29 ธันวาคม 2547 18:16 น.
หมามุ้ย
ยกมือขึ้นแล้วได้โปรดนั่งลงด้วยคร๊าบ เสียงจากชายผู้นั้นยังไม่ทันจบเสียงพูดเขาใช้มือล็อคคอฉันไว้ แล้วใช้ปืนจี้ไปที่เอว เฮ้ย!ไอ้เสือทั้งหลายจัดการ ผู้บุกรุกทุกคนต่างก็เดินเข้าไปปลดทรัพย์สินอันมีค่าของบรรดาแขกที่มาร่วมงานเลี้ยงของฉัน และทันใดนั้นก็มีเสียงจากโทรโข่งดังขึ้น ยังคงเป็นคำบ้านๆที่ได้ยินตามละครทีวีเกือบจะทุกช่องหยุด!นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าทำร้ายตัวประกัน มอบตัวซะ ยอมให้จับซะโดยดี มอบให้โง่หรอครับคุณตำรวจ ผมไม่ใช่เด็กอมนิ้วโป้งแล้วนะครับ ถ้าไม่อยากให้ยัยหนูคุณนี้ตาย ก็กรุณาหุบปากซะนะครับ ชายคนที่ล็อคคอฉันพูดตอบโต้กับตำรวจด้วยสำเนียงที่ค่อนข้างกวนและไม่เกรงกลัวอะไร แล้วอีกเสียงก็ดังขึ้นไอ้เสื้อ ไปโว้ย!ไปใช้เงินที่ปล้นมาได้กัน แล้วผู้บุกรุกงานของฉันก็เดินออกมาขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างนอกบ้านฉันไปด้วยท่าทีที่ไม่รู้สึกอะไร พร้อมกับเอาตัวฉันไปด้วย มดดำ มดดำ ลูกแม่ มดดำ เสียงแม่ของฉันร้องตามด้วยน้ำเสียงสะอื้น ตำรวจได้ตามมาติดๆ แต่ก็ตามไม่ทันเพราะ พวกผู้ร้ายได้ได้พาพวกที่ขึ้นรถกระบะแล้วจอดให้พวกลงกลางทาง เหลือแต่คนขับรถที่ไม่ได้ลง คนที่ขับรถคันนั้นขับรถต่อไปอีกแล้วไปลง ณ ที่ที่เขาจอดรถอีกคันหนึ่งไว้แล้วขับกลับมายังที่พักของเขา ส่วนพวกที่ลงมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งตัวฉันด้วย ก็เดินมาตามแนวป่า เพื่อไปยังที่พัก เมื่อฉันและพวกเขามาถึงที่พักของพวกเขา ฉันได้สะบัดตัวออกมาจากชายที่จับฉันไว้ แล้วกระชากผ้าที่ปิดตรงส่วนจมูกลงไปออก ภาพที่ฉันเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผิวขาว ตาหวาน หล่อ ฉันแทบไม่อยากเชื่อ ข้าวฟ่าง ผู้ชายที่ฉันหลงรักเมื่อตอนเรียนมัธยม มาเกือบ 5ปี หลังจากจบม.6ฉันก็ไม่เจอเขาอีกเลย ฉันอึ้งมากเมื่อรู้ว่า โจรที่ไปปล้นงานเลี้ยงของฉันคือเขา มดดำข้าวฟ่างร้องเรียกชื่อฉันด้วยอาการเดียวกัน คือ อึ้ง ทึ่ง และตกใจ ทำไม ฉันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ทำไมนาย ฉันยังอยู่ในภวังค์ที่ตะลึงทำไมนายถึงฉันพยายามจะพูดแต่พูดไม่ออกและก็มีเสียงดังขึ้น เฮ้ย!ฟ่าง รู้จักนังคุณหนูไฮโซเนี่ยด้วยหรอว่ะ
