25 กรกฎาคม 2554 23:24 น.
หลี่เหม่ยจิน
กุญแจสำคัญของคนสองคน
คือ การปล่อยสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
"คนรัก...จะเป็นยังไง ก็เรื่องของเขา
เขาและความคิดของเขา คือสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
แต่เรา...และหัวใจของเรา
เลือกที่จะ "หยุด" หรือ " เริ่มต้น" ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ "
ฉันเพิ่งขับรถกลับจากที่ทำงาน
วันนี้ฝนตกหนักแทบมองไม่เห็นถนน
ฉันค่อยขับรถกลับบ้านอย่างช้าๆ
ฉันชอบบรรยากาศครื้มฟ้าครื้มฝน
ชอบสายลมเย็นพัดโชย และชอบได้ยินเสียงฟ้าร้อง ครืนๆ
ชอบเสียงกบร้อง อ๊บอ๊บ อึ่งอ่าง แข่งกันส่งเสียง
หรีดริ่งเรไร ช่วยกันประสานเสียง จิ๊กจั๊ก
โชคดีเหลือเกินที่ฉันกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
จึงพาตัวเองไปอาบน้ำสระผมแล้วมานั่งดื่มกาแฟและอ่านหนังสือดี ๆ หนึ่งเล่ม
ก่อนนอน
ฉันเลือกอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า To Be a better LOVER
จะเป็นคนดีของเธอ
แม้ไม่ใช่คนรักที่ดีที่สุด
แต่จะรักและเป็นคนดีของกันและกัน
ตลอดไป.....
พลิกไปพลิกมาอ่านไปเจอในหน้าที่ 27 ในนั้นเขียนไว้ว่า
"มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสุข
นั่นคือหยุดวิตกกังวลถึงสิ่งใดๆ ก็ตาม
ที่อยู่นอกเหนือสิ่งที่เราควบคุมได้"
ทันทีที่อ่านจบ...ฉันรู้สึกราวกับได้ค้นพบแสงสว่าง(อมิตาภะ)
ที่สามารถนำไปไขปัญหาเรื่อง " ความรัก " ได้อย่างดีทีเดียว
เชื่อไหมว่าประโยคนี้เพียงประโยคเดียว
สามารถตอบคำถามได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเรื่องความรัก
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ก้าวตกหลุม " ความวิตกกังวล " ของตัวเองอยู่บ่อยๆ
ทำไมเขาเป็นคนแบบนั้น ทำไมเขาคิดแบบนี้
ยิ่งคิดมาก ยิ่งเตลิด ปัญหามันเกิดเพราะเราพาตัวเอง
ไปติดกับดักความคิดยุ่งเหยิงของตัวเองนี่แหละ
สิ่งใดที่เราควบคุมมันไม่ได้ ก็ปล่อยมันไปเถอะ
หากใครกำลังมีปัญหาอยู่
ไม่ว่าจะเป็น เพิ่งจับได้ว่าเขาโกหกคำโต
หรือ มีสิ่งปิดบังซ่อนเร้น
เขาทำให้เราร้องไห้กับเรื่อง ซ้ำๆ เดิม ๆ ฟังดูมันเหน็ดเหนื่อยจังเลยนะ
แต่ทุกอย่างคลี่คลายลงได้จริงๆ เพียงแค่เรายอมรับให้ได้ว่า
" นี่คือเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา "
คนรัก...จะเป็นยังไงก็เรื่องของเขา
เขา และความคิดของเขา คือสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
แต่เรา...และหัวใจของเรา
เลือกที่จะ " เริ่มต้น " หรือ หยุด ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้
และฉันเลือกที่จะ " หยุด "
ฉันรีบบันทึกลงในบ้านกลอนไทยเพื่อเก็บไว้เตือนใจ
ในวันที่ฉันอาจจะหลงลืมไป เผื่อว่าวันหนึ่ง
ฉันอาจต้องการคำปลอบใจที่สามารถ " หยุด "
ความร้ายกาจของความคิดแง่ร้ายของตัวเอง
ถ้ามีวันนั้น ฉันจะกลับมาอ่านประโยคนี้เพื่อย้ำเตือนอีกครั้ง
คำบางคำ เปรียบเป็นดั่ง " ของขวัญ "
และคำบางคำ ใช้เป็น " อาวุธ " ทำลายกันก็ได้
ฉันกลับใช้คำบางคำเป็นอาวุธทิ่มแทงจิตใจคนที่ฉันรัก
แล้วใจใครเจ็บกว่ากัน ใจฉัน หรือใจเขา กลับเป็นใจฉันต่างหาก
ฉันก็เป็นเหมือนคู่รักคนอื่นๆ
คบกันไปนานๆ ก็เจอปัญหาที่เปลี่ยนสถานการณ์ไปเรื่อยๆ
บางเรื่องเคยทะเลาะแล้วแก้วไขได้ แล้วก็มักจะมาเจอเรื่องราวใหม่ ๆ
ปัญหาใหม่ๆ ที่ต้องทำความเข้าใจใหม่อีกครั้ง
ปัญหาทั้งหมดที่ผ่านมาสอนให้ฉันเรียนรู้ว่า
" ยิ่งเราพยายามจะควบคุมอะไรก็ตาม
เรามักจะสูญเสียการควบคุมตัวเองตามไปด้วย "
