24 ธันวาคม 2546 11:47 น.
หมอกจาง
กลับมาเจอเพื่อนเก่าๆ หลังจากที่ร้าง ห่างหายกันไปเสียนาน เรื่องเก่า เรื่องโน้น เรื่องนี้ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาคุยกันอย่างไม่รู้เบื่อ แล้วก็มีคนหนึ่งเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมา
"จำอาจารย์ปรีชาได้ไหมวะ"
"จำได้สิ" อาจารย์ปรีชาแกเป็นครูแนะแนวของพวกผมตอน ม.3 ตอนนี้แกก็ยังคงสอนอยู่ที่โรงเรียนเดิมของพวกเรานั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้แวะไปหาแกบ่อยนัก..
"ขำเส้นตรงของแกเนอะ" เพื่อนอีกคนพูดขึ้น
"อือ ก็แกไม่ได้สอนคณิตศาสตร์นี่นา" จบคำก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นในกลุ่ม ผมนึกแปลกใจที่เพื่อนๆจำเรื่องนี้กันได้ดีทุกคน แต่ไม่รู้จะมีใครที่เคยย้อนคิดทบทวนมันอย่างผมไหมนะ.. เอาละ เดี๋ยวจะเล่าเรื่องวันนั้นให้ฟังแล้วกัน
วันนั้นอาจารย์แสงชัยที่สอนคณิตศาสตร์ป่วยหรือลาอะไรนี่แหละ ก็ลุ้นกันว่าใครจะมาสอนแทน พออาจารย์ปรีชาเข้ามาในห้องทุกคนก็ยิ้ม.. ชั่วโมงนี้ไม่ต้องเรียนแน่นอน ก็แกไม่ใช่ครูคณิตศาสตร์นี่นา..
"เอ้า..จะทำอะไรกันดีล่ะชั่วโมงนี้" แกทักหลังจากนักเรียนทำความเคารพเสร็จ
"ปล่อยออกไปเตะบอลครับ" ไอ้เอ้เสนอพรวดขึ้นมา เรียกเสียงหัวเราะจากในห้อง เอ้ปากมันกล้า ถึงตัวจะเท่าลูกหมา แต่ก็นั่นแหละ มันก็กล้ากับบางคนเท่านั้น ยิ่งอาจารย์ปรีชาแกดูแปลกๆหลุดๆด้วย พวกผมก็ไม่ค่อยเเกรงแกกันสักเท่าไร
"ชั่วโมงเรียน ออกไปเล่นข้างนอกได้ไงล่ะ" แกทำเสียงดุ แต่หน้าจืดๆแหยๆของแก ทำยังไงก็ดูไม่ดุ..
"ชั่วโมงที่แล้วเรียนอะไรถึงไหนกัน"
"เรขาคณิตค่ะ" หน่อย ที่เป็นหัวหน้าห้องเป็นคนตอบ อืมม..เด็กเดี๋ยวนี้เรียนเรขาคณิตกัน ม. ไหนนะ..
อาจารย์ปรีชาแกทำท่าคิดอยู่แป๊บนึง..
"วันนี้ครูจะสอนเรื่องเสันตรงละกัน" อ้าว.. ว่าจะไม่ต้องเรียนแล้วเชียว แถมสอนเรื่องเสันตรง หมูๆใครก็รู้..จะสอนทำไม ปล่อยให้คุยกันเสียยังดีกว่า..
"โหย..จารย์ ไม่ต้องสอนหรอก" ไอ้เอ้.. เจ้าเก่า "ปล่อยออกไปเตะบอลข้างนอกดีกว่า"
"ชั่วโมงเรียนก็ต้องเรียนสิ" อาจารย์ยังยืนกราน แต่หน้าแกก็ยังดูแหยๆเหมือนเดิม
"อากาศดีนะ..จารย์" แน่ะ..ยังไม่เลิก"ปล่อยออกไปข้างนอกเหอะ ผ่อนคลาย" ไอ้เอ้มันว่า เริ่มมีหลายเสียงในห้องดังสนับสนุนขึ้นมา
"พอๆ..ออกก็ออก" ทุกคนเฮ "ออกไปเรียนเสันตรงกันข้างนอกละกัน" เอ้า.. ยังไม่วาย อาจารย์นี่ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ..
