6 เมษายน 2548 00:31 น.
หิ่งห้อย เพียงดิน
ชีวิตนี้ดีร้ายคล้ายหนังสด
ก่อกำหนดของชีวิตติดฟิล์มไว้
ภาพอดีตปัจจุบันนั้นติดใจ
ฟิล์มม้วนใหญ่คือจิตใจใฝ่จดจำ
เจ้าสัญญาอารมณ์นิยมฉาย
ที่โรงกายฉายประกอบรอบบ่ายค่ำ
หนังเรื่องยาวแต่ก็หยาบภาพขาวดำ
ผู้ถ่ายทำนั่นหรือคืออารมณ์
นายกิเลสผู้กำกับรับเขียนบท
นึกกำหนดปรุงแต่งแสดงผสม
บทสัมผัสรัดกอดยอดนิยม
นายอารมณ์ถ่ายทำล้ำเวลา
พระเอกหล่อเลื่องลือชื่อนายรัก
คนรู้จักโจษจันกันถ้วนหน้า
ดาราร้ายนายเกลียดชังดังขึ้นมา
นายตัณหาก็มาด้วยช่วยกันแสดง
นายโลภเล่าเข้ารับบทกดนายโกรธ
ดูเหี้ยมโหดเหี้ยนระห่ำก่อกำแหง
ฝ่ายนายหลงส่งสัญญาผ่าไฟแดง
ผู้ปรุงแต่งประสานสื่อคืออารมณ์
พากย์หนังสดหมดเวลาขอลาก่อน
ฉายครึ่งตอนกำลังดีสีแสงสัน
หากสนใจไปติดต่อก็พอทัน
เรารอท่านยกจอใหญ่ไปบริการ
23 พฤศจิกายน 2547 12:14 น.
หิ่งห้อย เพียงดิน
รักร้างห่างไกลรัก..........................ร้อนรุ่มนักหนอรักลวง
รักเราเฝ้าห่วงหวง.........................แต่พุ่มพวงลวงรักเรา
รักเอยเคยฉ่ำหวาน.......................ต้องร้าวรานพาลให้เศร้า
รักเอ๋ยหนอรักเรา..........................ต้องอับเฉาเพราะเขาลวง
รักร้างเพราะนางไกล.....................ดูหรือใจใยไม่ห่วง
รักร้างเพราะนางลวง.....................เจ็บช้ำทรวงดวงฤทัย
รักแรกแปลกใจนัก......................รักดุจจักกลืนกินได้
รักหนอพอนานไป........................แล้วรักใยไม่ยั่งยืน
รักใครให้ชั่งจิต............................พักสักนิดอย่าคิดฝืน
รักช้ำและกล้ำกลืน........................รักขมขื่นหากฝืนใจ
รักเอ๋ยหนอรักร้าง........................กว่าจะสร้างขึ้นมาได้
รักหนอรอรักใคร.........................ที่จริงใจให้รักเรา
รักแท้คือแม่รัก............................ได้ซบตักพักคลายเหงา
รักแท้คือแม่เรา...........................ยามลูกเศร้าเข้าปลอบโยน
รักแท้แม่ยอมได้..........................เพื่อลูกสบายไม่สับสน
รักแท้แม่ยอมทน.........................แม้ยากจนไม่บ่นคำ
รักหนอพ่ออีกหนึ่ง........................สุดซาบซึ้งตรึงจิตหนำ
รักหนอพ่อจึงพร่ำ.........................เอ่ยเป็นคำจำนรรจา
รักหนอพ่อสอนลูก........................สิ่งผิดถูกลูกรู้ว่า
รักหนอพ่อเมตตา.........................พ่ออุตส่าห์พาก้าวไกล
รักแกร่งเพราะแรงพ่อ..................ยามลูกท้อพ่อยื่นให้
รักทั้งกำลังใจ................................ส่งลูกให้ได้เป็นคน
รักหนอพ่อแม่จ๋า...........................ลูกจะฝ่าแม้ห่าฝน
รักหนอขอดั้นด้น..........................แม้อับจนหนทางไป
รักนี้มีแม่พ่อ................................ก็เพียงพอต่อสู้ได้
รักเอยเคยไหมใคร.....................เทียบท่านได้ไม่เห็นมี
รักจริงหนอหญิงใด......................มอบใจให้ได้สุขี
รักอย่างที่ท่านมี...........................คงสุขีและปรีย์เปรม
รักร้าวขอก้าวไป..........................แม้ดวงใจไม่เกษม
รักปริ่มคงอิ่มเอม.........................คงเกษมเข้าสักวัน
23 พฤศจิกายน 2547 12:01 น.
หิ่งห้อย เพียงดิน
โอ้เหนื่อยหนักนักแล้วแก้วตาพี่
ไร้ฤดีแรงดลเกินทนไหว
ระทดทรวงดวงจิตคิดถอดใจ
ทำไฉนไฟส่องไม่ผ่องพา
ก้าวเหยียบย่างทางฝันอันยาวเหยียด
รักโกรธเกลียดเคียดชังประดังหา
ทั้งสุขเศร้าเคล้ากล่นปนน้ำตา
สุดจะฝ่าคว้าไขว่ได้เจียนตาย
อยากจะหยุดฉุดฝันมันเท่านี้
เส้นทางมีทุกข์ทนหม่นแสงฉาย
ไร้ตะวันจันทราดาราราย
ส่องประกายฉายช่วงดวงฤดี
อยากพักผ่อนหย่อนกายคลายเหน็ดเหนื่อย
ริมธารเอื่อยเรื่อยรางหว่างวิถี
เก็บแรงเราเท้าย่างกลางราตรี
เพื่อพรุ่งนี้มีแรงเร้าเข้าระดม
23 พฤศจิกายน 2547 11:57 น.
