หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
คนหน้าหม้อ ๑). ๐ เบื้องหน้าคือหม้อน้ำบนเตาไฟ ที่คายไอร้อนผ่าวมาอ้าวหน้า จึงผุดเหงื่อราวแมงลักทะลักมา และเกาะบนขนตาเป็นหยาดดวง เขายกแขนเสื้อเช็ดหยดเม็ดน้ำ ก่อนหยดฉ่ำเม็ดใสจะไหลร่วง ลึกลึกรู้สึกได้ถึงในทรวง ว่ากำลังขับท่วงทำนองเพลง โอบทเพลงเปล่งเสียงมาเลี้ยงหล่อ เลือดหนอก็เวียนไวก็ไหลเร่ง บทเพลงแห่งการงานยังบรรเลง เขายังเคร่งคร่ำต่อหน้าหม้อน้ำ ๒). ๐ เป็นคนขายก๋วยเตี๋ยวก็ต้องขายก๋วยเตี๋ยว กระเทียมเจียวต้องเหลืองให้เรืองก่ำ เส้นเล็กแห้งหมูแดงไก่เส้นใหญ่ต้มยำ ทุกคำหอมเกรียมกระเทียมเจียว ราววาทยากรได้ฟ้อนมือ แต่เริ่มฝึกปรือจนมือเชี่ยว คือชีวิตเอาจริงเพียงสิ่งเดียว ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นรสคุ้นลิ้น ทุกเม็ดน้ำพราวเนื้อคือเหงื่องาน อันผลิบานหวานชื่นกว่าอื่นสิ้น สัมมาอาชีวะ-เหงื่อระริน เขาทำมาหากินด้วยยินดี โรยหอมซอย ตังฉ่ายแล้วใส่กับ พร้อมพร้อมกับผักกาดหอมล้อมรอบหมี่ มหาเสน่ห์นางกวัก-มิพักมี เขาเชื่อมั่นเต็มที่ในฝีมือ ๓). ๐ ยังก้มหน้าดูหม้ออยู่ต่อไป หมูแดงไก่เป็ดตุ๋นอันกรุ่นชื่อ ล้วนมาจากพลังที่ถั่งฮือ โหมกระพือเร้าเร่งของเพลงงาน เพลงงานที่ประสานเสียงมาเลี้ยงหล่อ เลือดหนอก็เวียนไวก็ไหลพล่าน เป็นจังหวะจะโคนเพื่อดลดาล การผลิบานหวานชื่นกว่าอื่นใด โถมชีวิตเอาจริงเพียงสิ่งเดียว ก๋วยเตี๋ยวหมี่เป็ดเส้นเล็กเส้นใหญ่ เขาลวกเสร็จสะเด็ดพลันในทันใด หอมซุปตุ๋นกรุ่นไอ-ชื่นใจแท้
หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
หลังการแตกสะเก็ดของดวงดาว หลับตาสิ- แล้วดิ่งลงลึกไปในเงามืดของความฝัน ดวงดาวล้านดวงกำลังสุกปลั่งสว่างไสว และกาแลกซี่กำลังเปลี่ยนระนาบ ได้ยินไหม? เสียงแตกสะเก็ดของดาวบางดวง ก่อนร่วงลิ่วกราวลงมาพื้นโลก บนดิน- บนพื้นดินที่เธอเหยียบยืน ด้วยกระโปรงขาวลูกไม้สีชมพูและหมวกปีกกว้าง ลมแม่น้ำคร่ำคร่าหอบพัดกลิ่นหอมของดอกไม้ไร้ชื่อมาแต่ตลิ่ง