26 กรกฎาคม 2553 20:01 น.
หนูสน
สัมมาพุทธเจ้า วันทา
อภิวาทบุญญา หยั่งได้
วิสาขบูชา เพ็ญแจ่ม แสงเฮย
มาฆบูชาไซร้ เปล่งด้วย ธรรมญาณ
จันทร์วันเพ็ญเคลื่อนคล้อย ตามกาล
เดือนหกพบธรรมญาณ ตรัสรู้
อริยสัจขาน นามเรียก
ดำรัสธรรมสอนผู้ พรักพร้อม ในธรรม
พระทรงคุณเปี่ยมล้น กรุณา
ดำริธรรมนี้มา ลึกซึ้ง
เกรงผู้อื่นนำพา รู้ไม่ ยากแฮ
พึงพิจาระถึ้ง แบ่งถ้วน สี่บัว
เปรียบบัวแรกเมื่อต้อง ตะวัน แสงนา
จึงเบ่งบานโดยพลัน สู้ได้
อุคฆฏิตัญ- ญูชอบ ทันแฮ
กระจ่างธรรมเทิดไว้ จับแจ้ง สัมมา
คนดีประกอบด้วย พึงรู้ คิดตาม
ฝึกเพิ่มจำคำครู มิช้า
วิปัจจิตัญญู บัวปริ่ม น้ำเฮย
บัวจักบานกลีบกล้า ส่องฟ้า แจ่มแสง
สัมมาทิฏฐิถ้วน ปัญญา น้อยเฮย
แต่บ่หลงนำพา ย่อท้อ
ขยันหมั่นศรัทธา วันหนึ่ง รู้แฮ
เนยยะบัวกอบก้อ โผล่พ้น เบ่งบาน
อีกพวกบัวสุดท้าย ไร้สติ ปัญญา
คงมิจฉาทิฏฐิ ไป่รู้
ศรัทธาบ่เพียรมิ พวกปท ปรมะ
บัวเน่าเต่าปลาอู้ มิได้ เห็นแสง
ระลึกธรรมดั่งนั้น นำมา
แสดงธรรมเทศนา โปรดยั้ง
ปัจจวัคคีย์ครา อุปฐาก ทุกข์กิจ
ไปป่าอิสิปฯรั้ง หลุดพ้น ทั้งผอง
มงคลยามสิบห้า วันเพ็ญ เดือนแปด
ยุรยาตรเดือนเด่น ส่องฟ้า
ปฐมเทศนาเป็น ธรรมเริ่ม
ธัมมจักรกัปฯจ้า ดุจล้อ ธรรมหมุน
อริยสัจแจ้ง แจ่มใส
ทุกข์เกิดกับกายใจ ป่านนี้
เหตุทำทุกข์หลงใหล ลืมตื่น ฤาแน่
สมุทัยหลีกลี้ จุดชี้ เหตุตน
เป็นความดับทุกข์ได้ โดยพลัน
นิโรธดับทุกข์ทัน แน่แท้
ควรทำบ่เหหัน มีมรรค องค์แปด
ดับทุกข์สายกลางแก้ ฝั่งแท้ นิพพาน
อันโกณฑัญญะแจ้ง ดวงตา เห็นธรรม
ขอพุทธะธัมมา บวชให้
เอหิภิกขุฯพา สาวก แรกเฮย
บังเกิดรัตนะได้ กิดถ้วน สามการ
พุทธธรรมสังฆะนี้ เกิดมี
หนุนเนื่องหมุนเวียนที แห่งล้อ
อาสาฬะหะศรี ธรรมส่ง แสงเฮย
ธรรมะจักรเคลื่อนน้อ นอบน้อม บูชา
ปทุมเทียนธูปน้อม วันทา
คุณพระศาสดา เทิดไท้
ธรรมนำจิตชีพพา ใสผ่อง นิพพาน
สังฆะธัมมะไซร้ เสร็จสิ้น อาสาฬฯ
19 กรกฎาคม 2553 22:24 น.
