11 มีนาคม 2546 01:35 น.
หลี่ถัง
หลังพ้นจากชั่วโมงเรียนวิชาฟิสิกส์ ฉันสัมผัสได้ทันที นี่คือเศษเสี้ยวเล็กๆ
ของคำว่า "บัดซบ" ที่กำลังก่อทวีขึ้นในหัวของฉัน.....
ที่นี่คือมหาลัย.....
นี่คือสถานที่หนึ่งที่ให้ความรู้ ฉันรู้.....ใครๆก็รู้ ที่ไหนๆก็มีความรู้
แต่ฉันแค่อยากรู้ ทำไมฉันไม่เข้าใจกฎของนิวตัน นิวตันคือใคร...ทำอะไร..
ที่ไหน..เมื่อไหร่...??
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชีวิตคนไทย...เกี่ยวอะไรกับฉัน...??
?????????????
ที่นี่คือห้องสมุด.....
ใครก็รู้ว่ามันมีอะไร....แต่อาจต่างหรือไม่ต่างกับห้องสมุดทั่วไป
ตรงที่มีห้องอินเตอร์เน็ต รวมอยู่ในห้องสมุดด้วย....
เป็นห้องกระจกใส มีคอมฯประมาณ 40เครื่อง...
เด็กรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติดแต่กำลังติดอินเตอร์เน็ตงอม
เพราะมันมีทุกสิ่งที่ต้องการ
ไม่ว่าจะเป็น ความรู้ ข่าวสาร เกมส์ เงิน เพื่อน รูปโป๊ เซ็กส์......ฯลฯ
นึกทีไรแล้วอดเวทนาไม่ได้ กับคนที่กำลังหลงไหลกับเว็บโป๊
และการแชทที่โง่งม ไม่เห็นมันจะได้อะไรขึ้นมา ไร้สาระสิ้นดี....
สายตาค่อยๆไล่ไปที่สันหนังสือ ทีละเล่มๆ....
ใช่!! ฉันหวังว่านี่คงคลี่คลายปมฝังใจของฉันได้ "ฟิสิกส์เบื้องต้น"
ฉันหยิบหนังสือเล่มนั้นมาแล้วเดินไปหาที่นั่ง...ฉันนั่งลง
แล้ววางหนังสือไว้บนโต๊ะ....
มันก็เหมือนโต๊ะทั่วไปนั่นแหละ!!
มีสี่ขา สี่เหลี่ยม มีเก้าอี้วางล้อมรอบ.....
ก่อนที่จะลงมืออ่าน สายตาเริ่มสำรวจไปยังโต๊ะตัวอื่นๆ ฉันเห็น......
เห็นคนกำลังอ่านหนังสือ เห็นคนคุยกันเสียงดัง ทั้งๆที่มันมีป้ายห้ามส่งเสียงดัง
เห็นผู้หญิง ผู้ชาย เห็นคนจีบกัน คนน่ารัก คนนอนหลับ ไร้สาระสิ้นดี......
ฉันสนใจคนอื่นทำไมกัน มันคืออะไรกันแน่
ฉันเก็บเกี่ยวอะไรไม่ได้เลยเหรอ.....
เมื่อเช้าฉันแหกขี้ตาตื่น ยืนเบียดเสียดในรถสองแถวเพื่อมาที่นี่
ฉันมาทำไม ฉันเรียนทำไม ไม่เห็นสนุกตรงไหนเลย....
มันต้องมีอะไรซักอย่างสิ......
ฉันน่าจะเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้าง.....
แม้ฉันไม่รู้ว่าจริงๆแล้วฉันต้องการอะไร
แต่ฉันรู้ว่ามันน่าจะมีความหมายอยู่บ้าง.....
ใช่!!....ใช่แล้ว.....ฉันอุทานในใจดังสงัด
ฉันรู้ทันทีเมื่อเห็นนักศึกษาหน้าใสคนหนึ่ง คงกำลังมองหาโต๊ะนั่งอยู่......
เธอหน้าตาน่ารักมาก โค้งเว้าได้เหมาะเจาะ ผิวขาว ผมสั้นซอยปลายแหลม
มองแล้วดูคล้ายเด็กญี่ปุ่น......
ทำให้ฉันเข้าใจทันทีว่าตอนนี้ฉันต้องการอะไร.....
ฉันจึงลุกจากที่นั่งพร้อมใบหน้าแสดงอาการ "สุขใจ"
ทิ้ง"ฟิสิกส์เบื้องต้น"วางไว้ให้เป็นอดีต
เป้าหมายฉันคือ"อินเตอร์เน็ต"
******************************************************************************************
X-Japa
5 มีนาคม 2546 02:49 น.
หลี่ถัง
ฉันล่องลอยไปไกลแสนไกล สิ่งที่ฉันอยากทำ สิ่งที่ฉันต้องการ
มันอยู่ในนั้น อยู่ในหัวของฉัน ในความฝันของฉัน......
ฉันมีความสุขเหลือเกิน ฉันอยากจะอยู่ในนั้นตลอดไป ชั่วนิรันดร์....
แค่ฉันได้ฝัน มันทำให้ฉันมีความสุขเกินกว่าจะบรรยายเป็นตัวอักษร...