ครับพี่ เพื่อนฟ่างเอง ข้าวฟ่างพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
ไม่ยักรู้นะว่า น้องชายพี่มีเพื่อน สวยๆ อย่างงี้กับเค้าด้วย แล้วจะทำยังไงกับนังคุณหนูนี้ว่ะ เสียงผู้ชาย รูปร่างสูงพูดกับข้าฟ่างและพวกของเขา ปล่อยไป พี่ เสียงของข้างฟ่างพูดกับผู้ชายคนนั้น แต่ ตาของเขายังคงจ้องมองหน้าฉันอยู่ เช่นเดียวจากฉันที่ยังไม่หลุดออกจากภวังค์ที่ตะลึง และยังคงจะพยายามถามว่าทำไม
เฮ้ย!ปล่อยไป เดี๋ยวยัยคุณหนูก็ไปแจ้งตำรวจมาจับพวกเราเข้าตารางน่ะดิเสียงของผู้ชายตัวเล็กๆ ผิวขาว ดังมาจากข้างหลังฉัน ไม่หรอก มดไม่แจ้งตำรวจหรอกค่ะ ฉันพูดขึ้นมา มดดำ อยากคุยกับฟ่างมั้ย ข้างฟ่างถามฉัน
ฉันไม่พูดอะไร พยักหน้าอย่างเดียว ข้างฟ่างจูงมือฉันเดินมาที่ หลังที่พักที่พักของพวกเขาเป็นบ้านหลังใหญ่ สวยมาก ฉันมองไปรอบๆแล้วถามข้าวฟ่างว่า นี่บ้านใครหรอฟ่าง ข้าวฟ่างเหลือบตาไปมองรอบๆแล้วตอบมาว่า บ้านฟ่างเอง ฉันถึงกับหัวเราะ
บ้านใหญ่อย่างงี้ ทำไมยังต้องไปปล้นอีกล่ะ แถมปล้นงานเลี้ยงมดอีก ฉันพูดปนน้ำเสียงขำๆแกลมน้อยใจที่เลือกปล้นงานเลี้ยงของฉัน
จริงๆ แล้วฟ่างไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะ แค่นึกสนุกน่ะ แต่พอทำแล้วไม่เห็นสนุกเลย ฟ่างทำครั้งนี้ครั้งแรกและก็จะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วฟ่างก็ไม่รู้ว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของมด ถ้ารู้ฟ่างคงไม่ทำ จะว่าไปแล้วก็ดีเหมือนกันนะที่ฟ่างเกิดความคิดบ้าๆเบบนั้น ข้าวฟ่างพูด พร้อมกับทิ้งประโยคปริศนาไว้
ทำไมถึงว่าดี ล่ะ มดไม่เห็นว่าจะดีตรงไหนเลย ถ้าพลาดถูกตำรวจจับขึ้นมา ฟ่างได้ติดคุกหัวโตแน่ฉันพูดแกลมขำๆ
ก็ดีที่ว่า ไปปล้นแล้วได้เจอมดไง ตั้งแต่จบไปนะ เราก็ไม่ได้เจอกันเลย ข้าวฟ่างพูด ทำให้ฉันถึงกลับยิ้มออก
ฉันคุยกับข้าวฟ่างอยู่นาน จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากทางประตูฟ่าง เอาไงกับยัยคุณหนูนี่ดีว่ะ ปล่อยไปเหอะพี่โอ๊ต ข้าวฟ่างพูดกับผู้ชายคนนั้น ฉันพึ่งจะเห็นหน้าตาของเขา เพราะตลอดเวลาเขาปิดหน้าไว้ตลอด หน้าเหมือนข้าวฟ่างมาก ทำให้ฉันรู้ว่า นี่คือพี่ข้าวโอ๊ต พี่ชายแท้ๆของข้าวฟ่าง พี่โอ๊ต อ๋อ!พี่ข้าวโอ๊ต ขวัญใจยัยปาล์มนี่เอง ฉันพูดถึงเพื่อนร่วมห้องที่เคยปลื้มพี่ข้าวโอ๊ต