ดอกลำพูบานแล้วหลังทุ่งหญ้าเวิ้งว้างดอกสดไปจรดขอบโลก ตรงที่แดดกำลังอัสดงแดงจัดจ้าน เห็นไหม? ปีกที่กระพือผกของนกตัวหนึ่ง ก่อนโผลงเกาะคบคาลำพู แม่น้ำนิ่งสงบเยือกเย็น ขลุ่ยบางลำคร่ำครวญมาตามผิวหน้าเรียบนิ่งสะท้อนตลิ่งสองฝั่ง โลกที่ทุกอย่างกำลังเคลื่อนเข้าสู่ภาวะเงียบสงบไร้การเคลื่อนไหว มีบางสิ่งบางอย่างก่อตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆ ช้าช้า แล้วจงลืมตา- เธอจะเห็นการผลิงอกของต้นอ่อนจากเมล็ดพันธุ์หนึ่ง หลังจากเศษสะเก็ดดาวได้ป่นตัวเองลงเป็นผงดิน และกระโปรงขาวลูกไม้ชมพูสะบัดไปตามแรงลมเอื่อยเบา หมวกปีกกว้างกลับสงบนิ่งอยู่ริมตลิ่ง เฝ้าฟังเสียงแม่น้ำชราขานรับเสียงขลุ่ยอ่อนโยน นกที่กิ่งลำพูตัวนั้นจักร้องเพลง...๒๒ มิถุน ๒๕๔๙
หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
ความรื่นรมย์สุดท้าย ๑). ๐ หอมไหมกลิ่นหวานแห่งบ้านชายภู ณ ฤดูเมฆคลุ้มฟ้าอุ้มฝน หอมโมกไม้ละลายหอมมาล้อมวน หอมกล่นเกลื่อนโลกหนอโมกไม้ หวานไหมรสหอมหมอกห้อมเรือน ชื่นเหมือนเต็มตาตื่นเต็มคืนไหม เมื่อคืนฝนลงดอก-เช้าหมอกไอ คลี่สไบแตะตื่นด้วยผืนบาง แผ่วเพลงฮาร์โมนิกามา-หลับตาสิ แผ่วจะผลิเพลงโผยมาโรยสาง สรรพส่ำสำเนียงจะเรียงราง ทอดเส้นเป็นทางให้วางเท้า บนบรรทัดห้าเส้น-เธอเห็นไหม เสียงใจอึงขรมที่ลมเป่า แล้วเปิดตาเพ่งร่างหมอกบางเบา ฟังเงาไม้โมกที่โบกใบ ๒). ๐ แตะแสงแห่งเช้าสักคราวครู่ แตะอณูตรู่สางรางชางสมัย หมอกกำลังหมาดเรื่อมาเอื้อไอ เพียงใดหอมฟุ้งหนอรุ่งเช้า รักเธอที่รัก-ฉันรักเธอ แอบเอ่อน้ำตาจนบ่าเบ้า สูดกลิ่นอายหอมว้างจากร่างเงา เวิ้งหอมกล่อมเหงาอยู่เนานาน นานพอจะร้องไห้มิให้เห็น อยู่ในเส้นบรรทัดลมพัดผ่าน รักเอยรักหนอทรมาน พล่านพลุ่งฟุ้งซ่านในการคิด หอมหมอกโศกโมกเศร้าในเช้าสวย หอมมวยผมศกเธอปรกปิด อยู่ใกล้เพียงมือเงื้อมจะเอื้อมชิด เพียงเคลื่อนที่ชีวิตสักนิดน้อย หากลมบางหว่างกั้นสัมพันธภาพ ไร้รูปไร้ระนาบ-ผงะถอย ย่ำเช้าเท้าย่ำเธอย่ำรอย เหลือร่อยรอยย่ำจนช้ำเช้า