14 พฤษภาคม 2552 19:26 น.
หมอกจาง
คือริ้วลายของสายลม
ที่พัดห่มสองเราให้อบอุ่น
คือกลิ่นหอมกลิ่นอายที่เคยคุ้น
ที่พาโลกมาหยุดหมุน ณ ตรงนี้
คือเรื่องเล่าที่ปราศจากเรื่อง
ที่ถักทอแสงเรืองจากริบหรี่
คือเยื่อใยงดงามประดามี
จากวันที่เราต่างตัดเยื่อใย
คือความว่างเปล่าอันเต็มเปี่ยม
สงบเสงี่ยมปราศจากซึ่งเงื่อนไข
คือความรู้สึกในหัวใจ
เตาะแตะเต้นไหวไหวมานับนาน
คือความรักในความหมายท้ายที่สุด
ที่พร้อมหยุดให้กาลเวลานั้นเดินผ่าน
โอบห้อม-แผ่ทั่ว และชั่วกาล
หวานเท่าความหวานของชีวิต
28 เมษายน 2552 09:25 น.
หมอกจาง
อบอุ่น
เมื่อแขนฉันมีเธอหนุนอยู่ข้างข้าง
หอมกลิ่นหอมกลิ่นผมเธอบางบาง
ฉันรู้สึกอยู่ระหว่างจริงกับฝัน
ล่องลอย
ฉันขอบคุณค่อยค่อยกับคืนวัน
กับเรื่องราวที่ล่วงเลยมาก่อนนั้น
กับสายใยที่เกี่ยวพันเธอกลับมา
รักเธอ
เสมอทั้งคำพูดทั้งทีท่า
รักเธอทุกสายใจทุกสายตา
รักเธอมากยิ่งกว่าทุกคำรัก
อบอุ่น
วางแขนนอนเธอหนุนจนแขนหนัก
วางแขนรอเธอมาหนุนมานานนัก
หลับตาเถิดที่รัก ฉันขอบคุณ
21 เมษายน 2552 22:29 น.
หมอกจาง
เมื่อดอกไม้เปลี่ยนสีเป็นสีหวาน
เมื่อเราเข้าใจวันวานได้ดีขึ้น
ในบางวันรุ่งเช้าน้ำค้างชื้น
เราคงตื่นมาพบกันและกัน
เมื่อลมหนาวเปลี่ยนสีเป็นสีสวย
ฉันคงมีเธอเดินด้วยแม้หนาวสั่น
เหมือนวันคืนที่เคยมาก่อนนั้น
เราจะเขียนคืนวันอันคุ้นเคย
รักมาก
ให้ฉันบอกออกจากปากอย่างเปิดเผย
ให้ฉันมองตาเธอไว้ไม่ละเลย
และไม่มีวันชืดเฉยหรือชินชา
เราคงได้พบกันในวันหนึ่ง
วันที่ซึ่งการรอคอยนั้นมีค่า
ได้มีเธออยู่ในใจ-ในสายตา
และวันคืนที่จากลา คือฝันไป
27 พฤศจิกายน 2551 12:03 น.
หมอกจาง
มีดาวแออัดอยู่สักล้านดวง
มีดอกไม้ล้านพวงส่งกลิ่นหวาน
มีความฝันนิ่งอยู่มาเนิ่นนาน
มีความหวังในอาการของรอคอย
สุกใสจนเปล่งแสง
สุกสว่างกว่าหมื่นแรงแห่งหิ่งห้อย
ใสยิ่งกว่าน้ำค้างบนยอดดอย
สวยกว่ารสหมื่นร้อยบทกวี
ดวงตาของเด็กน้อย
เจ้าฝากร่องรอยไว้ที่นี่
ประทับลงตรงกลางใจดวงนี้
ยามสบตาพาทีอย่างเงียบงัน
เรามีบทสนทนาในอากาศ
เธอวาดฉันวาดเราวาดฝัน
เราเขียนคำถ้อยนับร้อยพัน
ภายใต้ความนิ่งงันและเงียบงาม
ดวงตาของเด็กน้อย
คือความฝันที่รอคอยสะพานข้าม
คือพรุ่งนี้ที่มีไว้เพื่อไต่ตาม
คือคำตอบของโมงยามอันย่ำเย็น