แหม!ยังอุตส่าห์ จำได้ นะครับ ถ้าให้เดา นี่ก็คงจะเป็นน้องมดดำ คนที่ใครๆก็อยากได้มาดูแลใจใช่มั้ยครับ พี่โอ๊ตพูด พร้อมเล่นลิ้นหน่อยๆ
แหม!ยิ่งโตยิ่งสวย จนพี่จำไม่ได้เลยนะครับ ตอนแรกที่ฟ่างมันพูดมด มดดำ พี่ก็ยังนึกอยู่ว่าใคร พี่เขาพูดต่อพร้อมกับยอฉัน พี่โอ๊ต ยิ่งโตก็ยิ่งหล่อนะค่ะ ดูแมนมากๆเลยค่ะ ฉันยอพี่เขาคืน
ฟ่างว่า มดดำกลับบ้านดีกว่านะ มันดึกแล้วเดี๋ยว!ฟ่างไปส่ง แล้วมดดำจะบอกแม่ว่าไงหรอ ฟ่างว่านะแม่มดคงจะแจ้งตำรวจแล้วล่ะ ข้าวฟ่างพูดกับฉันพร้อมทำหน้าค่อนข้างซีเรียส
เดี๋ยว!มดจะจัดการเอง แล้วไอ้ของที่ปล้นไปฟ่างจะให้เอาไปคืนมั้ย ฉันถามข้าวฟ่าง
เออ!พี่ว่าก็ให้มดดำเอาไปคืนเหล่าไฮซ้อทั้งหลายเลยดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปหยิบมาให้ พี่ข้าวโอ๊ตพูดจบก็เดินออกไปทางประตู
ข้าวฟ่าง พรุ่งนี้ มดดำมาหาข้าวฟ่างได้มั้ย ฉันพูดพร้อมยิ้ม
ได้ดิ บ้านหลังนี้ ยินดีต้อนรับมดเสมอ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่แจ้งตำรวจ ไม่ให้ใครรู้ที่อยู่ฟ่างข้าวฟ่างพูด พลันชูนิ้วก้อยขึ้นมา อืม ฉันรับปากข้าวฟ่างพลันชูนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับเขา
หลังจากนั้นข้าวฟ่างก็พาฉันเดินฝ่ากองหญ้า ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบตีสองตอนนั้นค่อนข้างมือ ฉันมองไปรอบๆมันมืดไปหมด เราจะเดินไปไหนหรอข้าวฟ่าง ฉันถามข้าวฟ่างด้วยอาการกลัวๆ
เดินไปขึ้นรถอยู่ตรงทางออกน่ะ แถวนี้มันเป็นป่าเอารถเข้ามาไม่ได้ ก็เลยต้องจอดไว้ด้านหน้า เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ข้าวฟ่างตอบฉันด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น เดินไปซักพักฉันก็ต้องล้มลงเพราะมีตัวอะไรก็ไม่รู้มากัดที่ข้อเท้าของฉัน โอ้ย! ฉันเจ็บและปวดมาก เป็นไรไป มดดำ ข้าวฟ่างถามฉันด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ ทันใดนั้นท้องฟ้าที่กำลังมืดก็สว่างขึ้นมาทันที
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะค่ะ
26 ธันวาคม 2547 12:48 น.