หิ่งห้อย เพียงดิน
หรือว่าลืมตำนานม่านฟ้าสาง
หรือว่าลืมหนทางจึงจางหาย
หรือว่าลืมแดนดินถิ่นเกิดกาย
หรือว่าลืมความหมายสายสัมพันธ์
หรือสิ้นแล้วสายใยใต้สำนึก
หรือมัวตรึกนึกถึงซึ่งความฝัน
หรือเจอหลากขวากหนองต้องฝ่าฟัน
หรือไหวหวั่นอันใดไม่ย้อนมา
หรือว่ามัวหลีกเลี่ยงคิดเบี่ยงบ่าย
หรือแหนงหน่ายทรนงในวงศาย์
หรือผูกเหน็บเจ็บแสบแปลบอุรา
หรือเหว่ว้าระอาใจในกมล
หรือว่านึกย้อนรอยแล้วน้อยจิต
หรือชีวิตตกอับคิดสับสน
หรือชีวิตขัดข้องต้องอดทน
หรือเกลือกกล่นกลัดกลุ้มร้อนรุ่มใจ
หรือตกอับทรัพย์จ่ายรายได้น้อย
หรือท้อถอยคอยแต่แค่อาศัย
หรือต่อสู้อยู่ย้ำระกำใจ
หรือปล่อยกายปล่อยใจให้เป็นพาล
หรือปกปิดชีวิตเศร้า..เอาใจสู้
หรือเพียงอยู่อยู่ไปไร้หลักฐาน
หรือหมกมุ่นชีวิตด้วยกิจการ
หรือจุ้นจ้านจับเจ่าเมากามา
หรือวางแผนพัฒนาอนาคต
หรือเก็บกดกัดฟันหมั่นศึกษา
หรือชอกช้ำน้ำใจใยไม่มา
หรือลืมว่าข้านี้มีแม่พ่อ
สิ้นกระแสสื่อสารมานานแล้ว
สิ้นวี่แววแนวคิดการติดต่อ
สิ้นกระแสสายใยกลั้นใจรอ
อกแม่พ่อขอเพียงเห็นก็เป็นสุข
กลับมาบ้านสานใยให้เหนียวแน่น
กลับมาแคว้นแดนเราเร้าปลอบปลุก
กลับมาดูพ่อแม่แก่เป็นทุกข์
กลับมาปลุกความรักรักบ้านเรา
23 พฤศจิกายน 2547 03:26 น.
หิ่งห้อย เพียงดิน
ครรภ์มารดาคือที่มาของชีวิต
โรงงานผลิตเส้นเอ็นเป็นแขนขา
อันเนื้อหนังทั้งหลายที่ได้มา
ด้วยบิดามารดาท่านปราณี
โลกแห่งครรภ์มารดาเคยอาศัย
จำได้ไหมในโรงงานสถานที่
เราอาศัยโรงงานนานนับปี
ได้อยู่ดีกินดีที่โรงงาน
อันวงจรการผลิตชีวิตนี้
สารเคมีแม่พ่อก่อพื้นฐาน
ท่านผู้ให้กำเนิดเกิดรูปปราณ
ดวงวิญญาณสิงสู่เป็นผู้คน
อันเลือดเนื้อทั้งหลายได้มานั้น
ท่านแบ่งปันให้มาค่ามากล้น
กว่าจะเห็นเป็นร่างตั้งตัวตน
ท่านอดทนอุ้มท้องประคองกาย
โอ้..พระคุณมารดาผู้กล้าหาญ
ทรมานเสี่ยงภัยไม่หันหาย
ขอให้ลูกในครรภ์นั้นสุขสบาย
แม่ยอมตายแน่แท้แผ่เมตตา
ขอให้ลูกปลอดภัยใจจดจ่อ
แม่เฝ้ารอเช้าเย็นอยากเห็นหน้า
ครั้นเมื่อลูกแม่คลอดรอดออกมา
แม่อาสาเสี้ยมสอนป้อนนมเนย
อันสายตาทั้งสองของคุณแม่
ชำเลืองแลสายเปลเห่ระเหย
แม่เอื้อนเอ่ยเสียงอ้อน นอนเถิดเอย
เอ้อระเหยเอ่ยเพียงเสียงแผ่วเบา
แม่ปวดเมื่อยเหนื่อยกายแต่ใจสุข
เพียงเพื่อลูกสดใสใช่หรือเปล่า
แม่แผ่รักไปให้ไม่หวังเอา
แม่ให้เปล่าเข้าใจไหมให้ตรองดู
แม่ไม่เคยลำเอียงเอ่ยเสียงบ่น
แม่อดทนกัดฟันหมั่นต่อสู้
แม่ให้ความมั่งคั่งเป็นทั้งครู
แม่คือผู้ประเสริฐบังเกิดเรา
ท่านให้เราเราให้ท่านนั้นมีไหม
ท่านผู้ให้ใครดูแลยามแก่เฒ่า
ท่านยากไร้ใครดูแลแม่ของเรา
ท่านให้เปล่าเราผู้รับกลับหมางเมิน
ท่านให้เราเราให้ท่านนั้นดีแน่
จงเผื่อแผ่เทิดทูนท่านด้วยสรรเสริญ
พระคุณท่านนั้นมากล้นพ้นประเมิน
เพียงสรรเสริญยังไม่ซึ้งถึงพระคุณ