บนถนนตรงๆเล็กๆสายหนึ่งริมสนามฟุตบอลประจำโรงเรียน นักเรียนนั่งรวมกันใต้ร่มหูกวาง อาจารย์ปรีชาแกนั่งอยู่บนม้าหิน..
"เอ้าไหนใครช่วยนิยามเสันตรงทีซิ"
"เส้นตรงคือเส้นที่ไม่โค้งครับ" ไอ้จ่อ ตัวแสบอีกตัวเริ่ม เรียกเสียงฮาประปราย
"ฝืดว่ะจ่อ" จำได้ว่าวันนั้นผมเหน็บเข้าให้
"มึงเงียบไปเลย" มันพูดไม่มองหน้า..
"เสันสั้นที่สุดที่ลากจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งครับ" อันนี้ความเห็นของไอ้เจ้าเอก คนเก่งประจำห้อง
"อือ แล้วอะไรอีก"
"นี่อาจารย์ไม่รู้แล้วหลอกถามพวกเราป่าววะ" ไอ้จ่อกระซิบถามผม ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันน่ะแหละ..
มีใครต่อใครตอบอีกหลายคำตอบแต่ไม่ค่อยเข้าเค้าเท่าไหร่ จริงๆนิยามเส้นตรงมันก็คือที่ไอ้เอกมันพูดไปนั่นแหละ มันจะมีอันไหนอีกล่ะ.. สุดท้ายหน่อย หัวหน้าห้องก็ตอบ
"เส้นตรงสองเส้นที่ขนานกันจะไม่มีทางพบกันไม่ว่าลากไปยาวแค่ไหนค่ะ" นั่นมันคุณสมบัติไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่นิยาม แต่ดูท่าอาจารย์ปรีชาจะพอใจกับคำตอบนี้แฮะ เห็นโยกหัวหงึกๆ..
"ตกลงเราได้นิยามของเส้นตรงสองข้อ" แกสรุปของแกเอง ไอ้เอกทำท่าจะค้าน แต่ก็เฉยเสีย
"หนึ่ง คือเส้นที่สั้นที่สุดที่ลากจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง สอง เส้นตรงสองเส้นที่ขนานกันจะไม่มีวันเจอกัน ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน" ทุกคนเงียบ ไม่มีการตอบรับใดๆ..
"เอาละเราจะมาเรียนเรื่องเส้นตรงภาคปฏิบัติ นำไปใช้ในชีวิตจริง" อาจารย์ประกาศ..
"กูอยากเตะบอล" ไอ้จ่อโอดครวญเบาๆ ผมก็นึกๆ อาจารย์แกจะเล่นอะไรวะ..
"ถนนนี้ตรงไหม" ทุกคนดูๆ
"ก็ตรงค่ะ" อันนี้หนึ่ง คู่หูหน่อยตอบ
"ในชีวิตจริง เราคงหาเส้นตรงเป๊ะอย่างตามตำราไม่ได้ ดังนั้นถือว่าถนนี้ตรงละกัน ตกลงไหม"
"คร้าบ,ค่ะ" มีเสียงรับมาแค่เนือยๆ ท่าจะเริ่มเบื่อกัน..
อาจารย์แกให้ไปเอาจักรยานมาสองคัน ให้ผู้ชายขี่ ผู้หญิงซ้อน แล้วแกก็เอาชอล์คมามัดกับปลายกิ่งไม้ไว้ให้แน่น
"ผู้ชายขี่ไป ผู้หญิงลากเส้นตรงไปบนถนน ตามนิยาม" โห..เล่นง่าย ทำยังกะเราเป็นเด็กป.6
ตกลงสรุปได้อาสาสมัครคือไอ้เอ้กับไอ้จ่อขี่รถคนละคัน หนึ่งซ้อนไอ้เอ้ หน่อยซ้อนไอ้จ่อ
"ขี่ให้ตรงๆนะมึง" ผมแซวไอ้จ่อ
"หมูว่ะ"
อาจารย์ให้ทั้งสองคันขี่ไปพร้อมๆกัน แข่งกันว่ามครจะลากเส้นได้ตรงที่สุด ยาวที่สุด ห้ามขาแตะพื้น แตะตรงไหน หยุดตรงนั้น..