หมามุ้ย
อาถรรพ์ พญางู [ ตอนที่ 1 ]
ฉันก้าวมา ณ ที่ แอร์พอร์ท พร้อมเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าใบใหญ่และหนักอยู่หลายใบ พร้อมๆกับกวาดสายตามองไปรอบๆเผื่อจะเจอคนที่มารอรับฉัน
เฮ้!มดดำ ทางนี้ เสียงของ เอมี่เพื่อนตัวแสบของฉันเรียก
ฉันมองไปที่ต้นเสียงว่ามาจากทางไหน พร้อมๆกับเดินไป ณ ที่ตรงนั้นฉันเห็นเพื่อนรักและแม่ของฉัน ยืนอยู่ เมื่อฉันเดินไปถึง ณ ที่ตรงนั้น ฉันยกมือแล้วสวัสดีแม่ของฉัน แล้วพลันเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง
เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยมั้ย ทานอะไรมารึยัง แม่ล่ะคิดถึ๊งคิดถึงลูก แม่ของฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
แหม!แม่ก็ทำอย่างกับไม่ได้เจอกันมาเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ฉันพูดแหย่แม่เล่น เพราะแม่พึ่งไปเยี่ยมฉันที่ LA. เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนที่ฉันรับปริญญาน่ะ เมื่อตอนที่ฉันอยู่ที่ LA.แม่ไปเยี่ยมฉันบ่อยมากเดือนละประมาณ 4-5 ครั้ง แม่ต้องบินไปโน้นไปนี้บ่อย แม่ฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับ เพชรและอัญมณี หลังจากที่ฉันรับปริญญาเสร็จฉันขอแม่อยู่เที่ยวที่นี้อีก ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงอยากอยู่เที่ยวที่นี้อีกทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ฉันอยู่ที่นี้ 6ปี ฉันก็เที่ยวจนจุใจแล้ว ในขณะที่หัวสมองฉันกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ฉันก็ต้องสะดุ้ง เพราะยัย
เอมี่เพื่อนตัวแสบของเรียกฉันด้วยน้ำเสียงที่ดังและประหลาดใจว่าทำไมฉันถึงใจลอย
ลูกคงเหนื่อย กลับบ้านไปผักผ่อนเถอะจ้ะ แม่พูดขึ้นมาเพราะเห็นท่าทางฉันเหนื่อยๆ
ก็ดีเหมือนกันค่ะ เอมี่ แล้ว คีย์ ,น้ำใส,กาเหว่า,จิ๊บจ๊อย กับเคธี่ล่ะ ฉันถามถึงเพื่อนรักอีก 5คนที่เหลือพร้อมเข็นรถเข็นไปขึ้นรถ
คีย์ มีสอบใหญ่ น้ำใส ไปต่างจังหวัด กาเหว่า เข้าโรงบาล จิ๊บจ๊อย โดนพ่อกักบริเวณ ส่วนเคธี่ ต้องไปสอบสัมภาษณ์งาน
เอมี่ตอบมาอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่เพื่อนมารับฉันไม่ได้ แต่ก็แปลกนะที่ฉันไม่ถามว่า กาเหว่าเป็นอะไรถึงเข้าโรงบาล
จิ๊บจ๊อยไปซ่าส์ที่ไหนอีกถึงโดนพ่อกักบริเวณ และอีกมากมายที่ฉันควรจะถาม แต่ฉันก็ไม่ได้ถาม บอกเอมี่เพียงว่าพรุ่งนี้จะไปหาเพื่อนอีก 5คนตอนสายๆ แล้วฉันก็ขึ้นรถส่วนตัวที่แม่ขับมารับ ส่วนเอมี่ก็ขึ้นรถส่วนตัวของเขาไป
หลังจากที่ฉันกลับมาถึงบ้านก็ไม่รีรอเดินขึ้นไปบนห้องทันทีแล้วฉันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ฉันคิดแล้วค่อยๆหลับตาลง และหลับไปได้ซักพัก ฉันฝันเห็นการเดินทาง เห็นงูยักษ์ และอะไรก็ไม่รู้รูปร่างเป็นเกล็ดๆ และมีสีอยู่ 3สีแต่จำไม่ได้ว่าสีอะไร ฉันฝันไปเรื่อยๆและก็ต้องสะดุงตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ข้างๆเตียงของฉัน ฉันเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์และพูดว่า
สวัสดีค่ะ และก็มีเสียงใสๆดังออกมาจากทางโทรศัพท์
แหม!เด็กนอกอย่างเธอพูดอะไรไทยๆเป็นด้วยหรอจ้ะ เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของ คีย์เพื่อนรักฉันอีกคน ฉันคุยโทรศัพท์อยู่นาน หลังจากวางสาย ฉันก็เดินลงไปข้างล่างพร้อมกับถามแม่ว่า
