28 มีนาคม 2554 04:11 น.

* * * คนธรรพ์.... รำพันรัก.... ^^" * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ

   
แม้ความรัก  ภักดี  จะมีค่า
แต่จะหา  ประโยชน์ใด  หรือใจเอ๋ย
เมื่อรักเรา  ไม่มีค่า  ใดใดเลย
มีแค่เผย  ความชัง  จนฝังใจ

ขอเก็บรัก  ภักดี  ที่มีอยู่
ไว้มอบผู้  ที่เขา  รักเราได้
คงสดชื่น  รื่นรมย์  สมฤทัย
ดีกว่าไป  รักร้าง  อย่างยอมทน

ถึงใครเกลียด  เหยียดหยาม  ตามนิสัย
ให้อภัย  เขาเถิด  เกิดมรรคผล
จะอดกลั้น  ต่อไป  ใจจำนน
เพราะแค่คน  เดินดิน  ธรรมดา

จะอดทน  อดกลั้น  ถือขันติ
และครุ่นคิด พิจารณา  อุเบกขา
พยายาม ทำใจ  ให้เมตตา
กรุณา  ต่อเขา  เท่าวันวาน

วันนี้มา  เพียงพบ  เพื่อจบฉาก
แม้ไม่อยาก  พบกัน  สร้างวันหวาน
พบแล้วทุกข์  มีสุขเพื่อ  ทรมาณ
แล้วจึงผ่าน  เลยไป  มิได้พบ

สิ่งที่เหลือ  เมื่อจาก  คือซากเศร้า
คืนวันเก่า  เตือนใจ  ไม่เลื่อนหลบ
เสียดายวัน  สดใส  มลายลบ
ต้องมาจบ  ด้วยฉาก  ที่จากลา

เก็บความเศร้า  เอาไว้  อย่าให้เห็น
แล้วทำเป็น  มีความสุข  สุดหรรษา
ยิ้มกับความ  เหงาเหงา  ธรรมดา
ฉุดวิญญาณ์  ให้อยู่  คู่กับใจ

ลืมอดีต  ขีดคั่น  บั่นทอนจิต
สร้างชีวิต  โศกสลด  เพื่อสดใส
มองโลกอย่าง  สร้างสรรค์  อันอำไพ
ปลดทุกข์ให้  หมดสิ้น  ชีวินเรา

ก่อนนี่รัก  เป็นเช่นไร  ไม่เคยรู้
ชีวิตอยู่  อย่างคน  ทนอับเฉา
บัดนี้รู้  จึงได้เจ็บ  เกินคาดเดา
ขาดรักเขา  คล้องชีวิต  นิจนิรันดร์

โอ้ใจเอ๋ย  ใจจ๋า  ใยอาภัพ
ดั่งเดือนดับ  จากห้วง  สรวงสวรรค์
หรือใจต้อง  ครองตน  เยี่ยงคนธรรพ์
ความรักนั้น  จึงห่างหาย  ให้รำพึง

อนาถนัก  รักแล้ว  มาแคล้วคลาด
ใจแทบขาด  เพราะพิษ  ความคิดถึง
ทุกคืนวัน  ฝันเศร้า  เฝ้าคะนึง
ใครคนหนึ่ง  รู้ไหม  ใครคร่ำครวญ

ในจิตใจ  คิดทวน  คร่ำครวญหา
ด้วยสายตา  ห่วงใย  ได้คิดหวน
เขียนกลอนกานต์  จากใจ  ให้ชื่นชวน
อบอวลด้วย  กลิ่นไอรัก  ที่ภักดี

อย่าเยาะเย้ย  เลยหัวใจ  มิใช่หิน
จะได้ชิน  ชาทน  คนเสียดสี
แม้ไม่เขื่อง  เฟื่องยศ  เช่นใครมี
แค่คนที่  มาเยือน  เปื้อนมลทิน

เกิดเป็นคน  ทนอยู่  อย่างรู้ศักดิ์
จะตระหนัก  คุณค่า  กว่าทรัยพ์สิน
ไม่ได้อ้อน  วอนร้อง  ขอใครกิน
อย่ามาหมิ่น  ให้ขุ่นข้อง  หมองใจกัน

