12 มิถุนายน 2548 15:48 น.
หลังคาแดง
เคยเป็นมั๊ยเวลาทีทำอะไรที่เราคิดว่ามันใหญ่เกินตัวเรา แล้วเรารู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ ไม่อยากจะทำต่อไปเลย ไม่แปลกหรอกที่เรารู้สึกอย่างนั้น ฉันเชื่อว่าคนบนโลกนี้หลายต่อหลายคนก็คงจะเคยเป็นเหมือนกัน มันอยู่ที่ว่าเราจะสามารถมองผ่านปัญหาตรงนั้นได้รึป่าว บางคนอาจมองว่าเราไม่เหมาะไม่ควรกับสิ่งที่เราจะทำ เราก็แค่หันมอง หยุดคิดแล้วฟังเสียงนั้น ถ้าเสียงที่เค้าเตือนเรามันเต็มไปด้วยความหวังดีเราก็ควรที่จะแก้ไข แต่ถ้าหากเสียงนั้นเต็มไปด้วยถ้อยคำแห่งการเยาะเย้ย
ถากถาง สบประมาทต่างๆนาๆว่าเราทำไมได้ ก็ขอให้เราทำต่อไปเถอะอย่าไปสนใจกับคำพูดควายๆของคนที่ชอบดูถูกคนบางคน เอาคำพูดนั้นมาผลักดันให้เรามีแรงสู้ต่อไป ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ทั้งๆที่เรายังไม่ได้ลงมือก็เท่ากับว่าเราแพ้ตัวเราเอง เราแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้ แล้วนี่หรอที่เค้าจะเรียกว่าทำดีที่สุดแล้ว ถ้าขืนเรายังท้อตั้งแต่ยังไม่สู้เราก็จะเป็นไอขี้แพ้ตลอดไป
แล้วโลกนี้ก็จะไม่มีที่ยืนสำหรับเรา แต่ในทางกลับกัน ทำไมเราไม่มองว่าสิ่งที่เราเจอ
ปัญหาที่เรากำลังจะแก้ งานใหญ่ที่เรากำลังจะทำล้วนแล้วแต่ เป็นสิ่งที่น่าท้าทาย หลายคนอาจบอกว่ามันหนัก แก้ยากทำยากอย่าไปทำมันเลย เสียเวลา ทำไปก็มีแต่คนด่าว่า มีแต่เสียกับเสีย แต่ถ้าเราไม่ลองเราก็ไม่รู้
บางทีมันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้ มันอาจเป็นแค่ความกลัว หรือกรอบที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความกลัวของเรา ถ้าเรากล้าที่จะทำสักนิด ถ้าเราได้ก้าวไปยืนตรงนั้นแล้ว
ไม่ว่าจะมีเสียงใดๆตามมา เราก็จะสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า เราทำเต็มที่แล้วต่างหาก
อย่าไปสนใจกับคำพูดที่ตัดทอนกำลังใจเรา ถ้าเราสนใจก็เท่ากับว่าเรากินอาหารที่เค้าคายทิ้งไว้
สู้ต่อไป กำลังใจอยู่ที่ตัวของเราเอง อย่าไปคิดมากกับคำพูดของคนอื่นขอเพียงเรามีใจที่ยึดมั่น
ในสิ่งที่ทำ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เราอาจต้องใช้ใจในการแก้ปัญหาเพราะสมองอย่างเดียวบางทีก็ไม่สามารถแก้ปัญหาของใจได้เลย สู้ !ต่อไปนะคะ สักฝันต้องมีวันที่ฝันของเราเป็นจริง
22 เมษายน 2548 21:44 น.
