12 มกราคม 2550 21:06 น.
หมึกมรกต
รบกวนผู้ดูแลระบบลบกระทู้ทั้งหมดที่หมึกมรกตตั้งไว้ด้วยนะครับ เพราะกลับมาดูใหม่ คนคลิกเข้ามาอ่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลบทุกกระทู้เลยนะครับ และวานลบบทกลอนที่มีเครื่องหมาย! ออกให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หมึกมรกต
11 สิงหาคม 2548 12:54 น.
หมึกมรกต
เนื่องจากบทกลอน แม่ของแผ่นดิน ที่หมึกมรกตนำมาโพสไว้ ปรากฏข้อความของบุคคล 2 ท่าน คือ
ขออนุญาตนำบทกลอนแม่ของแผ่นดินไปไว้ในเว็บไซด์นะครับ
wemaster@jaymarts.com 09 ส.ค. 48 - 10:48
ขออนุญาตนำบทกลอนไปเผยแพร่นะคะ
ขอบคุณค่ะ
คนทำงาน 11 ส.ค. 48 - 03:40
คนแรกหมึกมรกตได้ตามไปดู ที่ www.jaymarts.comก็พบบทกลอนของหมึกมรกต จริง ก็ตกใจอยู่เหมือนกันทีแรกๆ เห็นชื่อที่ลงท้ายเป็นบริษัทในเครือของตัวเอง ทั้งๆที่หมึกมรกตไม่ได้อยู่ในเครือนั้นด้วย แต่ก็แอบเห็นวงเล็บเล็กๆที่เขียนว่า ร้อยกรองโดย www.thaipoem.com ก็เลยไม่ได้ติดใจอะไร แต่อยากจะฝากบอกเวบมาสเตอร์เจมาร์ทด้วยนะครับ ว่าควรจะได้รับอนุญาตเจ้าของบทกลอนก่อน แต่หมึกมรกตก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเข้าใจดีว่าเรามาโพสกลอนในเวบซึ่งไม่ได้จดลิขสิทธิ์อะไรไว้ ใครๆก็สามารถนำกลอนไปใช้ได้ แต่มาคิดดูอีกทีเมื่อเห็นข้อความของ คนทำงานที่มาเก็บบทกลอนของหมึกมรกตไปใช้ ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร เกรงว่าเมื่อปรากฏแก่สายตาสาธารณะ และเมื่อมาเห็นบทกลอนของหมึกมรกต คนอื่นอาจจะคิดว่าหมึกมรกตไปลอกบทกลอนมาก็เป็นได้
จึงอยากทราบความคิดเห็นของพี่น้องชาวไทยโพเอ็มว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี หรือว่าไม่ต้องทำอะไรเลย
ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านครับ
หมึกมรกต
3 มิถุนายน 2548 02:09 น.
หมึกมรกต
สำหรับกระทู้นี้ อาจจะเป็นกระทู้สุดท้ายที่จะตั้งให้ปรากฏแก่เพื่อนสมาชิก
...
.....กระทู้นี้เพียงเพื่อจะฝากเรื่องราวอันน่าขันและเป็นประสบการณ์ให้สมาชิกคนอื่นๆ
...และอยากจะกล่าวขออภัยกับสมาชิกทุกท่าน ที่หมึกมรกตหลงผิดเพียงภาพลวงตาของผู้ที่มีก่อความไม่สงบ(เพราะรักกลอนมากเกินไป จึงทำให้ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำ) หลังจากที่ขบคิดกลับเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ...กับการมากล่าวหาและให้ร้ายหมึกมรกต ด้วยการพูดอย่างลูกผู้ชาย แต่ตัวเองกลับมิกล้าแม้แต่จะ log in เพื่อบ่งบอกตัวตนที่แท้จริง ทั้งนี้อาจจะเกิดจากฝีมือของคนๆเดียวที่มีจิตใจไม่ปกติ ทำเป็นใช้นามนั้น นามนี้ เพื่อให้การกล่าวร้ายคนอื่นมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
...หมึกมรกตเห็นด้วยกับคุณช่อชงโค ที่ควรจะให้ผู้ที่ log in เท่านั้นแสดงความคิดเห็นได้...
...และอยากจะฝากถึงเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ ไม่ต้องสนใจและใส่ใจ กับกระทู้ของผู้ไม่หวังดี เพราะเป็นเพียงความคิดเห็นจอมปลอม ไม่จริงใจ...หวังเพียงเพื่อจะทำลายเราเท่านั้น เมื่อความคิดเห็นของผู้ประสงค์ร้ายดังกล่าวปรากฏ ควรทำการลบออกไปทันที...