แค่อยากมี  ที่รัก  สักคนหนึ่ง
ได้รู้ซึ้ง  ข้างใน  จิตใจฉัน
มีความสัตย์  ซื่อตรง  มั่นคงกัน
ทุกคืนวัน  คงมีสุข  สิ้นทุกข์ใจ

ทุกวันนี้  มีแต่  แค่ล้ำล่วง
ประดุจลวง  รักเล่น  เช่นของใหม่
จะขอคืน  รักนี้  ที่ให้ไป
เกรงฤทัย  แหลกสลาย  มลายลง

จะยืนหยัด  กัดฟัน  แม้หวั่นไหว
ถึงหัวใจ  จะยุ่ย  เป็นผุยผง
ขวัญยังอยู่  กับฉัน  อย่างมั่นคง
ไม่พะวง  แม้จะสิ้น  คนปราณี

มีชีวิต  จิตใจ  เช่นมนุษย์
ถึงที่สุด  ของทุกข์  สิ้นสุขศรี
เลือกเดินทาง  เส้นไหน  จะได้ดี
จึงจะมี  ความสุข  สิ้นทุกข์ใจ

คงยังมี  ชีวิต  ไม่คิดสั้น
ความมุ่งมั่น  ยังอยู่  ไม่ไปไหน
เพียงพลาดหวัง  พลั้งลง  นั่งปลงใจ
ปล่อยชีพให้  รัดทด  ต้องอดทน

ในระหว่าง  ทางที่  มีขวากหนาม
พยายาม  เดินไป  ให้เกิดผล
แม้ประหวั่น  พรั่นพรึง  ตรึงกมล
สักวันหนึ่ง  จะค้นพบ  ทางของเรา

สักวันหนึ่ง  จะค้นพบ  คนของเรา



รูปนี้ถ่ายตอนลงจากเขาคิชฌกูฎเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ก็ไปขอพรให้พี่คนหนึ่งเหมือนเดิมค่ะ  ไม่ได้ขออะไรให้ตัวเองเลย  ^^"       


				
27 มีนาคม 2554 19:36 น.

* * * ตามล่า....หาสามี อิ ๆ ๆ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ

     

มีคนถาม  ว่ามาหา  สามีหรือ
อ้า เอ้อ อือ.... อ้ำอึ้ง  ตอบไม่ได้
ว่าจะหา  สามี  หรืออะไร
ถามตรงไป  มั้งพี่  ไม่ดีเลย

หนูก็คง  เป็นหญิง  ถึงจะร้าย
ก็ยังอาย  อยู่น่า  อย่าเปิดเผย
หาสามี  หรือชู้  เป็นคู่เชย
อย่าเฉลย  น่านะ  มันไม่ดี

ว่าแต่ว่า  มีไหม  ในบ้านกลอน
ที่จะสอน  ให้น้อง  ต้องสุขี
มีความรัก  ประดับไว้  ในชีวี
จะเป็นที่  เท่าไหร่  ไม่สำคัญ

อุตสาห์โพส  รูปร่าง  อย่างจะจะ
หนูก็กะ  ว่าคงมี  สักคนหวั่น
เอนเอียงมา  ชอบน้อง  ต้องใจกัน
แล้วสักวัน  พบหน้า  มาชื่นใจ

จะเป็นกิ๊ก  เป็นชู้  หนูก็เอา
ให้สมดั่ง  เขาว่า  จะกล้าไหม
หนูหิ่งห้อย  เด็กจากดง  คนพงไพร
ขออย่าได้  หยามน้ำหน้า  ว่าไม่จริง

ถ้าอยากรู้  หนูเป็นใคร  ให้ถามเถิด
เด็กดอยเกิด  บนดิน  กินทุกสิ่ง
ร่อนเร่มา  หาที่  พำนักพิง
จะเป็นปลิง  เกาะสักคน  ที่สนใจ