"เอ้า ไป.." แกเอานิ้วมือยัดปากแล้วเป่าปรี๊ด ผมนึกแปลกใจที่แกเล่นยังงี้เป็นด้วย..
เสียงเชียร์เริ่มดังขึ้น มีเสียงแซวเป็นระยะ
"เฮ้ย จ่อ ขี่จักรยานเป็นป่าววะ"
"ไอ้เอ้อย่าเกร็งเด่ะ เฮ้ยๆเดี๋ยวตกถนนหรอก"
"หน่อยขีดชัดๆสิ ถนนไม่เจ็บหรอกน่ะ ถนนนี่เขาทำไว้หนาพอกะหน้าไอ้เอ้แหละ"
"ไอ้สั_ว์" ไอ้เอ้คำราม เออ..ว่าไปก็สนุกดี เส้นที่ทั้งสองคันลากดูค่อนข้างตรงทีเดียว พวกเราวิ่งตามเชียร์ไปเรื่อยๆ แล้วก็เจอปัญหา ไอ้ถนนเจ้ากรรมน่ะ.. มันมาถึงทางโค้ง ถ้าขืนตรงต่อไปละเข้าพุ่มไม้อย่างแน่นอน
"เฮ้ย เอาไงดี" ได้ยินไอ้จ่อมันหันมาถามหน่อย
"ไม่รู้" หน่อยว่า ไอ้เอ้กับหนึ่งก็เจอปัญหาเดียวกัน ไม่มีใครอยากแพ้ เลี้ยวโค้งเส้นก็จะไม่ตรง ถ้าเบรคหรือชนพุ่มไม้เส้นก็จะหยุดอยู่แค่นั้น ผมหันไปดูอาจารย์ปรีชา แกยืนกอดอกดูอยู่ที่เดิม..
"หน่อยขีดไปเรื่อยๆนะ แล้วจับแน่นๆ" ไอ้จ่อตัดสินใจ..
"โครม! " ล้อหน้าหายสวบเข้าไปในพุ่มไม้ อีกโครมหนึ่งก็ตามมาติดๆ ไอ้เอ้กับหนึ่งก็ตัดสินใจเหมือนกัน ชนเป็นชน เอาเส้นให้ตรงไว้ก่อน..
"เฮ้ยๆเป็นไงบ้างๆ" พอเห็นเพื่อนไม่เป็นไรทุกคนก็วัดระยะ
"เส้นใครยาวกว่าเนี่ย" สรุปไอ้เอ้กับหนึ่งยาวกว่าราวๆ 2 นิ้ว เพราะหน่อยปล่อยไม้ทิ้งตอนรถชนพุ่มไม้..
"เฮ" พวกที่เชียร์คู่นี้ก็เฮกันลั่น ไอ้เอ้เบ่งกล้ามโชว์ ดีใจยังกะได้แชมป์โลก
อาจารย์ปรีชาเดินเข้า..
"แค่เนี้ย วันก่อนครูลองดูครูคนเดียวลากได้ไกลกว่านี้อีก" เคืองสิครับ..ไอ้เอ้น่ะ อุตส่าห์ดับเครื่องชนจนชนะ มาโดนเกทับ..
"ไหน อาจารย์ลากให้ดูหน่อยสิครับ" "เออ ใช่ๆ อาจารย์ลากให้ดูหน่อย" เสียงสนับสนุนเซ็งแซ่อีกแล้ว..