หลังคาแดง
กริ๊งๆๆๆๆๆ
มัท- สวัสดีค่ะพูดสายใครคะ
น้ำชา- สวัสดีครับขอสายมัทครับ
มัท พูดอยู่ค่ะไม่ทราบว่าใครพูดอยู่ค่ะ
น้ำชา นี่น้ำชาเอง
ฉันได้รู้ถึงความรู้สึกของความรักในอีกมุมมองหนึ่งจากเพื่อนชายในกลุ่ม ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่ภายนอกเข้มแข็งอย่างไอ้น้ำชาจะมีความคิดที่ละเอียดอ่อนกว่าฉันเสียอีก มันโทรมาหาฉันในวันปิดเทอม ตั้งแต่เราเรียนจบ ม.3 ก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย นานทีปีหนถึงจะโทรหาฉัน ถ้ามันโทรมาสรุปได้ว่ามันมีปัญหากับทางบ้านไม่ก็ทะเลาะกะแฟน
มัท ว่าไงวันนี้มีเรื่องไรมาปรึกษาอีกล่ะมึง
น้ำชา ไมว่ะ โทรมาต้องมีเรื่องปรึกษาด้วยหรอ กูจะคิดถึงมึงมั่งไม่ได้ไง
มัท เอ๊ะ! วันนี้มึงมาแปลกแหะ
ฉันกะมันก็คุยกันไปเรื่อยๆจนมาถึงเรื่องของแฟนมัน เสียงของมันเริ่มเปลี่ยนจนฉันเริ่มรู้สึกว่ามันคงร้องไห้
มัท เฮ้ยมึงร้องไห้หรอว่ะ
น้ำชา เฮ้ย ป่าวเว้ย กูแค่ซึ้งน่ะ
มัท - มึงเป็นไรว่ะพูดถึงเรื่องหม่อนแฟนมึงทีไรเป็นต้องน้ำหูน้ำตาไหลทุกทีอย่ามาสำออยนะมึง
น้ำชา ป่าว กูไม่ได้สำออยก็กูซึ้งเรื่องหม่อนไง มึงคิดดูนะผู้หญิงดีๆอย่างเค้ามาคบกะกู มึงดูดิ คนอย่างกูคงไม่มีวันหาได้หรอก ไม่เคยตั้งใจเรียน หน้าตาก็เหี้ยอย่างนี้ใครเค้าจะมาสนใจ
มัท กูว่ามึงก็พูดเว่อร์ไปนะ อันที่จริงกูก็ว่าถูกของมึงนะ ถึงหม่อนเค้าจะไม่สวยเหมือนคนที่กูเคยเห็นแต่กูก็ว่าเค้าน่ารักแล้วก็เรียนเก่งกว่ามึงตั้งเยอะ ไม่คู่ควรกะมึงหรอก
น้ำชา นี่มึงเงียบเลยนะแล้วตั้งใจฟังกูพูดนะ กูอยากระบายมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสสักที อีกอย่างความคิดนี้มันก็เพิ่งคิดได้ตอนกูไปเที่ยวกะหม่อนเมื่อวานนี้ มึงจำได้ใช่ไหมไอ้มัทเมื่อตอนสมัยเรียนกูจีบผู้หญิมากี่คน กูจีบผู้หญิงมา 7 คนแต่ไม่มีใครเคยมาสนใจกูจิงๆจังๆสักที เพราะอะไรมึงคงเข้าใจ ก็หน้าตากูไงกูมันไม่หล่อ ดำ อ้วน เตี้ย ไม่รวย เรียนไม่เก่ง กูรู้ตัวไง
มัท เออ! มึงรู้ตัวแล้วจะมาบ่นทำไม มึงอยากคิดว่ามึงไม่ดีก็คิดไปสิถ้ามึงคิดได้ก็ปล่อยหม่อนให้ไปเจอคนที่ดีกว่ามึงสิ ถ้ามึงรักหม่อนจิงนะ