ก็ไม่รู้  ที่บ้านกลอน  มีหรือเปล่า
แต่พี่เขา  บอกมา  น่าสงสัย
ว่าในนี้  มีมาก  หลากจิตใจ
มาคว้าไขว่  หาคน  ผสมพันธุ์


ไม่รู้ว่าจะโกรธดี  หรือไม่โกรธดี

หนูหิ่ง ฯ โพสรูปไว้มากมาย  

ถูกถาม....  ประมาณว่า.... พรีเซ้นต์ตัวเอง

ก็เลยเข้ามาพรีเซ้นต์ตัวเองจริง ๆ ซะเลย  

เผื่อจะหาสามีที่เป็นของตัวเองสักคน

ปรกติได้สามีเป็นของคนอื่นอ่ะค่ะ  


คิก ๆ ๆ ๆ 

เอ....  เลือกรูปไม่ถูก 

รูปไหนดีน๊า....  

รีทัชก็ไม่เป็นด้วยสิคะ  ^^"


รูปนี้  ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ไปขอพรให้พี่คนหนึ่ง  ที่วัดโพธิ์เก้าต้น   จ.สิงห์บุรี          



				
27 มีนาคม 2554 11:49 น.

* * * บทเรียน.... ผ่านเวลา * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ

   

กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนสลับ
บางสิ่งจับไม่ได้ดังใจฝัน
เวลาผ่านล่วงไปในคืนวัน
ไม่อาจผันเปลี่ยนผลด้วยกลใด

หลายสิ่งที่เคยคิดเคยผิดพลาด
กลายเป็นบาดแผลให้ได้หมองไหม้
หวนคิดถึงสิ่งที่ทำถลำไป
ต้องตรมใจหม่นหมองครองทุกคืน

หากแม้ย้อนเวลากลับมาได้
ย้อนจิตใจกลับมาโดยไม่ฝืน
เพียงสักเสี้ยวนาทีที่กลับคืน
แก้ไขความขมขื่นเป็นชื่นชม

หากแม้ย้อนเวลากลับมาได้
จะแก้ไขบางอย่างรั้งขื่นขม
จากอดีตที่ทำให้ช้ำตรม
ชะล้างปมบาดแผลแก้ที่ใจ

แต่ความจริงไม่เป็นดั่งที่คิด
ไม่อาจล้างความผิดและแก้ไข
แต่ก็ยังอยากแก้ด้วยแน่ใจ
จะเริ่มสร้างอดีตใหม่ในปัจจุบัน

ไม่อาจย้อนเวลาให้หวนกลับ
เหตุการณ์ลับล่วงเลยไม่เคยฝัน
อาจจะเกิดสิ่งใดให้รำพัน
ถึงวันนั้นจะเสียใจหรือไม่ดี

อาจต้องทำวันนี้ให้ดีสุด
เช่นมนุษย์ที่ยังหวังสุขศรี
จะชอกช้ำหม่นหมองครองชีวี
ก็สุดที่จะลิขิตพิชิตกาล์

สิ่งต่างต่างผ่านไปให้จำจด
เพื่อเป็นบทเรียนไว้ให้ฝันฝ่า
สิ่งสำคัญตอนนี้มีเวลา
แสวงหาเส้นทางสู่วันของเรา


เฮ้อ ! พรีเซ้นต์ตัวเองซะขนาดนี้  ยังไม่มีใครตกหลุม  เศร้าจัง  ^^"

รูปยังมีอีกเยอะที่   http://www.facebook/Lhing9   นะ  ไปชมได้ อิ ๆ ๆ ๆ

 				
13 มีนาคม 2554 17:29 น.