และแล้วมันก็จางหายไป พอฉันตื่นขึ้นมามันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น....
ณ ห้องเดิมๆ ความคิดเดิมๆ ฉันคนเดิม งี่เง่าเหมือนเดิม...
ฉันมีความสุขเหลือเกิน แค่ฉันได้ฝัน ขอฉันอยู่ในนั้นตลอดไปเถิด ได้โปรด....
ในนั้นฉันได้เป็นฉัน มันคือตัวตนในอุดมคติของฉัน เป็นฉัน....
ฉันไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ในโลกแห่งความจริง
สิ่งที่ฉันอยากทำ สิ่งที่ฉันต้องการ สิ่งที่ฉันใฝ่หา......
ทำไมฉันไม่ทำมัน!
ทำไมฉันไม่ทำมันล่ะ ในเมื่อมันไม่ได้ยากเย็นอะไร
ไม่ยากเกินกว่าที่ฉันจะทำได้ ฉันสามารถเปลี่นแปลงมันได้
ฉันสามารถถ่ายทอดความต้องการออกมาได้
อย่าปิดบังมันเอาไว้ ปลดปล่อยมันออกมา
อย่าสนใจกับเสียงด่าว่าดูถูกของใครๆเลย
ถึงแม้ฉันจะเป็นกะเทยแต่ฉันก็มีหัวใจ นะยะ.....
28 กุมภาพันธ์ 2546 02:44 น.
หลี่ถัง
กลิ่นไอร้อนแผ่วๆค่อยๆลอยมาปะทะใบหน้าพร้อมกับล้อที่ค่อยๆหยุดหมุน ท้องถนนเวลาค่ำคืนเช่นนี้ดูแล้วช่างหน้าอึดอัดเสียจริงๆท้องถนนแน่นแออัดไปด้วยรถ หันกลับมามองบนรถเมล์ยิ่งหน้าใจหาย แทบไม่มีให้ยืน แต่กระเป๋ารถยังคงแหกปากตะโกนด้วยท่าทางหงุดหงิด ชิดในหน่อยพี่ ไม่รู้จะให้ชิดไปไหนของมัน แต่ละวันเสียเวลากับรถติดไปหลายชั่วโมง รถติดแต่ละแยกมีเวลาพอที่จะเขียนเรื่องสั้นห่วยๆได้ซักเรื่อง วันนึงคงจะแต่งได้หลายเรื่อง
ผมโชคดีได้ที่นั่งโปรดตรงเบาะยาวหลังสุดริมหน้าต่างซ้าย เหตุที่ชอบนั่งหลังสุดคงเป็นเพราะได้แอบมองอากัปกิริยาของคนอื่น ไม่ว่าคนที่กำลังอยู่บนรถเมล์หรือที่กำลังยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์ มันเป็นความสุขเล็กๆของคนเป็นโรคจิตอ่อนๆ ที่ได้มองดูคนที่แสดงอาการออกมาโดยไม่รู้ว่ามีใครมองอยู่ มันเหมือนกับได้เป็นผู้วิเศษบนฟากฟ้า กำลังเฝ้าดูหมู่มวลมนุษย์
กลิ่นไอร้อนแผ่วๆค่อยๆลอยมาปะทะใบหน้าระลอกสอง พร้อมความอึดอัดเริ่มรุนแรงขึ้นความคิดหลากหลายได้กำเนิดขึ้น เพื่อฆ่าเวลาที่แสนจะน่าเบื่อเช่นนี้ อากาศร้อนอบอ้าวเสียจริงๆ... เหงื่อไหลชุ่มไปทั่วทุกรูขุมขน ยิ่งดวงตาก็ร้อนเคือง อยากจะมองหาสาวสวยซักคนเป็นที่พักสายตาแต่บรรยากาศแบบนี้นางงามก็ไม่น่าจะทนงามอยู่ได้
เอ๊ะ! ผมมองไปนอกหน้าต่างพร้อมกับความตะลึง ดวงตาเธอช่างน่าหลงใหลเสียจริงๆดวงตากลมโต แววตาบอกถึงความไร้เดียงสา ถึงแม้เธอจะผอมไปนิดตามสมัยนิยม ใครๆนั่งรถผ่านไปมาคงต้องหันมามองเธอ และต้องตะลึงกับดวงตาน่าหลงใหลของเธอ มองดูความเป็นธรรมชาติของเธอแล้วช่างหน้าหลงใหลจริงๆ อากัปกิริยานิ่งสงบไม่แยแสต่อสิ่งใด เธอรู้ตัวหรือเปล่าน้า...ว่าผมกำลังแอบมองเธออยู่ ใครหนอสรรค์สร้างเธอมา ช่างงามแท้.
..........................................................................................
ทันทีทันใดผมรู้สึกได้ถึงเสรีภาพเมื่อตาของเธอเปร่งประกายเป็นสีเขียว รถค่อยๆเคลื่อนตัวพร้อมลมเย็นระลอกแรกค่อยๆพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หาสุขใดเท่ากับการได้หลุดพ้นจากมหาอำนาจ
เห็นทีคงจะต้องจบเรื่องสั้นห่วยไว้เพียงแค่นี้ ค่อยเจอกันใหม่แยกหน้า.............