16 มิถุนายน 2547 18:12 น.
หมูก้อย
ยูเอะวิ่งตรงไปยังที่เกิดเหตุอย่างไม่คิดชีวิต เธอรู้สึกว่าแผลฉีกและมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก แต่เธอไม่ได้คำนึงถึงมัน
ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ จนได้กลิ่นดินปืนและคาวเลือด เลือด! เลือดของใครล่ะ คาเครุ! เซนจิ! หรือคนอื่น!
ฉับพลัน! มือของใครบางคนก็ดึงยูเอะเข้าสู่มุมมืดก่อนที่เธอจะถึงจุดหมาย
ปล่อยนะ ยูเอะตกใจ เธอทั้งร้องทั้งดิ้น
นี่หนูเองนะ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหูยูเอะ เธอจึงหยุดดิ้นลงอย่างฉับพลัน
อายะกะ! ยูเอะร้องอย่างดีใจระคนแปลกใจ
เฮ้อ.. ค่ะ หนูเอง อายะกะระบายลมหายใจอย่างโล่งอก เมื่อยูเอะหยุดดิ้น
อายะกะเซนจิคาเครุเขา.. ยูเอะละล่ำละลักพยายามบอกความประสงค์ของตนแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
หนูเข้าใจค่ะ พี่ไม่ต้องห่วง พวกเขาไม่เป็นอะไรหลอกค่ะ อายะกะพูดอย่างใจเย็น
ยูเอะยังมีท่าทีไม่เข้าใจและกระวนกระวายเป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาจะปลอดภัยค่ะ หนูรับรอง อายะกะกล่าวต่อพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ตามแบบฉบับ
ยูเอะยังละล้าละลัง อายะกะจึงดึงมือมา
กลับห้องก่อนเถอะค่ะแล้วจะเล่าให้ฟัง แล้วอายะกะก็เดินนำไป
ยูเอะเดืนตามไปได้สักพัก เธอก็รู้สึกหน้ามืด เธอพยายามจะบอกอายะกะแต่ยังไม่ทันมีเสียงออกมาสติของเธอก็สิ้นลง
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ยูเอะตื่นขึ้นมาในห้องสีขาวสว่างใส ที่แขนมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด เธอยังมึนศีรษะเล็กน้อย
ตื่นแล้วเหรอค่ะ เสียงของอายะกะแว่วเข้ามาในโสตประสาท
อืม. ยูเอะส่งเสียง
อาการเป็นไงบ้างค่ะ อายะกะถามอย่างเป็นห่วง
พี่ก็.ไม่เป็นอะไรแล้ว แค่เพลียๆ ยูเอะตอบอย่างอ่อนล้า
งั้นก็นอนพักเถอะค่ะ อายะกะพูดอย่างอ่อนโยน
ที่นี่ที่ไหน คาเครุกับเซนจิล่ะ ยูเอะถามอย่างเป็นกังวน
เฮ้อ! ลืมตาได้ก็เอาเลยเหรอพี่เรา อายะกะกล่าวล้อเลียน
ก็เขาชวยพี่ไว้นี่ ยูเอะแก้เขิน
อืม.จะพยายามเชื่อนะว่าแค่นี้ อายะกะยังแหย่ต่อ
ยูเอะหน้าแดงถนัดตา
ก็ได้ค่ะ.คาเครุกับเซนจิหนีไปได้ค่ะ อายะกะกล่าวเมื่อเห็นว่าหยอกพี่สาวพอสมควรแล้ว
เฮ้อ.ว่าแต่เราเกี่ยวอะไรกับพวกเขาล่ะ ยูเอะถอนใจอย่างโล่งอกก่อนซักเรื่องของน้องสาวตัวแสบเมื่อนึกได้
ก็เริ่มอย่างไรดีล่ะ อายะกะทำท่าคิดหนัก
เรารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ยูเอะตั้งประเด็น
อืม..พอพี่หายไปหนูก็ตามหาจนพบว่า คนที่ยิงพี่เป็นมือปืนในสังกัดของพวกเราเอง ซึ่งคุณพ่อให้ไปฆ่าเซนจิ แต่พี่รับเคราะแทน เมื่อรูเช่นนนี้หนูก็เริ่มสำรวจความเคลื่อนไหวของพ่ออย่างจริงจัง จนวันหนึ่งก็พบห้องลับที่กักขังนายฟูมะ หนูแอบไปคุยกับนายฟูมะก็รู้ว่าพ่อจับเขามา เพื่อบีบบังคับนายคาเครุ แต่เมื่อนายคาเครุได้ตัวพี่ไปก็เอาพี่มาแลกกับลูกชาย และจะมีการแลกตัวกันในวันไหน ตอนนั้นหนูรู้ว่าพี่จะปลอดภัยก็สบายใจแล้ว.. แต่ก่อนหน้าวันแลกตัว 2-3 วัน หนูก็แอบได้ยินแผนการของคุณพ่อ.. อายะกะหยุดเอาไว้เท่านี้