* * * จะบินกลับหลัง...ยังภูดอย เมื่อหิ่งห้อยถึงฝัน.... อันเป็นจริง * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ




เสมือนหนึ่งหิ่งห้อยไร้ลำพู
บินละหมู่หลงมาจากป่าเขา
เพื่อเสาะหาลำพูให้คู่เงา
ทิ้งลำเนาถิ่นเกิดกำเนิดมา

หวังจะพบต้นหนึ่งซึ่งมั่นคง
จะบินลงพักผ่อนคราอ่อนล้า
อาศัยเงายามแสงตะวันทา
ทาบขอบฟ้าหลบร้อนให้ผ่อนคลาย

และเมื่อถึงคืนแรมได้แจ่มใส
กระพริบให้เห็นแสงอันแรงฉาย
แสงสีส่งตรงตาดูพร่าพราย
บินเริงร่าร่ายรำอย่างหนำใจ

แต่ยากเกินกำลังของหิ่งห้อย
จึงล่องลอยล้าแรงแข่งแสงใส
ยามคืนที่ดาวเดือนเกลื่อนฟ้าไกล
แสงที่ใส่จึงหม่นหมองครองคืนเพ็ญ

ในวันนี้ยังไม่ถึงซึ่งที่ฝัน
แต่สักวันคงอยู่ได้รู้เห็น
แม้ลำบากตรากตรำและลำเค็ญ
จะเคี่ยวเข็ญตนเองเปล่งแสงไฟ

เพียงแค่ขอกำลังใจให้กันบ้าง
ในระหว่างบินฝ่าพายุใหญ่
ผจญหมู่แสงสีที่อำไพ
กลางกรุงไกรค้นถึงซึ่งลำพู �

แม้ตามทางไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ
จะคอยปราบไพรีที่มาสู่
จะอดทนต่อไปไล่ศัตรู
จะยืนสู้ลำพังอย่างชาวดอย

จะจดจำทุกสิ่งเป็นบทเรียน
จะพากเพียรต่อไปไม่ล่าถอย
จะบินมุ่งกลับหลังยังภูดอย
เมื่อหิ่งห้อยถึงฝันอันเป็นจริง ๚ะ๛



รูปนี้เป็นรูปหนูหิ่ง ฯ กับพี่สาว   

ถ่ายที่บ้านเก่าที่เคยอยู่  มุงด้วยหญ้าคา  

ผนังบ้านเป็นไม้ฟาก (ไม้ไฝ่นำมาสับ ๆ ๆ ๆ แล้วผ่าออกเป็นแผ่น)

พอฝนตกต้องหาภาชนะต่าง ๆ มารอง  เพราะหลังคารั่ว....

พอลมพัดก็จะหนาวเข้าไปในบ้าน  ต้องหากระดาษมาปิด  

นาน ๆ ไปกระดาษก็รั่วต้องหากระดาษใหม่มาปิดอีก

แต่ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่รู้จักความทุกข์  ความเหงา  ความเศร้า....เลย

เพิ่งมารู้ก็หลังจากที่ได้สูญเสียคุณพ่อไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

				
11 มีนาคม 2554 08:11 น.

* * * แค่คนไกล.... ที่คิดถึง * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



คิดถึง  กันบ้างไหม
ห่วงใย  กันบ้างหรือเปล่า
ทำไม  ถึงปล่อยให้เรา 
นั่งเศร้า  และสุดเหงา

ไม่รู้  ว่าเธออยู่ไหน
อยู่กับใคร  หรือเปล่า
วานสายลม  พัดเบาเบา
กระซิบเขา  ว่าคิดถึง

อยากรู้  ว่าสบายดีไหม
ยังมีใคร  ตรงนี้คนหนึ่ง
นั่งมองฟ้า  คอยรำพึง
ด้วยคิดถึง  เพียงหนึ่งใคร

แค่อยาก  บอกให้รู้
ว่ายังอยู่  ยังห่วงใย
วันนี้  เป็นคนไกล
แต่มีใจ  ที่หวังดี

ในความทรงจำ  ลึกลึก
ยังคอยนึก  ทุกนาที
เสี้ยวเวลา  เราเคยมี
เป็นช่วงที่  แสนสุขใจ

ผ่านมา  ถึงวันนี้
คนดี  อยู่แห่งไหน
ลืมได้แล้ว  หรืออย่างไร
จึงไม่  ส่งข่าวคราว  ๚ะ๛



				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหิ่งห้อยน้อยใจ