หนูสน
นั่งอยู่บ้านเลี้ยงหมาแมวไม่ไปไหน
มองยังไงก็ไม่เหมือนกับลูกฉัน
สัตว์กับคนต่างภาษาใช่ผูกพัน
แต่เหมือนกันมีชีวิตและจิตใจ
แลดังนี้จึงเต็มเปี่ยมด้วยความรัก
อีกประจักษ์โลภโกรธาอีกหลงใหล
เป็นวัฏสงสารหมุนเวียนไป
เช่นกันได้ทุกฝ่ายมิพ้นพา
แม่เขียนเล่าเรื่องราวครั้งยังเด็ก
เบบี๋ตัวเล็กเล็กไร้เดียงสา
อยู่ตึกปูนเมื่อฝนฟ้าคะนองมา
ไม่ต้องรีบหลบหาที่กำบัง
แต่ก็เคยหอบลูกวิ่งอยู่คราหนึ่ง
วิ่งตึงตึงแผ่นดินไหวไม่ได้สั่ง
ฝาบ้านขัดไม้ไผ่สานเขย่าดัง
วิ่งหน้าตั้งตีสองหอบลูกไป
คุณเบญก็เคยเจอเหตุดังเหมือน
วัยสองเดือนพักผ่อนนอนหลับใหล
ใต้ถุนบ้านปลอดโปร่งร่มรื่นใจ
เกิดพายุกระหน่ำใส่ให้อีกครา
แม่เอาผ้าพลาสติกรองนอนลูก
มาห่อผูกคุณเบญเผ่นถลา
วิ่งร้อยเมตรสำนวนแม่หนีฝนมา
เพราะข้างฝาบ้านชั้นบนนั้นไม่มี
อุ้มตระกองกอดลูกหนีลมฝน
ขึ้นบ้านยายอีกคนโดยเร็วรี่
นกปีกหักถลาโครมกลางบ้านที
กลอนประตูที่มีไม่ใส่เลย
แม่ว่าจากเหตุการณ์ทำให้คิด
ปะต่อติดเพราะรักไม่เมินเฉย
ทั้งรักห่วงหลงลืมตัวกลัวตายเลย
โอ้ลูกเอ๋ยเพราะรักประจักษ์ทำ
สอนลูกรักให้รู้จักกตัญญู
คอยอุ้มชูผิดชั่วให้ไม่ถลำ
ความดีตั้งมั่นไว้ให้จดจำ
คอยแนะนำอยู่เคียงข้างไม่ห่างตา
กำลังใจให้กันสำคัญเสมอ
ไม่พบเจอแต่คิดถึงไม่ห่างหา
จบรักนะเด็กโง่ทั้งสองปลา
จุ๊บจุ๊บจ้ามีเวลาโทรหากัน
12 กรกฎาคม 2553 16:27 น.
หนูสน
เรา คนไทยแซ่ซ้อง สดุดี
จะ เทิดทูนยอยศ เปี่ยมล้น
ปก เกล้าเกศทรงศรี พิภพ ภูมิแฮ
ครอง แผ่นดินพาพ้น หยัดยั้ง ภัยพาน
แผ่น ดินเพียบพรั่งพร้อม สมบูรณ์
ดิน ฉ่ำบริบาล ไป่แห้ง
โดย เสด็จเพิ่มพูน รินไหล ทั่วนา
ธรรม จักนำไทยแจ้ง เจิดหล้า แจ่มฉาย
เพื่อ การใดสัตย์ตั้ง ตามรอย พ่อเฮย
ประโยชน์ มีมากมาย เกิดถ้วน
สุข คำพ่อผาดเผย พันหมื่น แสนนา
แห่ง ชาติประกาศล้วน เทิดไท้ ราชันย์
มหา ราชาราษฎร์น้อม ถวาย จงรัก
ชน แห่งหนใดพลัน ผลัดสู้
ชาว ไทยยิ่งประจักษ์ พลียิ่ง ชีพแฮ
สยาม กอรปเกียรติสู้ บาทเบื้อง บังคม
9 กรกฎาคม 2553 22:07 น.
หนูสน
ฟ้าครื้มฝนพรำ
สายันต์เย็นย่ำ หม่นหมองฤทัย
หนาวกายจับจิต ยิ่งคิดสงสัย
เอื้อนเอ่ยเป็นนัย เราสองต้องลา
ครื่นครื่นครั่นครั่น
เสียงฟ้าสนั่น สะท้านกายา
ฝนเอยจงช่วย ข้าด้วยซักครา
เลือนคราบน้ำตา ชะล้างหัวใจ
เมื่อฝนลาลับ
ท้องฟ้ามืดดับ ปลอดโปร่งโล่งไป
ด้วยแรงแสงจันทร์ ฟ้าพลันสดใส
ประดับดาวไว้ พราวแสงงามตา
เป็นฟ้าหลังฝน
กระจ่างมืดมน งดงามโสภา
เฉกเช่นตัวเรา ช่างเขาไร้ค่า
มีวันข้างหน้า ต้องก้าวต่อไป