4 มกราคม 2549 23:24 น.
หาดฟ้า&ป่าฝน
ยาวนานในวันเวลาอย่างนั้นหรือความรัก
แม้เธอจักร่ำหา กรุ่นไอเก่าของคืนวันอันแสนอุ่น.
.เปล่าดาย
เธอรู้ไหมรูปรอยของความรักที่ห่มโอบหัวใจ
มันกร่อนพรุนไปในระหว่างทางชีวิต
ที่เราต่างยื้อแย่งความบริบูรณ์ทั้งมวลแห่งโลกวัตถุ
ฉันเหน็ดเหนื่อย-เธออ่อนล้า
ความรักที่ดุจดังสายลมพัดผ่าน อย่าโหยหาเลยคนรัก
เธอจักชิงชังฉันไปไย เพียงแค่ความคาดหวังจากหัวใจเธอต่อฉันมันสูญเปล่า
ฉันมิได้ลบค่าความรักจากหัวใจตัวเองเลยสักนิด
ทว่าหากแต่เป็นวันเวลา กระทั่งภาระอันหน่วงหนักที่กร่อนกรำฉันจนอาจปล่อยปละ ละเลย
ส่วนเสี้ยวบางสิ่งบางอย่างที่เธอเคยได้รับจากฉัน
นั่นแค่เปลือกแห่งรักที่มันกร่อนหายตามกาลเวลามิใช่ รึ!
8 สิงหาคม 2548 05:50 น.
หาดฟ้า&ป่าฝน
( ไม่มีเหตุผลใดใดระหว่างกัน...
เพราะไม่สามารถลบลืมความทรงจำของ.ได้
ไม่มีแม้กระทั่งคำกล่าวลา
...เพราะไม่คิดว่าเราจะจากกัน ยังอยู่ตรงนี้เสมอค่ะ )
เราจากกันแล้วหล่ะคนที่รัก
จากทั้งที่บาดแผลเราเหวะหวะอย่างถ้วนทั่ว
จากทั้งที่เราเองไม่รู้ตัว
จากแพร่งทางรางสลัว ต่างก้าวเดิน
เราจากกันแล้วหล่ะ คนรัก
เธอสำเหนียก ฉันตระหนักความห่างเหิน
ไร้ประโยชน์ จะโลดไปอย่าง หลงทางเดิน
ฉันยับเยิน เธอยับยั้ง ปลาสนาการ
เราจากกันแล้วหล่ะ โอ! คนรัก
กรุ่นไอเก่าเป็นเถ้าปลัก ขมขื่น ขาน
แม้อยากกอบวัน,คืน เคยชื่นบาน
หอบได้เพียงใจสามานย์ของฉันเอง
กอบได้เพียงเถ้าเปล่าดายเท่านั้นเอง...
27 กรกฎาคม 2548 15:22 น.
หาดฟ้า&ป่าฝน
ไม่หรอกน่า!..ความครุ่นคำนึง
วางดินแดนของภาพฝัน นั้นไว้เถิด
ล้มเลิกการหยิบฉวยอันอ้างถึงจินตภาพอันแสนงาม
*ความจริงคือสิ่งที่ปรากฏอยู่แก่ใจ เท่าที่เรารู้ และสัมผัสได้
กระทั่งเหตุและผล
เช่นนั้น ก็ควรแล้ว ที่ข้าฯจักปล่อยวาง
ละวางต่อสิ่งที่ไร้ตัวตน ในดินแดนอันแสนไกล
ในห้วงเวลาที่ไม่มีจริง
กี่ครั้งแล้ว กี่คราแล้ว เล่า
ที่ข้าฯบอกต่อตัวเองเช่นนั้น
สุดท้ายเส้นใยที่หลงเหลือ
บ่มตัวอ่อนของความคิดถึงจนเติบโต
.เสีย เต็มหัวใจ
* = วาทะแห่ง ท่านพุทธทาสภิกขุ จาก ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม โดย ผชป. มกราคม ๒๕๒๖
13 กรกฎาคม 2548 21:41 น.
หาดฟ้า&ป่าฝน
วางดินแดนของความหลัง ณ ฟากฝั่งอันนิ่ง-ก่อ
ดั่งล้วนด่วนร้างจางร่องรอยห่มท้อ
กระนั้นถ้อยรั้นวอนขอ
มิเคยเพียงพอ ต่อดวงใจละโมบคอย
แม้อย่างนั้นสายใยพันธะอันนิดน้อย
หากมิอาจสลายทลายลง ยับย่อย
ข้าฯยังอยู่กับเลือนจางแห่งร่องรอย
ใจไม่คร่ำปล่อย รึ พลอยว่าปวดร้าว
กระไรใช่หวาดท้อ แม้ฤดูกาลก่อเหน็บหนาว
ทว่า วลีแห่งปรัชญ์แว่วสู่คำนึง ตรึงราว-
ถ้อยนั้น สลักเสลา
ฟังว่า คืนหนาว ยาวนานเสมอ*
* ถ้อยวลีจากที่ใดที่หนึ่งที่ข้าพเจ้าจดจำมิได้
ต้องกราบขออภัยที่ยกมาทั้งประโยค...
9 กรกฎาคม 2548 20:27 น.
หาดฟ้า&ป่าฝน
จิบแสงจันทร์วางเจิดจ้า เดียวดาย
กรุ่นอุ่น ใต้เงาปรายฝากฟื้น
เจ้าหลับข้าฯกลับรั้งอยู่ทั้งคืน
ค่ำฝืนคืนล้า แต่หากว่าอุ่นอวล
จางหรือแจ่มแห่งจ้า ใจจันทร์
สุดแห่งใจผู้เงียบงันผากถ้วน
สักเสี้ยวเจ้าสะดุ้งสดับกับเย้ายวน
ข้าจิบจันทร์ก็ล้วนภาพเจ้าเคียงคลอ
มิติห้วงแห่งหอมไอจันทร์
ปริ่มก็ปันกล่อมถ้อยอัน หยอกล้อ
รำเพยหนึ่งกรุ่นเผยดั่งเจ้าพะนอ
ข้าเผลอยิ้มพริ้มเย้ย ดั่ง ล่อ ใจจันทร์