ที่แย่กว่านั้นคือ สิ่งที่เราพยายามจะควบคุม
กลับกลายเป็นความล้มเหลวที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง
ให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม
ฉันจึงบอกคนรักของฉันว่า
เรามาเป็นกัลยาณมิตรกันเถิด
เราจงให้อิสระแก่กันและกัน
เพื่อที่จะเป็นคู่รักที่มีปีกบินได้
ฉันเพิ่งได้ค้นพบหนทางที่นำไปสู่ความสุข
ที่ช่วยฉุดดึงฉันให้ลุกขึ้นมาพบกับโลกของความจริงว่า
" ทุกสิ่งในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่เราจะควบคุมได้
นอกจากหัวใจของเราเอง "
ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้มีความรัก
ให้ใครสักคนอย่างจริงใจ มีความรักเท่าไร
ก็ถ่ายทอดออกไปอย่างที่เรารู้สึก ทำดีต่อกันเท่าที่เราจะทำให้กันได้
และก็เข้าใจอีกฝ่ายว่าเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ที่เติมเต็มพื้นที่ว่างเปล่าในใจเราให้เต็มขึ้น ให้มีความสุขมากขึ้น
ใครก็ตามที่มีความรักอยู่ในมือแล้ว
ฉันอยากให้ถ้อยคำจากประโยคเหล่านี้
ได้นำทางความรักของทุก ๆ คน ไปพบกับความสุขที่ปลายทางด้วยกัน
" หยุดวิตกกังวล " แล้วตั้งใจทำทุกวันที่ยังมีกันและกันให้ดีที่สุด
นี่ต่างหากคือ " กุญแจสำคัญ " ที่จะช่วยไขทุกปัญหาให้คลี่คลายลงได้
โลกใบนี้จะน่าอยู่มากยิ่งขึ้น หากเรา " ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้แก่กัน "
ถ้านี่คือ " ของขวัญ " ที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ที่กำลังมีความรัก
ฉันก็อยากจะส่งต่อถ้อยคำเหล่านี้ให้กับทุกคนได้นำไปคิด
ทบทวน และบอกต่อคนอื่นๆ ต่อไปอีก
เชื่อเหลือเกินว่าความรักดีๆ จะช่วยบำรุงโลกใบนี้ให้ดีกว่าเดิมได้
เหมือนที่ฉันได้ค้นพบความสุขนั้นแล้วด้วยตัวของฉันเอง
หนทางสู่ความสุข
คือเราต้องหยุดวิตกกังวล
ถึงสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
แล้วเราจะค้นพบความหมายของคำว่า
"สบายอกสบายใจ"
24 กรกฎาคม 2554 20:09 น.
หลี่เหม่ยจิน
เคยไหมเมื่อรักใครซักคนอย่างบริสุทธิ์ใจ
อบอุ่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียง
ทั้งที่เขาคือผู้ชายในอุดมคติ
หลับตาครั้งใดก็เห็นแต่ภาพดีๆของเขา
เขามีตัวตนจริงๆ ในชีวิตจริง
แต่มีวาสนาได้มาคบกันแค่ 7 เดือน
เหมือนฝัน...แต่คือความจริง
แล้วในที่สุด....ความจริงก็กลับกลายเป็นความฝัน
เพื่อให้คนที่เรารักมีอิสระ
เพราะถ้าอยู่ไปนาน ๆ เราจะเป็นฝ่ายที่
ทำร้ายคนที่เรารักซะเอง
เราจะยิ่งเจ็บเอง
ขอให้โชคดี รักษาสุขภาพด้วยนะ
ดูแลตัวเองด้วย
รักเสมอ
5 มิถุนายน 2554 10:17 น.
หลี่เหม่ยจิน
หลายครั้งผ่านผู้คนทั้งชายหญิง
สัมพันธ์ดิ่งหรือราบไม่หวั่นไหว
ไม่เคยมีความผูกพันขึ้นในใจ
แค่สายใยกลับผูกพันผ่านพบเธอ
หรืออาจเป็นโชคชะตาฟ้ากำหนด
ดื่มรสรักคราวนี้ดีเสมอ
ทางสองทางที่ไม่น่าจะเจอะเจอ
แต่นะเออเหมือนบางสิ่งร้อยสองเรา
บางเวลาอยู่ใกล้...เหมือนไกล
ถึงทางไกลส่งใจผ่านขุนเขา
ขอให้รัก เรารักกัน เบา เบา
ขอเพียงเข้าใจกัน รักพอเพียง
แค่ไม่อยากผูกใจให้อึดอัด
แค่ทุกคืนก่อนนอนได้ฟังเสียง
เสียงใดไม่อยากยิน ยินเสียงเดียว
อยากไปเที่ยวกับเธออีกครั้งใจ
4 มิถุนายน 2554 23:18 น.
หลี่เหม่ยจิน
ยิ่งรัก
รักยิ่ง
ยิ่งลักษณ์
5 มีนาคม 2554 22:10 น.
หลี่เหม่ยจิน
จะสร้างบ้าน สร้างเรือน สักหนึ่งหลัง
พึงตั้งศีล สมาธิ เป็นเสาเข็ม
อานาปานสติเป็นฐานให้บ้านเต็ม
วิริยะ ขันติเกษม บ้านได้ทรง
มีไตรลักษณ์ไว้คุ้มเป็นจั่วบ้าน
ผ่านฤดูกาล เกิด-ดับ โลภโกรธหลง
มีสติ ปัญญา สัมมาทิฏฐิตรง
บ้านมั่นคง ทรงอยู่ คู่ฟ้าดิน.