17 พฤษภาคม 2550 22:28 น.
หอมดอกลำดวน
ก่อนเคยอยู่ในสถานวิมานนี้
เป็นน้องพี่ร่วมรักสมัครสมาน
กลมเกลียวสายสัมพันธ์ทุกวันวาน
ถักร้อยสานสายใยสร้างไมตรี
แม้ว่าต้องห่างไกลไปนานนัก
แต่ความรักในกมลยังล้นปรี่
ความผูกพันวันนั้นอันเคยมี
จนบัดนี้คงเป็นเหมือนเช่นเคย
เหล่าพี่ขอมอบใจในค่ายฝัน
เพื่อชีวันน้องยางามผ่าเผย
ให้เป็นดั่งไม้ดอกที่งอกเงย
น่าชื่นเชยชมอยู่ไม่รู้จาง
ให้มีเกียรติ์มีศักดิ์มีหลักฐาน
ให้เบิกบานดั่งแสงรุ้งเมื่อรุ่งสาง
ตัดอบายรุมเร้าให้เบาบาง
พร้อมแนบวางสุจริตเป็นฤทธา
พรั่งพร้อมด้วยศาสตราเป็นอาวุธ
เพื่อผ่องผุดพ้นน้ำแลล้ำค่า
ยลแสงทองส่องระยับงามจับตา
เพื่อรู้ว่าวันนี้พอมีชัย
อันความฝันอยู่ใกล้ไม่เกินเอื้อม
เพียงแค่เชื่อมบริบทความสดใส
มองเห็นแต่สิ่งดีดีมีถมไป
คนยิ่งใหญ่จักงามด้วยความดี
คนเพียบพูนวิทยาเก่งกล้านั้น
อย่าสำคัญตนเอง...เราเก่งนี่
คนคนเดียวอยู่ได้ที่ไหนมี
ต้องอ่อนน้อม..ท่าทีมีใจงาม
หากความเขลาหยุดล้อมยอมสยบ
ก็จะพบความรักเข้าทักถาม
หากมีรุ้งเกี่ยวโยงทุกโมงยาม
โลกทั้งโลกก็งดงามอร่ามวิไล
พี่มาเพื่อสานก่อความต่อเนื่อง
มาเพื่อเปลื้องปลิดขั้วความสงสัย
มาพร้อมกับหนึ่งทรวงสุดห่วงใย
มาเพื่อโลกใบใหม่ของพวกเรา
มาเพื่ออยากเห็นอนาคตอันสดชื่น
มาเพื่อรื่นรมย์รับกับใจเจ้า
มาเพื่อสืบสัมพันธ์วันของเรา
แล้วนำเอาสิ่งใหม่แลกให้กัน
สิ่งที่จะมอบให้ในวันนี้
คือสิ่งที่ปลอบทุกข์และปลุกขวัญ
คือคำสัตย์สัจจริงทุกสิ่งอัน
คือความฝันเหนือสิ้น ณ จินตนา
ฝากความหวังทั้งหมดกับบทนี้
ตรองเถิดนะคนดีของพี่จ๋า
ปรางค์กู่แก้ว จะขึ้นชื่อ เลื่องลือชา
ก็สุดแต่น้องยาจะเชิดนาม
14 พฤษภาคม 2550 00:12 น.
หอมดอกลำดวน
พินิจบรรดาดอกไม้ ในสวน
ฟุ้งอุบะลอยอบอวล อุ่นเอื้อ
ศรเสกจิตยั่วยวน ยลกระหวัด
วกหมู่มวลผีเสื้อ อยากเคล้นคลอคลึง
มะลิลาอบกลิ่นสร้อย เกสร
เล่ห์ล่อหมู่ผึ้งภมร มุ่งเคล้า
นวลละอองผ่องภาพพร ไพจิตร
สาปส่งยวนยั่วเย้า ขณะแย้มใยยอง
กลีบกาหลงลิ่วล้อ ลำดวน
อบประทิ่นไพรหอมหวน ห่มหล้า
ชงโคช่อเชิญชวน ใจชื่นแลนา
บงระบัดระยับระย้า หยาดย้อยพึงยล
ดาวเรืองเรืองโรจน์ริ้ว เรืองรอง
ไขขับทอทาบทอง ถ่องแท้
พุดน้ำบุษย์ลำพอง เผยกลิ่น
มะลิวัลย์เทียวเกี่ยวแก้ โกรธขึ้งขุ่นเข็ญ
เล็บมือนางอ่อนช้อย ชวนชม
ซับเสน่ห์ดอกพุดพรม พร่างแพร้ว
หอมกุหลาบลิ่วลอยลม ลาญรุ่มร้อนแฮ
เคียงกลิ่นดวงดอกแก้ว กล่นเกื้อสุขสรวล
มวลแมลงลีลาศร่าย เริงระบำ
ท่ามหมู่บุปผชาตินำ สุขน้าว
ผีเสื้อร่อนฟ้อนรำ รติตก
รายรุกข์อวลเอกอะคร้าว คล่าวซุ้มประสาสันต์
แลลมล่องผ่านพื้น แผ่นดิน
โอบเอื้อผืนธรณิน แผ่กว้าง
ทิวทัศน์ดั่งใจจินต์ บรรเจิด
สมบัติแห่งโลกสร้าง ส่ำสร้อยสั่งสม
บันดาลความสุขล้ำ โลกา
หยั่งยากเกินจักหา ค่าได้
พิมพ์จิตติดตรึงตรา จะแจ่ม
ร้อยรสมวลหมู่ไม้ แมกไม้เสมือนฝัน
ประดับดินดินอุ่นด้วย ไอดิน
ดาวร่วงลงหลั่งริน สู่ด้าว
ดาษดาธนาสิน กำซาบ
บริบทเจิมขวัญเกล้า กลั่นเกล้าสรวมศรี