...และอยากจะฝากถึงผู้ไม่หวังดีว่า ที่นี่คือสนามแห่งความคิด...คือสนามของนักกลอนผู้ที่ได้ชื่อว่ามีจิตใจอ่อนโยน...มีจินตนาการอันแรงกล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่าสู่สายตาอารยชน
...สำหรับผู้ที่มีจิตใจแข็งกร้าวหยาบกระด้าง จงออกไปเสียเถิด แต่ถ้าท่านยั้งดื้อรั้นก็คงไม่เป็นไร เพราะแม้นพระพุทธองค์ ยังทรงทราบและเข้าใจถึงบัวเหล่าที่อยู่ใต้โคลนตม เพราะจะสั่งสอนให้เห็นสัจธรรมเพียงใด ตาก็ยังมืดบอดอยู่ดี แต่ช่างเขาเถิดเพราะหากเขาไม่ยอมโผล่พ้นน้ำ สุดท้ายเขาก็จะถูกสัตว์น้ำกัดแทะจนแหลกสลายหายไปในที่สุด
31 พฤษภาคม 2548 20:02 น.
หมึกมรกต
...ก่อนที่จะตัดสินอะไรกรุณาอ่านให้จบเสียก่อน
จากกระทู้ที่หมึกมรกตได้ตั้งไปนั้น มีความคิดเห็นของเพื่อน Thaipoem แตกต่างกันไป
ความคิดเห็นเหล่านี้เป็นต้นว่า
1.เอ้า...ท่านนักปราชญ์
ไม่ทราบว่าบทที่ไหนเขาบัญญัติไว้
เขากลอนคืองานศิลป์แขนงนึง มิได้เขียนรายงานการประชุม หรือเขียนใบสั่งยา
จะต้องแม่นทุกอย่าง
เชิญท่านร่ายกวีไร้จิตวิญญาณต่อไปเถิด
พระรอง 28 พ.ค. 48 - 21:06
2.ความคืดจิตใจคับแคบ และ ถือตนเป็นอัตตา
ไม่น่าจะเข้ามาในวงวรรณกรรมให้หมองมัว
กบในกะลา 31 พ.ค. 48 - 11:34
กระทบจิตใจของหมึกมรกตเป็นอย่างมาก
ทั้งที่จริง...หมึกมรกตต้องการสื่อเพียงแต่เหตุผลที่คนไม่ชอบอ่านกลอน
หมึกมรกต รับฟังและยอมรับในความคิดเห็นของคนอื่นเสมอ
แต่รับไม่ได้ ที่มีคนด่าทออย่างไร้เหตุผล
มิหนำซ้ำบทกลอนนี้....
กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง
กลอนจะซึ้งติดใจและให้คุณ
คำสุดท้ายวรรคแรกแยกพิเศษ
สามัญเขตหวงห้ามตามเกื้อหนุน
ท้ายวรรคสองต้องรู้อยู่เป็นทุน
เอก-โทจุนจัต-วาประพนธ์
ท้ายวรรคสามวรรคสี่นี้จำมั่น
เสียงสามัญ-ตรีใช้ได้ทุกหน
สัมผัสซ้ำจำจดงดปะปน
จงคิดค้นถ้อยคำที่จำเป็น
ไม้ไต่คู้ใช้กับไม้ไต่คู้
เมื่อฟังดูเด่นดีทั่งที่เห็น
เสียงสั้นยาวก้าวก่ายหลายประเด็น
อย่าบำเพ็ญพ้องกันนิรันดร
อย่าเขียนให้ใจความตามเพ้อนึก
จงตรองตรึกตระหนักเรื่องอักษร
คติธรรมนำใส่ให้สังวร
รวมสุนทรถ้อยไว้ให้งดงาม
จุดจบก็ขอให้กินใจหน่อย
มิควรปล่อยเปะปะเหมือนสะหนาม
จบให้เด่นเห็นชัดจำกัดความ
ให้ตรงตามเค้าโครงเรื่องโยงใย
เขียนเสร็จสรรพกลับมาตรวจตราผิด
ตรวจชนิดเรียงตัวทั่วกันใหม่
เมื่อเห็นเพราะเหมาะดีจี้หัวใจ
จึงเผยให้ประชาชนตราตรึง
กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง
ผู้อ่านจึงจะชอบชมขอบคุณ...