เผลอจูบรอยนิ้วชี้-ริมฝีปาก เธอฝากรสแตะแต่ก่อนเก่า เผลอกระทั่งหวังเพ้อละเมอเคล้า จูบเงาไหวโบกของโมกไม้ สัมผัสฉันสักครู่-ฟังบลูส์ดิบ กระซาบกระซิบฟังสิ-คอร์ดคีย์ใหม่ ฮัมคลอฮาร์โมนิกาเศร้า-ฉันเข้าใจ สะอื้นไหวขับเค้นทุกเส้นบรรทัด ยังเนียนรสนิ้วชี้-ริมฝีปาก ยังค้อนฝากวงหน้าอยู่หลัดหลัด ฝากรอยก้อยเกี่ยวเธอเหนี่ยวรัด ฝากชัดจัดแจ่ม-ก่อนแรมลา ๓). ๐ นานพอจะร้องไห้มิให้รู้ ฉันผู้หวังวาดปรารถนา เสียงสักเสียงเรียงร่วงจากดวงตา ขลับกะพริบขลิบพร่ากล่อมฟ้าเช้า ฟังสิ-ฮาร์โมนิกาคีย์อี ความขมขื่นที่มี-แสนเศร้า นานช้าที่อิดออดโอบกอดเรา บางเบาแต่สัมผัสอยู่ชัดเจน นานเนิ่นที่เผินผิวที่พลิ้วไล้ นานพอจะร้องไห้มิให้เห็น กดน้ำตาซึมพรากแสนยากเย็น ยิ้มเค้นเร้นขื่นลวงคืนวัน ลวงทุกสรรพสิ่งที่ติงไหว ลวงแม้ลมหายใจที่ไหวหวั่น เพ่งพิศพินิจตรู่-ดูมัน หัวร่อล้อหยันวันคืน ฉันคนเดียวเท่านั้น-ฉันคนเดียว ขับเคี่ยวความตรอมตรมความขมขื่น คือความรื่นรมย์อันกลมกลืน กับเสียงสะอื้น-และอื่นใด ๔). ๐ หวานไหมรสหอมหมอกห้อมเรือน ชื่นเหมือนเต็มตาตื่นเต็มคืนไหม เมื่อคืนฝนลงดอก-เช้าหมอกไอ คลี่สไบผืนหมอกทุกซอกทาง ห่มความหนาวเหน็บให้เจ็บไข้ ดูเหมือนว่าอยู่ใกล้-แท้ไกลห่าง แหละเท้าเธอที่ย่ำหยาดน้ำค้าง ก็จะร้างรอยหมาดทุกหยาดน้ำ ฉันอยู่กับความรื่นรมย์อันขมขื่น ชื่นชมรมย์รื่นความกลืนกล้ำ เข้าใจดีโมกไม้จะร่ายรำ ตามท่วงทำนองเป่าที่เช้าพรม เป็นบรรทัดห้าเส้น-เธอเห็นไหม โหยไห้อึงมี่อึงขรม คีย์อี-ฮาร์โมนิกาใครที่ไล่ลม กลับระงมรัวรัวในหัวใจ หอมไหมกลิ่นหวานแห่งบ้านชายภู ณ ฤดูตรู่สวยนี้ป่วยไข้ คือการลวงสุดท้าย-ลมหายใจ ฉันกำลังร่ำไห้มิให้รู้ สัมผัสลมหายใจ-อุ่นไหมเธอ แหละเออนิ่งฟังสักครั้งครู่ รสหอมกล่อมเช้าอยู่กราวกรู โมกลู่ยอดเอนระเนนราย แตะแสงแห่งเช้าอีกคราวครู่ ก่อนอณูตรู่สางรางชางสลาย อำลาเถิด - ฟ้าจะพร่างสว่างพราย ความรื่นรมย์สุดท้าย-ทลายแล้ว! โย่ว สบายดีกันไหมฮะทุกท่าน ตอนนี้ ๔ ทุ่มแระ ง่วงกันมากไหมเอ่ย?
หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
๑). ที่รัก& เดี๋ยวอีกสักเพียงครู่ก็ตรู่รุ่ง กลิ่นดอกเช้าแสนหอมจะหอมฟุ้ง ชโลมคุ้งขอบโลกมาโกรกเรือน อีกเพียงมิกี่กะพริบของดวงดาว ความชืดหนาวแสนมืดจะจืดเฝื่อน เพื่อจะทอแสงรางขึ้นรางเลือน แล้วแรเลื่อนไล่รางจนรางราง แหละอีกมินานเลยจักเผยภาพ อันอาบแสงพรายแดดสายพร่าง ส่องฉาดสาดฉายทุกสายทาง จัดจ้านสานสางขึ้นสางฟ้า นี่คือเรือนสุดท้ายในชีวิต หลังจากติดปีกบินทุกถิ่นท่า ที่จะพักความหนักหน่วงของดวงตา และดวงใจอ่อนล้านิรันดร์กาล ๒). เคยไหม?.-ความมืดดำที่งำชีวิต นั้นคลุ้มทิศครึ้มเหมือนมิเคลื่อนผ่าน ท่วมท้นล้นทะลักจากจักรวาล ขนาบกร้านขนานกร้าวทุกเท้าทาง เคยไหย?-ดั่งดวงตานี้ฝ้าหม่น มืดมนแล้วโลกที่โศกสร้าง และยิ่งทุกขณะตานี้ฝ้าฟาง ยิ่งเดินก้าวเท้าย่างบนทางรก นั่นแหละ-ทุกโขดเขินฉันเดินมา เหวชะโงกโตรกผาและป่าปรก แต่ละหนแห่งเยือนเหมือนนรก ให้ตื่นตกตระหนกขวัญและฝันร้าย ฝันร้ายมาตลอดชีวิตการเดินทาง ฝันระหว่างทางทอดตลอดสาย นั่นแหละ-การกัดกรามสู้ความตาย ที่ฉันบ่ายใบหน้าเข้าหามัน! ๓). ดึกสงัดหนาวเทิ้มมาเติมดึก สักเพียงพรึกเป็นเพื่อนก็เฝื่อนฝัน ดวงตา-ชะตากุมด้วยกลุ่มควัน ดวงใจจึงไข้ครั่นตะครอคลอ มากอดเข่าร่ำไห้อยู่ดายเดียว ในเรือนเปลี่ยวหนาวลมที่ห่มห่อ กอดตนเองสะอื้นจนขื่นคอ ถั่งทอน้ำตาจนพร่าพราย สวยแท้ความเศร้าโศกของโลกระยำ หวานล้ำความขมแค้นนับแสนสาย หอมเหลือกลิ่นความเศร้าที่คาวคาย โชคร้าย-ฉันยังมีซึ่งชีวิต!! ๔). เธออยู่ ณ ที่ใดโลกใบนี้? คุ้งฟ้าราตรีนี้มืดสนิท ชโลมอาบฉาบโลกจนโชกทิศ โซมมืดจนมืดมิดสนิทฟ้า มืดมนจนมิเห็นสักเส้นแสง ที่ดาวแต่งให้เห็นสักเส้นค่า มืดมิดสนิทห้วงบดดวงตา อันเฟือนฝ้าฝาดดวงของห้วงใจ เธออยู่ที่ใด ณ โลกใบนี้? ชีวิตที่ฉันเคย-เธอเคยไหม? หนาวลมพรมระบัดที่กวัดไกว นี้ชื้นไอหนาวเยือกสุดเฮือกแล้ว เคยไหม?-ความเหน็บหนาวในชีวิต ห่มเธออยู่แนบชิดทุกทิศแถว เคยไหม?