17 พฤษภาคม 2553 20:04 น.
หมอกจาง
ความเศร้า
แผ่ปกคลุมเป็นเงาสีเทาเข้ม
หยาดน้ำรินหยดมีรสเค็ม
คือหยาดเหงื่อ เลือดเข้ม หรือน้ำตา
ฉันวิงวอน
ออกมาเป็นบทกลอนอันอ่อนล้า
อย่าเลยอย่าเมินเฉยอย่าเย็นชา
อย่าก้มหลบเบือนหน้าแสร้งไม่ดู
สิ่งที่เกิด สิ่งที่เป็น
ฉันเชื่อ-เธอก็เห็น เธอก็รู้
กระสุนพร่างกี่ร่างที่ร่วงพรู
เธอปิดตาปิดหูเธอปิดใจ
ใครคือผู้ฆ่าคน
และใครทนจนทนอยู่ไม่ไหว
ใครคือแมงเม่าเข้ากองไฟ
เขาเติมเชื้อให้อะไรในกองฟอน
ความเป็นจริง
สร้างโดยสิ่งเปิดเผยและสิ่งซ่อน
คราบน้ำตาในกองเพลิงที่แผดร้อน
ใครลดทอนว่าเพียงคราบน้ำลาย
ในความเศร้า
ต่างคือเราและเรา-ผู้แพ้พ่าย
ต่างคือเลือดร่วมอก-ผู้ตกตาย
ต่างเป็นคน-เป็นควาย เท่าเทียมกัน
20 เมษายน 2553 09:02 น.
หมอกจาง
หากสายลม เดือน ดาว..
หากรุ่งเช้าจะอ่อนโยนเท่ารู้สึก
แห่งความรักครบถ้วนในส่วนลึก
ที่โชนแสงดังดาวดึกคืนเดือนแรม
รู้สึกไหม
ใครหนอใครแอบมองตรงสองแก้ม
ใครหนออิ่มรอยยิ้มเธอยิ้มแย้ม
ใครหนอทักว่าแดงแกมบนแก้มเธอ
คืนและวัน
คนแห่งฝันยังคงฝันสม่ำเสมอ
ยังชัดเจนในใจแม้ไม่เจอ
ยังคงคิดยังคงเพ้อ-แม้อาจไม่จริง
ทุกวินาทีมีเรื่องราว
และทุกก้าวเราก้าวไปไม่หยุดนิ่ง
บางทรงจำ-เรากอด-ไม่ทอดทิ้ง
จนเหมือนเหมือนจะประวิงเพื่อรอคอย
ทุกย่างก้าวที่ก้าวไปข้างหน้า
ฉันเหลียวมาหันมองอยู่บ่อยบ่อย
นำพาเราไกลกันทีละน้อย
หรือมีเธอยืนคอยตรงปลายทาง
หากเธอเห็นสายลมหรือเดือนดาว
หากรุ่งเช้านำอ่อนโยนให้เธอบ้าง
เธออาจเห็นบทกวีอันอ้างว้าง
ที่ฉันเขียนบรรจงวาง ฝากถึงเธอ
26 มกราคม 2553 00:30 น.
หมอกจาง
รวงรังของคนเหงา
เถิดมาชูแก้วเหล้า
ร่ำดื่มจวบจนกว่าจะนิทรา
กับแกล้มคือปวดร้าวในดวงตา
สายลมที่พัดพา
และแสงจากดวงดาวที่รำไร
อุ่นความหลังให้ร้อนเหมือนฟอนไฟ
แผดเผาอยู่ภายใน
แผดไล่ความเหงาอันเยือกเย็น
สร้างหลืบให้รักได้ซ่อนเร้น
หลงลืมความลำเค็ญ
ที่ก้าวย่างทุเรศทุรนมา
ปาดน้ำตาป้ายจากปลายตา
สำรากพร่ำแต่กามา
บิดเบือนมารยา-ไม่ใยดี
ข้างในตะเกียกตะกาย-ช่วยที
กระหน่ำโบกโบยตี
ยับเยินจนชุ่มเลือดทั้งหัวใจ
ตกค้างอยู่ในวันอันพ้นวัย
ตกเลือดอยู่ภายใน
ซ่อนไว้จากสายตาผู้เหลียวดู
หวาดกลัวซุกซ่อนนอนคุดคู้
หวั่นว่าใครจะรู้
ว่าร่ำร้องปวดร้าวแทบตะโกน
เพียงสายลมไหวก็ส่ายโงน
สำรอกโลกโยกโยน
เมาคลื่นลมชีวิตที่โยกไกว
หลับตามองดูไม่เห็นใจ
ส่องกระจกไม่เห็นใคร
ไม่รู้อยู่ ณ จุดไหนของห้วงเวลา
เถิดชูแก้วเหล้าอย่านำพา
น้ำค้างค้างตรงเปลือกตา
กับเรื่องราวบ่นบ้าไร้ความจริง!
16 มกราคม 2553 00:04 น.
หมอกจาง
ค่ำคืน..ฉันร้องไห้
น้ำตาไหลเปื้อนความฝัน
ความปวดร้าวไหลท่วมถึงดวงจันทร์
สะอื้นไหวสั่นถึงดวงดาว
ใครหนอใครกัน
ทำให้ห้วงเวลาสั้นนั้นนานยาว
ทำให้ความงดงามนั้นปวดร้าว
เมื่อหวนคิดถึงทุกคราวที่งดงาม
อยู่ที่ไหน
ฉันแบกความหวั่นไหวมาไถ่ถาม
แบกคิดถึงไว้บนบ่าทุกโมงยาม
แบกความเศร้าที่ลุกลามจนเรื้อรัง
ไม่อยากเจอ
แต่ก็ไม่อยากเพียงเพ้อถึงความหลัง
ฉันจึงได้แต่วนเวียนประหนึ่งดัง-
นกที่ไร้รวงรังจะหลับนอน
ค่ำคืน..ฉันร้องไห้
ความหลังหลั่งไหลจนท่วมหมอน
น้ำตาเปียกใจจนเปียกปอน
ร้าวรอน.แต่ไม่รู้ทำอย่างไร
5 พฤศจิกายน 2552 23:48 น.
หมอกจาง
เกี่ยว
เถิดยื่นปลายนิ้วเรียวมาเกี่ยวก้อย
แล้วฉันจะพาไปดาวดวงน้อย
ที่เพียรคอยส่องแสงอยู่รางราง
ค่ำคืนเหน็บหนาว
เถิดนั่งผิงไอดาวพออุ่นบ้าง
ฝัน-บางค่ำคืนเคยฝันค้าง
ปล่อยความฝันอันบอบบางลอยถึงจันทร์
เนิ่นนาน
ที่ลิ้มรสความหวานเพียงความฝัน
ฝากดวงดาวคอยปลูกความผูกพัน
ในค่ำคืนความไหวหวั่นกรรโชกแรง
นาฬิกา
เดินช้าแชเชือนเสมือนแกล้ง
ขูดขอดความทรงจำอย่างแห้งแล้ง
ความคิดถึงวิ่งแซงความรอคอย
เกี่ยว
เถิดยื่นปลายนิ้วเรียวมาเกี่ยวก้อย
ค่อนดึกดาวหลับไปนับร้อย
ความรักเขียนรอยในดวงตา