสักแสนคน
เอาไว้บ่นให้เขาฟังตอนนั่งหมอง
แม้นชีวิตจะเดินไปตามครรลอง
แต่ความฝันไม่อาจต้องด้วยเวลา
ฉันตื่นขึ้นงัวเงียแสนเพลียนัก
เพราะเมื่อคืนงานแสนหนักเป็นนักหนา
แต่หันหลังฉันยังนอนอยู่นี่นา
โอ้ไม่น่าตัวฉันชาเหมือนแช่เย็น
นี่ฉันตายไปแล้วจริงหรือนี่
แล้วฝันที่ฉันนึกและตรึกเห็น
ไม่มีทางเป็นได้อย่างที่อยากเป็น
โธ่ลำเค็ญอุตส่าคิดจนจิตมัว
ถ้ารู้งี๊เมื่อวานนี้จะทำบุณ
จะไม่ขุนนั่งคิดจนเวียนหัว
ทุกๆอย่างเปลี่ยนไปไม่รู้ตัว
แล้วจะมัวยึดติดคิดทำไม
7 เมษายน 2545 21:21 น.
อตีตะโศก
โศกโศกาใดๆในหล้าโลก
หรือเทียบโศกเพราะใจที่ใฝ่ฝัน
เพราะอยากจะได้นู่นนี่พัลวัน
ต้องทุกข์กันหามาเปรอบำเรอใจ
ถ้าใจจิตมิติดโศกเพราะโลภเกาะ
ใจคงเคาะสนิมสิ้นอินทรีใส
คงมีสุขโดยมิได้ฝันไป
แต่สุขใจเพราะสุขจริงใช่สิ่งลวง