มีอะไรทานบ้างค่ะ แม่ก็ตอบว่า มดไปรอที่โต๊ะทานข้าวไป๋ลูกไป เดี๋ยวแม่ให้เด็กยกกับข้าวไปให้
ฉันไม่พูดอะไรทำตามที่แม่บอก คือเดินไปที่โต๊ะทานข้าว หลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้ว เสียงของแม่ที่นั่งทานอยู่ด้วยกันก็ดังขึ้น
แม่ว่า แม่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดีให้มด มดว่าไง ลูก
ก็แล้วแต่แม่เถอะค่ะ แม่ว่าไงมดก็ว่างั้นแหละค่ะ ฉันพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเซ็ง
มดเป็นอะไรไปลูก ไม่ดีใจหรอ หรือว่าไม่อยากให้แม่จัดงานเลี้ยงให้ แม่ถามฉันด้วยความสงสัย
ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เพียงแต่มดเหนื่อย นอนยังไม่เต็มอิ่มเลย คีย์ก็โทรมากวนซะก่อน แล้วแม่จะจัดงานให้มดวันไหนค่ะ
ฉันตอบข้อสงสัยของแม่ เดี๋ยวแม่ต้องรีบไปดูงานที่ต่างประเทศงานนี่งานใหญ่ คงไปนานกว่าปกติหน่อย ก็ว่าจะจัดพรุ่งนี้นะลูก มดโทร.ชวนเพื่อนได้เลยนะลูก แม่พูดกับฉัน แล้วยิ้ม งั้นมดขอตัวก่อนนะค่ะ ฉันพูดพร้อมยิ้มแหย่ๆให้แม่ เมื่อแม่พยักหน้าฉันก็ค่อยๆลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินขึ้นไปที่ห้อง ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ พร้อมกับนึกถึงฝันที่ได้ฝันไปเมื่อกี๋ ฉันรู้สึกแปลกๆกับฝัน
แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ซักพักฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.ไปชวนเพื่อนๆมางานเลี้ยงของฉันพรุ่งนี้
.วันรุ่งขึ้น
ฉันลุกจากเตียงแล้วไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จฉันก็ลงไปข้างล่าง เห็นผู้คนมากมายกำลังเตรียมงานของฉันอยู่ ฉันยิ้มและหัวเราะ พร้อมกับเดินไปกอดแม่ แล้วพูดขึ้นมาว่า แม่ หนูหิวข้าว แม่หันหน้ามาแล้วบอกว่า แม่ก็หิวเหมือนกันลูก งั้นปะ ไปที่โต๊ะทานข้าวกัน เดี๋ยวแม่จะบอกเด็กยกกับข้าวไปให้ ฉันเดินไปที่โต๊ะทานข้าวกับแม่ หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ฉันก็ไปเดินซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่ห้างสรรพสินค้าคนเดียว เพราะแม่ต้องอยู่จัดแจงงานเลี้ยงที่กำลังจะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้
ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เสียงเพลง และแสงไฟ
มดดำ เสียงเรียกชื่อฉัน ดังมาจากข้างหลัง ฉันหันไปมองตามเสียง และก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้ม เพื่อนรักของฉัน คีย์,
เอมี่,น้ำใส,เคธี่,จิ๊บจ๊อย และกาเหว่า ต่างเดินเข้ามาแล้วโอบกอดฉันด้วยความคิดถึง หลังจากที่งานเริ่มไปได้ซักพัก
ก็มีเสียงปืนที่ยิงขึ้นฟ้าดังมาจากข้างเวทีที่ฉันกำลังยืนอยู่เพื่อกล่าวทักทายแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน และทันใดนั้นเสียง กรี๊ดจากพวกเหล่าไฮซ้อ ไฮโซ และบรรดาแขกผู้มีเกียรติก็ดังขึ้น หยุด!ข้ามาที่นี้เพื่อปล้น เสียงเข้มจากชายรูปร่างสูงที่ยิงปืนขึ้นฟ้าดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงนุ่มๆของจากชายอีกคน ชายคนนั้นเดินขึ้นมาบนเวทีที่ฉันยืนอยู่
ติตามตอนต่อไปด้วยนะค่ะ ตอนแรกๆเรื่องราวจะไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ แต่ต่อๆไปจะเข้มข้นเรื่อยๆ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