เป็นงานประพันธ์ของ ส.เชื้อหอมนักกลอนพระราชทาน(เนื่องจากเคยนำเสนอไปแล้ว จึงไม่ได้เขียนชื่ออีก)
หมึกมรกตคงมิกล้าบัญญัติอะไรมาให้คนอื่นทำตาม เพราะรู้ความสามารถของตัวเองเอง
หากใครด่าว่าบทกลอนดังกล่าว ก็มิเหมือนหมิ่นพระมหากษัตริย์เลยฤา
ส่วนกลอนบทนี้หมึกมรกตแต่งเอง
โอ้ชีวิตมนุษย์สุดแสนสั้น
ศิลปะเท่านั้นจีรังไม่จางหาย
อนันตกาลกว่าสิ้นชีวินวาย
งามเฉิดฉายยงอยู่คู่ขวัญกัลป์
เสกสรรค์สร้างสร่างโศกโลกมนุษย์
ให้วิสุทธิ์สันต์ยิ่งทุกสิ่งสรรพ์
สวยด้วยศิลป์สูงค่าสารพัน
คลายจาบัลย์ด้วยลักษณ์อักษรไทย
เธอ...วรรณกวีผู้วิศิษฏ์
จงนิรมิตมนต์กลอนอันอ่อนไหว
เสนาะสวรรค์จรดหล้าละมุนละไม
เลิศวิไลสมสยามนามอมร
มโนมัยลอยลิ่วปลิวฟ้า
ไหวลีลาหลากหลายลายอักษร
ผจงถ้อยร้อยถักสลักกลอน
ให้สุนทรสุนทรีย์ชูชีวัน
น้ำรุ้งร่วงโรยราวพราวโปรยเพชร
ดั่งกลเม็ดพริ้งเพริศอย่างเฉิดฉัน
รวมความงามความหมายไว้ด้วยกัน
เลอเลิศสรรพ์กุศลศิลป์กินใจเมือง
ปณิธานจารไว้ให้จำจด
เพื่อหยาดหยดความงามตามต่อเนื่อง
อ่อนละลวยพวยพุ่งสู่รุ่งเรือง
ให้ฟูเฟื่องอมตะอกาลิโกฯ
ขอย้ำอีกครั้งว่า ที่หมึกมรกตต้องการสื่อ คือ
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีคนจำนวนน้อยที่ชอบอ่านและเขียนกลอน ซึ่งหมึกมรกตเกรงว่าต่อไปอาจจะไม่มีใครสืบสาน
มรดกอันล้ำค่านี้ของคนไทยไว้อีกต่อไป จึงแสดงเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงไม่ชอบกลอน นักกลอนบางท่านให้ความเห็นว่า ก็ช่างปะไร ใครเป็นนักกลอนก็ควรสืบสานไป คนที่เขาไม่ชอบเพราะเขาไม่เข้าใจกลอน แต่งกลอนไม่เป็นต่างหากเล่า การคิดเช่นนี้หมึกมรกตเห็นว่า หากไม่มีการปลูกฝังให้คนชอบที่จะอ่าน ย่อมยากที่ชอบแต่ง เพราะหมึกมรกตก็เริ่มมาจากชอบอ่านกลอนก่อน จึงคิดที่จะแต่งกลอน และหากต่อไปไม่มีใครหันมาอ่านกลอนโดยเฉพาะเยาวชนรุ่นใหม่ แล้วต่อไปจะมีใครคิดจะแต่งกลอนเล่า
หมึกมรกตจึงเสนอเหตุผลว่าทำไม เพื่อให้นักกลอนอย่างเราๆเขียนกลอนให้คนอยากอ่านมากขึ้น เพื่อจะได้มีคนชอบแต่งมากขึ้น และนั่นย่อมเป็นการสืบสานอีกทางหนึ่ง
ในความคิดของหมึกมรกตก็ชอบความหลากหลายของกลอนเช่นเดียวกัน แต่ที่หยิบยกบทกลอนนี้ขึ้นมาเพราะได้เขียนถึงหลักการแต่งกลอนไว้หลากหลาย โดยคุณไม่ต้องยึดทั้งหมด สิ่งไหนเห็นว่าดีจึงนำไปปรับใช้ เพื่อที่จะสื่อให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของตัวคุณ
ด้วยความเคารพ
หมึกมรกต
Thaipoem membe
28 พฤษภาคม 2548 09:34 น.