อาจารย์แกหยิบไม้ผูกชอล์ค คว้าจักรยานได้ก็ปั่นไปจุดตั้งต้น แล้วแกก็ปั่นมาช้าๆเรื่อยๆ มือนึงจับแฮนด์ อีกมือนึงก็ขีดพื้นมา พอถึงทางโค้งแกก็ดีดกระดิ่ง
"เอ้า หลบหน่อย" ทุกคนแหวกพื้นที่หน้าพุ่มไม้ให้ กะดูแกพุ่งชนเต็มๆ..
"หลบตรงโค้งด้วย" อ้าว พอทุกคนแหวก แกก็ขี่จักรยานเลี้ยวไปหน้าตาเฉย..
"เฮ้ย..จารย์ขี้โกง นั่นไม่ใช่เส้นตรงแล้ว" แกก็ยังขี่ของแกไปจนถึงหน้าประตูโรงเรียน แล้วก็ขี่ย้อนกลับมาทางกลุ่มพวกเราใหม่ ผิวปากมาด้วย..
"เห็นไหม ว่าครูลากได้ยาวที่สุด"
"มันไม่ตรงนี่อาจารย์" คราวนี้ผมช่วยโวย
"ทำไมไม่ตรงล่ะ นี่ก็ถูกนิยามของเส้นตรงที่เราคุยกันไม่ใช่เหรอ" แกทำหน้างงงง..
"เราบอกว่าถ้าถนนเส้นนี้ตรง เส้นตรงที่เราลากจะไม่ตัดกับถนนเส้นนี้ ตอนแรกพวกเธอก็ยอมรับว่าถนนเส้นนี้ตรงแล้วด้วย ดังนั้นเส้นที่พวกเธอลากตัดกับเส้นที่เรายอมรับว่าตรง ขณะที่เส้นที่ครูลากไม่ตัด แสดงว่าเส้นของครูเป็นเส้นตรงตามนิยาม"
เอ่อ..เซ่อกันไปครับ รู้ว่ามันไม่ค่อยถูก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเถียงตรงไหน..
"แล้วที่ว่ามันเป็นเส้นที่สั้นที่สุดระหว่างจุดสองจุดล่ะอาจารย์ นี่มันไม่สั้นที่สุดนี่" ไอ้เจ้าเอกแย้ง
"ไหนล่ะเส้นที่สั้นที่สุด ถ้าสมมุติเราจะไปประตูโรงเรียน จากต้นหูกวางที่เราอยู่เมื่อกี๊" อาจารย์แกย้อนถาม หลายคนช่วนกันชี้ลากเส้นด้วยมือ เส้นนั้นต้องลงจากถนน ตัดผ่านสนามบอล
"แล้วถ้าเรามีจักรยาน เส้นไหนจะสะดวกและเร็วที่สุดล่ะ" ทุกคนอึ้ง
"ดังนั้น เส้นที่ครูลากเป็นเส้นตรง" แกสรุปหน้าตาเฉย
"อาจารย์มั่ว" ไอ้เอ้หงุดหงิด บ่นพึมพำ"เส้นโค้งชัดๆบอกเส้นตรงได้ไง"
"แต่ดูยังไงมันก็เป็นเส้นโค้งนะครับอาจารย์" ไอ้เอกก็พยายามแย้ง..
"พวกเธออาจถูกก็ได้มั้ง" แกทำท่าเกาหัวแกรกๆ แล้วยักไหล่ "ไม่รู้สินะ ครูเป็นครูแนะแนว ไม่ได้เป็นครูคณิตศาสตร์นี่"
ตอนนั้น ผมก็คิดว่าแกมั่ว.. คิดอย่างนั้นมาอีกหลายปี
จนกระทั่งช่วงหลังมานี่ เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผ่านเรื่องราวอะไรต่อมิอะไรมาเยอะขึ้น..
ก็อดคิดไม่ได้.. บางที แกอาจไม่ได้มั่ว
ก็แกเป็นครูแนะแนวนี่นะ ไม่ได้เป็นครูคณิตศาสตร์เสียหน่อย..