-หวังสักพราวดาวดวงแพรว กลับดวงแก้วแวววับนั้นวับวาย สวยแท้ความเศร้าโศกหนอโลกระยำ หอมล้ำความขมแค้นนับแสนสาย หยาดน้ำตารี่รุดเม็ดสุดท้าย มือฉันป้ายพรายฝาด-แล้วปาดทิ้ง! ๕). เมื่อใดจะทอแสงรางขึ้นรางเลือน ยิ่งดูเหมือนดึกคล้อยยิ่งอ้อยอิ่ง มีเพียงอายลมหนาวมากราวติง ลั่นกริ่งกังสดาล ณ ชานเรือน โอความมืดดำที่งำวิญญาณ หนาวสะท้านสิ้นไร้สักใครเพื่อน โอโขดเขินเนินเขาที่ก้าวเยือน ยิ่งดูเหมือนนรกตามสุมอกมิวาย สวยแท้ความเศร้าโศกอันโชกชุ่ม ทุกเหลี่ยมมุมงามแท้-ความแพ้พ่าย เสียงสะอื้นฟังสิ-จะอธิบาย ชีวิตก่อนความตายจะกุมกำ ฉันกอดเข่าร่ำไห้อยู่ดายเดียว ขับเคี่ยวความเจ็บปวดที่หวดย่ำ ในโลกหนาวชืดแสนมืดดำ รอหอมล้ำแสนเศร้าที่เช้าปรุง ที่รัก& เดี๋ยวอีกสักเพียงครู่ก็ตรู่รุ่ง เรือนจะไหม้ควันคลุ้มเป็นกลุ่มคลุ้ง และศพสดสะดุ้งเมื่อถูกไฟ! มันใกล้จะเช้าละยังหว่า เฮ้อออออออออออออออออ
หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
คือมือนุ่มนิ่มอันอิ่มเต็ม ไต่เล็มมือหนา-ฝ่าใหญ่ พ่อกำมือลูกน้อยกลอยใจ ตาใสเจ้าหนอลูกพ่อเอย ฝาดเหลือเนื้อนุ่มน่ากุมจับ ตาวับขลับเงาเจียวเจ้าเอ๋ย เดียงสาตากวางอย่าร้างเลย ให้วับเย้ยโลกกว้างอยู่อย่างนี้ เป็นเด็กดีของพ่อมิพอหรอก โลกนอกเรือนบ้านสถานที่ เจ้าต้องพร้อมตนเป็นคนดี จึงมีฐานะสมมนุษย์ จงเติบโตเริงร่าประสาเด็ก โลกใบเล็กเหนื่อยก็พัก-หนักก็หยุด ดูเถิดเมฆบนฟ้า-พญาครุฑ ทรงชุดฝ้ายขาวจนพราวฟ้า แหละซุกซนเถิดเจ้าเมื่อเยาว์วัย เด็กใดย่อมซุกซนตามประสา เติบโตเหมือนเช่นพ่อเป็นมา เช่นปู่ย่าของลูกเคยซุกซน จนเมื่อเจ้ากำนิ้ว-พ่อกิ๊วล้อ ลูกหนอนี่ใช่โลกใบส้มผล เป็นเพียงนิ้วธรรมดาสามัญชน ที่ปั้นมือลูกตนให้ทนทาน ให้มือหนาฝ่าใหญ่สมใจพ่อ แข็งแรงแกร่งพอจะต่อสาน ปั้นโลกสืบทอดตลอดกาล ส่งผ่านช่วงต่อคนต่อไป คือมือนุ่มนิ่มอันอิ่มเต็ม ไต่เล็มมือหนา-ฝ่าใหญ่ จึงกำมือลูกน้อยเจ้ากลอยใจ นิ้วเจ้าไชมือกรำที่กำกุม คือเจ้า& วัยเยาว์เจ้าเอ๋ยพ่อเคยอุ้ม โลกนี้มิช้าดอกทุกซอกมุม ผู้ที่มือนิ่มนุ่มจะกุมกำ! หวัดดีคร้าบบบบบบบบบบทุกๆท่าน อันนี้เขียนให้เพื่อนน่ะครับ กริๆ มันมีลูกน่ารัก เห็นแล้วก็อิจฉามัน การจะมีลูกได้นี่ มันต้องมีเมียก่อนใช่ไหมครับ?