หมึกมรกต
...กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง
กลอนจะซึ้งติดใจและให้คุณ
คำสุดท้ายวรรคแรกแยกพิเศษ
สามัญเขตหวงห้ามตามเกื้อหนุน
ท้ายวรรคสองต้องรู้อยู่เป็นทุน
เอก-โทจุนจัต-วาประพนธ์
ท้ายวรรคสามวรรคสี่นี้จำมั่น
เสียงสามัญ-ตรีใช้ได้ทุกหน
สัมผัสซ้ำจำจดงดปะปน
จงคิดค้นถ้อยคำที่จำเป็น
ไม้ไต่คู้ใช้กับไม้ไต่คู้
เมื่อฟังดูเด่นดีทั่งที่เห็น
เสียงสั้นยาวก้าวก่ายหลายประเด็น
อย่าบำเพ็ญพ้องกันนิรันดร
อย่าเขียนให้ใจความตามเพ้อนึก
จงตรองตรึกตระหนักเรื่องอักษร
คติธรรมนำใส่ให้สังวร
รวมสุนทรถ้อยไว้ให้งดงาม
จุดจบก็ขอให้กินใจหน่อย
มิควรปล่อยเปะปะเหมือนสะหนาม
จบให้เด่นเห็นชัดจำกัดความ
ให้ตรงตามเค้าโครงเรื่องโยงใย
เขียนเสร็จสรรพกลับมาตรวจตราผิด
ตรวจชนิดเรียงตัวทั่วกันใหม่
เมื่อเห็นเพราะเหมาะดีจี้หัวใจ
จึงเผยให้ประชาชนตราตรึง
กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง
ผู้อ่านจึงจะชอบชมขอบคุณ...
........................ **..**.......................
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่ยังคงชอบบทกลอน
ชอบที่จะอ่าน ชอบที่จะแต่ง และก็ชอบ..ฯลฯ
นั่นนะสิ...แล้วทำไมคนส่วนใหญ่กลับไม่ชอบเช่นนั้น ทั้งๆที่บทกลอน
เป็นสิ่งที่มีคู่เมืองไทยมาช้านาน แต่กลับได้รับความนิยม น้อยลงเรื่อยๆอย่างน่าใจหายหากปล่อยให้เป็นเฉกเช่นนี้ต่อไป บทกลอนมิหายสาบสูญไปจากชาติไทยเลยฤา...
...หมึกมรกต ตระหนักในความสำคัญตรงจุดนี้เป็นอย่างดี จึงได้สอบถามความคิดเห็นของคนทั่วไปว่า...ทำไมจึงไม่ชอบอ่านกลอน...
เหตุผลอันดับ 1. ที่คนส่วนใหญ่ให้คำตอบ..บอกว่า บทกลอน ยากแก่การเข้าใจ เพราะอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง
เหตุผลอันดับ 2.คือ..บทกลอนไม่ต่อเนื่องเป็นเรื่องราว ทำให้ขาดความหนักแน่นของเนื้อหา ไม่เหมือน เรื่องสั้น หรือ นวนิยาย (ทั้งนี้อาจจะเป็นผลจาก ข้อ 1 เพราะผู้อ่านไม่รู้เรื่องว่าผู้แต่งต้องการสื่ออะไร ทั้งๆ ที่ผู้แต่งอาจจะแต่งได้คม แต่บาดตัวเอง)
เหตุผลอันดับ 3.คือ..บทกลอนล้าสมัย โบราณ ไม่เป็นปัจจุบัน
เมื่อทราบเหตุผลดังกล่าวแล้ว ในฐานะที่คุณได้ขึ้นชื่อว่า เป็นนักกลอน คงจะทราบดีว่า จะทำอย่างไรเพื่อที่จะธำรงไว้ซึ่งความสุนทรียภาพของอักษรไทยตราบนิรันดร์
โอ้ชีวิตมนุษย์สุดแสนสั้น
ศิลปะเท่านั้นจีรังไม่จางหาย
อนันตกาลกว่าสิ้นชีวินวาย
งามเฉิดฉายยงอยู่คู่ขวัญกัลป์
เสกสรรค์สร้างสร่างโศกโลกมนุษย์
ให้วิสุทธิ์สันต์ยิ่งทุกสิ่งสรรพ์
สวยด้วยศิลป์สูงค่าสารพัน
คลายจาบัลย์ด้วยลักษณ์อักษรไทย
เธอ...วรรณกวีผู้วิศิษฏ์
จงนิรมิตมนต์กลอนอันอ่อนไหว
เสนาะสวรรค์จรดหล้าละมุนละไม
เลิศวิไลสมสยามนามอมร
มโนมัยลอยลิ่วปลิวฟ้า
ไหวลีลาหลากหลายลายอักษร
ผจงถ้อยร้อยถักสลักกลอน
ให้สุนทรสุนทรีย์ชูชีวัน
น้ำรุ้งร่วงโรยราวพราวโปรยเพชร
ดั่งกลเม็ดพริ้งเพริศอย่างเฉิดฉัน
รวมความงามความหมายไว้ด้วยกัน
เลอเลิศสรรพ์กุศลศิลป์กินใจเมือง
ปณิธานจารไว้ให้จำจด
เพื่อหยาดหยดความงามตามต่อเนื่อง
อ่อนละลวยพวยพุ่งสู่รุ่งเรือง
ให้ฟูเฟื่องอมตะอกาลิโกฯ