น้ำชา ไอ้ควาย กุไม่ได้มาระบายเพื่อให้มึงมาด่ากูนะ กูแค่อยากจะบอกมึงว่า ชีวิตกูในตอนที่จีบผู้หญิงแต่ละคนก็เปรียบเหมือนกับต้นไม้ ต้นไม้ต้นเล็กๆที่รอวันเติบโต พอมีผู้หญิงเดินเข้ามาก็เหมือนเค้าเข้ามาให้ความหวังกะกู ความหวังนี้ก็เหมือนการรดน้ำทุกวัน ต้นไม้อย่างกูก็มีแรงที่จะอยู่ได้ แต่มึงเข้าใจไหมว่าปัจจัยที่จะทำให้ต้นไม้ผลิดอกออกผลก็คือ ปุ๋ย และไอปุ๋ยเนี่ยแหละที่เปรียบเหมือนกับการที่กูบอกว่าชอบเค้า อยากขอเค้าเป็นแฟน อยากให้เค้ามาเป็นคนพิเศษ แต่เป็นไงผลที่กูได้ คำตอบที่กูได้ เราเป็นเพื่อนกันเถอะ หนูคิดกะพี่แค่พี่ชาย บางคนก็ไม่คุยกะกูอีกเลย แล้วต้นไม้อย่างกูก็เหี่ยวแห้งไป คนแล้วคนเล่าผ่านมารดน้ำต้นไม้แต่ไม่มีคนไหนอยู่รอวันที่มันให้ผลเพราะไม่มีใครเคยใส่ปุ๋ย แต่กะหม่อนมันไม่ใช่ไง ตอนแรกอย่างที่กูเล่าให้มึงฟัง กูกะหม่อนไม่ถูกกัน แต่เค้าก็ให้โอกาสกูพิสูจน์ตัวเองไงมึงเข้าใจป่ะ
มัท เฮ้ย! ซึ้งว่ะมึงคิดได้ไง
น้ำชา ก็มันมาจากชีวิตจิงของกูนี่ กณูแค่อยากบอกมึงว่าไอที่มึงยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน มัวแต่กิ๊กไปกิ๊กมาเนี่ย เพราะมึงน่ะ ตัดสินคนที่เงินกะหน้าตา มึงอย่าตัดสินคนที่จะมาร่วมเดินข้างมึงแค่เพียงสิ่งที่สายตามองเห็นแล้วส่งไปยังสมอง แล้วสมองก็แปลภาพออกมาว่าหล่อว่ารวยดิว่ะ มึงน่ะต้องหัดใช้ใจมองโว้ย
มัท เออ ขอบใจนะที่ทำให้กูคิดได้
น้ำชา ไม่เป็นไรกูหวังดีกะมึงยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู ขอบใจเหมือนกันที่ฟังกูระบายนะ ฝันดีนะโว้ย หวัดดี ตู๊ด.......ตู๊ดๆๆๆๆ.......
เมื่อน้ำชามันระบายจนพอใจมันก็วางสายไปสิ่งที่มันพูดทิ้งไว้เป็นปริศนาให้คิดว่าทำอะไรเดี๋ยวนี้คงใช้แต่เพียงสายตาของเราไม่ได้คงต้องใช้เรื่องของใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ติสิ่งหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกมัน คำพูดที่มันระบายให้ฉันฟัง ฉันว่ามันควรที่จะไปพูดให้หม่อนคนที่มันรักฟังดีกว่านะ หม่อนจะได้รับรู้ซะทีว่ามันรักหม่อนมากแค่ไหน เพราะฉันก็ไม่เคยบอกมันเหมือนกันว่าหม่อนก็แอบโทรมาปรึกษาฉันเหมือนกัน ฉันสัญญาว่าต่อแต่นี้ฉันจะมองคนที่ใจเรียนร็คนจากภาพภายนอกและเข้าถึงใจ
19 มีนาคม 2548 21:34 น.