ทำไมพ่อทำแบบนี้.. ยูเอะไม่อยากเชื่อว่าพ่อของเธอจะทำเรื่องเช่นนี้ได้
ผลประโยชน์ อายะกะกล่าวอย่างขมขื่น
ทั้งคู่ต่างเงียบไปพักใหญ่
ว่าแต่พวกเขาหนีไปได้อย่างไรกัน ยูเอะถามทำลายความเงียบ
พอหนูรู้ว่าพ่อจะทำอย่างไรในวันนั้น หนูก็รู้สึกละอายหากปล่อยให้มันเกิดขึ้นและ..พี่คงเสียใจมาก..จากคำบอกเล่าของฟูมะหนูจึงรู้ว่าพวกเขาน่าจะอยู่ที่ไหน จากนั้นหนูก็บอกแผนการของคุณพ่อให้เขาฟังหนูไม่รู้ที่ทำไปมันถูกรึเปล่า อายะกะกล่าวด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
อาจจะถูก..และอาจจะไม่ถูก ยูเอะกล่าว
อืม..จริงของพี่ อายะกะเห็นด้วย
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
9 มิถุนายน 2547 15:13 น.
หมูก้อย
เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้วที่ยูเอะอยู่กับเซนจิและคาเครุ คาเครุเอ็นดูเธอเปรียบเสมือนว่าเธอเป็นลูกหลานมาตลอด ส่วนเซนจินั่นหรือ..ก็ยังคงเย็นชาเสมอมา และยังมีช่วงหลังๆมานี้ยังมีท่าทีเหมือนไม่อยากเข้าใกล้เธออีกด้วย ทำให้ยูเอะรู้สึกท้อแท้อย่างมาก
บาดแผลของเธอดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้เธอพอจะลุกเดินเองได้แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ไปไหนไกลจากเตียงมากนัก
ช่วงเวลาเช่นนี้ทรมานยูเอะมากทีเดียว เธอไม่มีทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาอย่างอายะกะ ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ทั้งยังต้องทนกับความเย็นชาของเซนจิมาเกือบเดือน คิดแล้วก็ชวนให้คิดถึงบ้านยิ่งนัก
คิดอะไรอยูเหรอ ยูเอะ เสียงของคาเครุดังขึ้นจากข้างหลัง
ก็..คิดเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ยูเอะตอบยิ้มๆ
คิดถึงบ้านล่ะสิ คาเครุกล่าวด้วยสีหน้าอ่อนโยนเป็นปกติ แต่ทำให้ยูเอะสะดุ้งทีเดียว
เขารู้อยู่แล้วหรือว่าเราเป็นใคร ยูเอะคิดอย่างตระหนก
คาเครุเหมือนจะจับความคิดของยูเอะได้
ฉันรู้แต่แรกแล้วว่าเธอเป็นใคร เธอคิดว่าฉันจะช่วยคนโดยไม่รู้เลยหรือว่าเขาเป็นใคร หึหึ ถ้าฉันทำอย่างนั้นฉันคงตายไปหลายรอบแล้ว แต่เธอไม่ต้องกังวนหลอก ถึงเธอจะเป็นลูกของเขา ถึงเขาจะเป็นศรัตรูของฉัน แต่เธอไม่ใช่ตัวเขานี่ คาเครุกล่าวอย่างนุ่มนวล
ยูเอะมองคาเครุด้วยแววเคารพอย่างสูง คาเครุยื่นมือมาวางบนศีรษะของยูเอะอย่างเอ็นดู
ฉะนั้น ไม่มีอะไรต้องกังวนแล้วนะ คาเครุกล่าว
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เวลาผ่านไปอีกหลายวันความต้องการที่จะไปสูดอากาศข้างนอกของยูเอะก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันนี้ยูเอะตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องออกไปเดินเล่นข้างนอกให้ได้