หลังคาแดง
ความรักเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้หัวใจมีกำลังแรงที่จะดำเนินชีวิตประจำวันหรือทำกิจกรรมต่างๆ หากใครมีรักอยู่ในมือ สุขที่ได้มีรักหรือสุขที่ได้แอบรัก ฉันเชื่อว่าคุณคงมีกำลังใจมากพอที่จะทำงานต่อไป สำหรับใครอีกหลายคนที่มีรักแต่โดนรักทำร้าย เจ็บซ้ำๆเพราะรักมากี่หน ทุกข์ตรมเพราะรักมากี่ครั้ง ร่างกายเริ่มเหนื่อยล้าหัวใจเริ่มหมดแรง ราวกับว่าหัวใจจะขากให้ได้กับว่าจะอยู่บนโลกนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอนั่นแหละคุณกำลังเจออีกด้านของความรัก ทุกสิ่งบนโลกหากขาดใครคนนั้นไปคล้ายกับว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดใครคนนั้นไปนั่นแหละคุณกำลังเจออีกด้านของความรัก ทุกสิ่งบนโลกมี 2 ด้านเสมอ ความรักก็เหมือนกันมันสามารถทำให้คนสุขจนลืมโลกของความจริง ทำให้คนหลายคนยอมทิ้งความจริงเพื่อก้าวเดินสู่โลกของความฝัน ยอมแลกอะไรหลายอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก แต่หากรักนั้นไม่สมหวังนั่นแหละคุณกำลังถูกรักทำร้าย ยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่เกิดมาพร้อมกับปมด้อยเล็กๆในใจ คุณคงเฝ้าคิดย้ำอยู่เสมอว่าคุณเกิดมาหน้าตาไม่ดีคงจะไม่มีใครสนใจ ต่อให้รักสักกี่ครั้งก็ไม่สมหวัง เคยมีใครหลายคนบอกฉันว่าถ้าเราหน้าตาไม่ดีแต่จิตใจดีสักวันเราก็จะมีรักแท้เอง แต่ฉันก็แย้งไปว่าถ้าเราเพิ่งเจอใครแค่เพียงครั้งแรก ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนแล้วเค้าจะมารู้ไดไงว่าเราจิตใจดี แต่ถ้าคุณลองเปิดใจ คุณอย่าเพิ่งคิดว่าต้องหาคนหน้าตาดีมาเป็นแฟน บนโลกนี้มีคนหน้าตาดีแต่จิตใจแย้ก็มีถมไป ขอเพียงคุณให้โอกาสตัวเองให้โอกาสคนรอบข้าง ไม่คิดมากไม่ปิดกั้นตัวเองที่หน้าตาไม่ดี จริงอยู่ถ้าคุณหน้าตาไม่ดีคุณอาจไม่เป็นที่ประทับใจใครหลายคนในครั้งรกที่เห็นแต่ถ้าเค้าได้พูดคุยกับคุณได้ศึกษานิสัยใจคอคุณเต้าก็จะรู้ว่าคุณเป็นคนดี เมื่อคุณได้เปิดใจให้ใครคนนั้นเข้าไปแล้ว และเค้าก็ยินดีที่จะเข้าไป ไม่แน่นะเค้าอาจจะติดใจไม่ยอมออกจากใจคุณก็เป็นได้ ฉันเพียงอยากจะบอกให้ใครอีกหลายคนได้รับรู้ว่าหนาตาไม่ใช่อุปสรรคในการที่จะมีรัก การที่เราจะมองหารักไม่ใช่ใช้เพียงตาที่มีหากแต่ต้องใช้สิ่งที่อยู่ลึกลงไป สิ่งนั้นไม่ใช่สมอง แต่มันคือหัวใจ หัวใจจะเป็นตัวเปิดให้คุณรู้ถึงความเป็นเค้าที่แท้จริง คุณจะได้ไม่ต้องติดอยู่กับภาพภายนอก คุณจะพบกับรักที่แท้จริง ไม่จำเป็นที่คุณจะเลือกคนหน้าตาดีมาแต่จิตใจหยาบกระด้างมาเป็นคู่ อยากให้คุณเลือกคนที่จิตใจดี โลกนี้จะได้มีแต่รักที่บริสุทธิ์ อย่าลืมเปิดใจของคุณนะไม่แน่คนที่คุณแอบชอบอาจจะมาขอตีตั๋วไปทัวร์หัวใจคุณก็ได้
หลังคาแดง
3 กุมภาพันธ์ 2548 16:34 น.
หลังคาแดง
ความรักของฉันกิดขึ้นเมื่อฉันต้องไปร่วมกิจกรรมต่างโรงเรียน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาอันสั้นที่ฉันได้ใกล้ชิดกับเค้า แต่หัวใจของฉันมันก็เริ่มเต้นผิดจังหวะจนมารู้ว่า ฉันเริ่มรักเค้าแล้ว ฉันต้องไปร่วมกิจกรรมต่างโรงเรียนบ่อยขึ้น ระหว่างนั้นฉันก็แอบมองเค้าอยู่เสมอ บางทีก็รู้สึกว่าเค้าก็จะแอบหันมามองฉันเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร จนมาถึงวันหนึ่งเค้าเข้ามาคุยเข้ามาเล่นกับฉัน ฉันก็เล่นด้วยแต่ไม่รู้จะทำตัวยังไงไม่รู้ว่าเค้าจะชอบฉันรึป่าว ถึงช่วงที่ฉันต้องพักการไปทำกิจกรรมนอกโรงเรียนเค้าก็ส่งข้อความมาคุยกับฉัน บางทีที่เราเจอกันแต่เค้าจะไม่คุยกับฉัน แต่กลับส่งข้อความมาแทน และส่วนมากก็จะเป็นข้อความหวานๆชวนให้ฉันประทับใจ เพราะเค้าเป็นคนหน้าตาดี สูง ขาว น่ารัก ส่วนตัวฉันแทบจะหาอะไรเทียบไม่ได้ ฉันเคยคิดจะตัดใจต่การทำกิจกรรมนอกโรงเรียนที่ทำให้เราต้องเจอกันทำให้ฉันตัดใจไม่ลง เค้าเริ่มโทรหาฉันบ้าง บางทีฉันก็โทรไปแต่มันก็เป็นเวลาไม่นานนักเพระฉันไม่รู้จะพูดอะไร มันคงเป็นความไม่กล้าหรือเขินอายมากว่า จนวันที่กิจกรรมระหว่างโรงเรยีนสิ้นสุด ฉันตัดสินใจบอกความจิงกับเค้าว่าฉันชอบเค้า
ฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเองเพราะเค้าก็ชอบฉันเหมือนกัน จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น เค้าโทรหาฉันทุกวันแต่เราก็คุยกันไม่ค่อยนานทุกครั้งที่เราคุยกันฉันจะเป็นคนชวนคุยซะมากกว่าเพระเค้าคุยไม่เก่ง แรกๆที่คุยกันฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเค้าให้มากจึงโทรไปถามเพื่อนเค้า เพื่อนเค้าบอกว่าเค้านิสัยดีและยังไม่มีแฟนฉันก็ดีใจมาก แต่ตอนนี้เค้าเริ่มเปลี่ยนไปจากที่เคยโทมาก็เงียบหายไปจนฉันทนไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายโทรหาเอง เค้าก็คุยไม่เหมือนเดิม
ฉันเริ่มสงสัยในอาการที่เปลี่ยนไปของเค้าจึงโทรไปปรึกษาเพื่อนของเค้าว่าเค้ามีใครรึป่าว คำตอบที่ฉันได้รับมันทำให้ฉันเจ็บใจ และปวดร้าวใจมาก เค้ากำลังจะมีคนใหม่ และที่เค้ามาคุยกับฉันก็เพราะเพิ่งเลิกกับแฟน ฉันงงมากและเฝ้าถามตัวเองว่าระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้คบกันรึไม่ คบกันแบบไหนฉันสับสนในฐานะของตัวเองเค้ารักฉันจิงรึป่าว แล้วทำไมต้องมาหลอกให้ฉันรัก ฉันแค่อยาถามพวกคุณว่าฉันผิดไหมที่ฉันรักเค้า ฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี รักเค้าต่อไป หรือตัดเยื่อใยที่มี
*หลังคาแดง*