ในคืนนั้นยูเอะลุกจากที่นอนออกไปที่บันไดทางออกซึ่งคาเครุเคยบอกเอาไว้
ที่ที่พวกเธออยู่เป็นห้องใต้ดินของบ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าข้างใต้จะมีสถานที่แบบนี้ซ่อนอยู่
มาถึงสุดปลายบันไดเป็นไม้กระดานปิดอยู่ ยูเอะต้องออกแรงยกขึ้น ทำให้เธอเจ็บไหล่ซ้ายขึ้นมาทันที แผลของเธอมีเลือดซึมออกมา เธอต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้เสียงของเธอปลุกใครตื่นขึ้นมา ในที่สุดไม้กระดานเปิดออกมา เธอรีบไต่ออกสู่พื้นดิน
บ้านเล็กหลังนี้เหมือนเป็นบ้านร้างมีฝุ่นเกรอะ ยูเอะเดินสำรวจไปเรื่อยๆ แล้วตัดสินใจเดินออกสู่หลังบ้าน
สนามหญ้าหลังบ้านแห่งนี้สวยงามทีเดียว มีหญ้าขึ้นเขียวขจีราวกับพรมปู เบื้องบนมีดวงจันทร์และดวงดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด ยูเอะอดไม่ได้ที่จะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหญ้าที่อ่อนนุ่มนั้น
ยูเอะถูกความงามบนท้องฟ้าสะกดสายตาเสียแล้ว อากาศข้างนอกหนาวมากแต่ยูเอะยังไม่ปรารถนาจะกลับเข้าไป
ตอนนี้อายะกะกับคุณพ่อจะทำอะไรอยู่นะ ยูเอะคิด
ลมหนาวระรอกแล้วระรอกเล่าพัดมาต้องกายยูเอะ จนร่างของเธอเริ่มสั่น
จู่ๆ ยูเอะก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่นหลัง ซึ่งได้เพิ่มเสื้อครุมสีดำขึ้นมา เธอหันกลับไปจึงพบว่าเป็น..เซนจิ!
ออกมาอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหลอก เซนจิกล่าวเรียบๆ แต่เหมือนน้ำรดลงหัวใจของยูเอะจนชุ่ม
อย่างน้อยเขาก็ยังห่วงเราอยู่บ้างเหมือนกัน..แม้ว่ามันจะน้อยนิดเต็มที
เซนจิคงไม่เห็นหลอกว่าหน้าของยูเอะแดงขึ้นมา เพราะบริเวณนั้นแม้ไม่มืดมาก แต่ก็ไม่สว่างนัก
ฉันก็แค่..อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเท่านั้น และฉันก็กำลังจะกลับแล้ว ยูเอะกล่าว กลัวเซนจิจะเข้าใจผิด
ยูเอะทำท่าจะลุก แต่เซนจิกลับทรุดลงข้างๆเธอ ทำให้ยูเอะชะงัก
ฉันก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศเหมือนกัน..แต่ถ้าเธออยากกลับก็ไปก่อนได้ เซนจิกล่าว
ไม่เป็นไร..ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ ยูเอะกล่าว
ทั้งคู่ต่างนั่งกันอย่างเงียบๆ อยู่นาน
ไม่หนาวหรือ.เซนจิ ยูเอะกล่าวพร้อมกับยื่นเสื้อครุมที่เขาสละให้คืน แต่เซนจิไม่รับ
ฉันไม่เป็นไรเธอสิ แผลยังไม่หายดีเลย เซนจิกล่าว ทั้งที่ตัวเขามีเพียงเสื้อกล้ามบางๆตัวเดียว
ยูเอะจำต้องรับมา เธอรู้สึกว่าถ้าใส่มันแล้วจะเป็นการเอาเปรียบคนข้างๆ เธอจึงนำมากอดไว้แทน
เสื้อมีไว้ใส่ไม่ได้มีไว้กอด เซนจิกล่าวพยายามทำเสียงให้ปกติแต่ยังมีแววขบขันอยู่ดี
ยูเอะหน้าแดงวูบ รีบครี่เสื้อมาครุมตัว
จากนั้นทั้งสองก็นั่งเงียบไป
กลับกันได้แล้ว ดึกมากแล้วนะ เซนจิลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือให้ยูเอะ เธอไม่อาจเห็นสีหน้าของเขาได้ชัดเจน แต่เธอรู้สึกถึงแววตาที่เปลี่ยนไป!
จ้ะ ยูเอะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เซนจิ พร้อมกับวางมือบนมือของเขา แล้วทั้งคู่ก็กลับลงสู่ห้องใต้พิภพ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
วันนี้เราจะพาเธอไปส่งที่บ้าน คาเครุกล่าว
ยูเอะไม่รู้ว่าเธอจะดีใจหรือเสียใจดี เธอกำลังจะได้กลับบ้าน บ้านที่เฝ้าคิดถึง แต่เธอคงต้องจากเซนจิและคาเครุตลอดกาล!
ไปส่งหนูที่บ้าน? คุณกับคุณพ่อไม่ใช่ว่าไม่ถูกกันหรือค่ะ ยูเอะถามอย่างสงสัย
นั่นก็ใช่แต่เราต้องไปรับตัวลูกชายของฉันคืนด้วย.มันเป็นข้อแลกเปลี่ยน คาเครุกล่าว แต่ฉันก็รักและเอ็นดูหนูจริงๆ นะ คาเครุเสริม
ค่ะ ยูเอะรับคำสั้นๆ พร้อมสะกดกลั้นน้ำตา เธอก็รักและเคารพคาเครุเสมอ
แต่เราไม่ได้ไปตอนนี้หลอก ค่ำๆค่อยไป คาเครุกล่าวเชิงปลอบ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ในที่สุดเวลาที่จะได้กลับบ้านก็มาถึง เธอเห็นพ่อของเธอและมือปืนของพ่อหลายคนยืนรออยู่ ในกลุ่มนั้นมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแต่ซีดเซียวอยู่ด้วย เธอเดาว่าคงจะเป็นลูกชายของคาเครุนั่นเอง น่าแปลกที่ในกลุ่มไม่มีอายะกะ ทั้งที่หล่อนน่าจะเป็นคนแรกที่เธอจะเห็น
พ่อค่ะ ยูเอะเดินเข้าหาผู้เป็นบิดาทันที
นายยูกิคว้าตัวยูเอะมากอดทันที
โอ้ย. ยูเอะครางเพราะบาดแผลเปิด
นายยูกิรีบคลายวงแขนออก
ลูกเป็นอย่างไรบ้าง.พ่อได้ข่าวว่าลูกถูกยิง นายยูกิถามอย่างเป็นห่วง
ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ดีที่ได้คุณคาเครุกับคุณเซนจิช่วยไว้ ยูเอะกล่าวอย่างซาบซึ้ง
นายยูกิส่งสายตาเย็นชาไปยังคนต่างถิ่นทั้ง 2
แล้วแกจะคืนคนของเราได้รึยัง เซนจิกล่าวอย่างเย็นชา
ก็เอาไปสิ นายยูกิให้สัญญาณลูกน้อง พร้อมกับพายูเอะเดินจากไป
ยูเอะส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ไปยังคาเครุและเซนจิ ถ้าตาเธอไม่ฝาด เธอเห็นเซนจิหันมามองเธอแวบนึงแล้วหันไป
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ระเบิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เป็นคนของพ่อเธอเองที่เปิดฉาก
ม่ายยยยยยยยย ยูเอะร้อง พร้อมกับสะบัดมือจากนายยูกิ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
(โปรดติดตามตอนต่อไป)