29 กันยายน 2554 21:31 น.
หนมครกเมืองคอน
เดือนสิบ ปีก่อน พี่นอนเศร้า
ทุกหัวเช้า หวันเย็น ใจเต้นตึก
ทั้งหัวรุ่ง มุ้งมิ้ง นั่งนิ่งนึก
ยิ่งตกดึก ตีสอง คับข้องใจ
เธอทิ้งร้าง ห่างบ้าน ไปนานเนิ่น
ไม่หล๊อบเริน เดินร่ำ หรือทำไหร
พอเดือนสิบ ปีนี้ แอบดีใจ
ว่าทรามวัย มาแน่ มิแปรปรวน
เลี้ยงตายาย ได้บุญ เกื้อหนุนส่ง
พี่มัวหลง ท่าแล อยู่แต่สวน
จะเตรียมกับ- ข้าว ต้ม ทั้งหนมกวน
เพียงเธอหวน มาที อย่าขี้ฮก
เคยพาเที่ยว ชมงาน วัดบ้านทุ่ง
แลหนังลุง โนราห์ พาหลกหลก
ไอ้ทอง นุ้ย เท่ง หลำ ทำซกม๊ก
เราเคยกก เกาะไหล่ อยู่ใกล้จอ
เห็นหลายคู่ จู๋จี๋ พี่หึงสา
เพราะรู้ว่า ผิดหวัง อีกครั้งต่อ
เพื่อนหัวเราะ กันขำ พี่น้ำตาคลอ
เดือนสิบปี นี้หนอ....ยังรอเธอ
.........................................
ภาษาใต้วันละคำ
หัวเช้า – ตอนเช้า
หวันเย็น – ตอนเย็น
หัวรุ่ง - ย่ำรุ่ง
มุ้งมิ้ง – พลบค่ำ
ข้องใจ - เป็นห่วง
หล๊อบเริ่น – กลับบ้าน
เดินร่ำ – เดินร้องไห้
ทำไหร – ทำอะไร
ท่าแล – รอคอย
อยู่แต่สวน – อยู่คนเดียว
หนมกวน – ขนมกวน
ขี้ฮก – โกหก
หลกหลก – ตลกๆ
ซกม๊ก – พูดสองแง่สองง่าม
หึงสา - อิจฉา
28 กันยายน 2554 23:09 น.
หนมครกเมืองคอน
ตาฉมกับยายงม ทอดภิรมย์แสงจันทรา
คะนึงถึงเวลา คราครั้งก่อนตอนพบกัน
วันนั้นตาฉมเขียน ฝึกพรากเพียรเขียนกลอนฉันท์
ยายงมชมชื่นปัน แบ่งความรักปักคาใจ
ตาฉมมิรู้เรื่อง รักเอื่องเขื่องเมลืองไหว
สงสัยมิกล้าไกล เกินฝันใกล้กับยายงม
จึงเดินเพลินเคียงข้าง ทนอ้างว้างมานานถม
สิบปีที่แอบชม ยายงมสวยรวยน้ำใจ
จักหาแจกันรัก เอาใจปักได้แต่ไหน
น่ารักหนักแน่นใจ ใครเล่าหนอพอเทียบยาย
ตาฉมแอบจ้องชม มองยายงมผมสยาย
ฤา ฟ้าจะแพร่งพราย ยายงมนี่แหละแจกัน
มองไปใจก็เพ้อ ปากจึงเผลอเผยภาพฝัน
น่ามองกว่าผ่องจันทร์ ฉันว่าแกนะยายงม
ฉันหามาแสนไกล แจกันใจจักใคร่สม
แกเอง นะ...ยายงม คือภาพฝันแจกันทอง
ยายงมพอได้ฟัง ..ได้แต่นั่ง..เขิน..เอื้อมมือไปหยิกตาฉม...
บ้า..อายดวงจันทร์มั้ยเนี่ยะ ตาฉม..บ้าๆๆ
พูดไป..หยิกไป..
ยายงม...
จ๋า
เนื้อฉันติดเล็บแกไปมั่งมั้ยง่ะ ดูซิ เลือดไหลไม่หยุดเลย
สงสัย ใจฉันจะเต้นแรงนะยาย ตาฉมยิ้มกริ่มพูดไปมองดูเลือดไป
ไม่เอาๆ หยุดพูดได้ล่ะ..อ้าปาก..อ่ะนี่หมาก เคี้ยวซะ ตาฉม
ยายงมป้อนหมากตาฉม ดันลืมวางมีดปอกหมาก ปาดแก้มตาฉมเสียอีกหนึ่งแผล 5555
...........................
27 กันยายน 2554 16:47 น.
หนมครกเมืองคอน
ยินเสียงกลอน...
ยินเสียงกลอน สะท้อนใจให้นั่งคิด
นี่เราติดหนังสือหน้าเป็นบ้าหรือ
เราแค่เล่นเป็นพักพักมันหนักฤา
เม้นท์เป็นมื้อ สายบ่ายค่ำถลำไง
ก่อนเงียบเหงาเฝ้าหน้าจอพอผ่านผ่าน
นั่งทำงานตัวเป็นเกลียวไม่เที่ยวไหน
พอรู้จักกับเฟซบุ๊คสนุกใจ
เขาเม้นท์มาเราเม้นท์ไปสนุกดี
พอรู้ตัวโอ้พับผ่าหัวหน้าจ้อง
มาแอบมองแอดเป็นเพื่อนสุดเคลื่อนหนี
รับแอดไว้ด้วยหัวใจไม่ยินดี
แกเม้นท์ที...ก็สั่งงานผ่านหน้าจอ
จะแอบบล็อกแกก็จ้องย่องมาแบล็ค
หัวแทบแหกแกแบล็คแฮนด์แทนร้องขอ
เป็นเพื่อนกันนิรันดร์กาลไม่ผ่านจอ
เฟซบุ๊คมรณะหนอขออำลา...
ไม่เอาแล้วแนวไซเบอร์เผลอใจหลง
เคลิ้มวาที...วลีตรงส่งจิตหา
เพื่อนส่งเพื่อนเหมือนเคลื่อนเข้าเย้ายั่วมา
แต่เวลา...กลับลดน้อยเหมือนคอยคำ
มากเกินดีมีแต่มุ่นขุ่นดวงจิต
ใจผูกติดกับมิตรมากยากถลำ
เม้นท์แต่น้อยค่อยค่อยเม้นท์พอเห็นจำ
เหงาหน้าง้ำ...ก็เศร้าจิต...เลยติดใจ
24 กันยายน 2554 22:31 น.
หนมครกเมืองคอน
ฟังเพลงร้อง สองง่ามและสามแง่
เกือบจะแก้ ผ้าเต้น ให้เห็นตับ
เหมือนระบำ จ้ำบ๊ะ ชะแวมวับ
ดิ้นขยับ เด้งขยาย ได้น่าดู
เดี๋ยวเกาโน่น เกานั่น เดี๋ยวคันนี้
เอาไม้สำลี มาปั่น แก้คันหู
ร้องครวญคราง อย่างแรง ท่าแยงรู
ไม้สั้นจู๋ หูยังส่าย มิหายคัน
ทั้งคนแก่ คนหนุ่ม ทุ่มกันเหนื่อย
เห็นงูเลื้อย ขึ้นหัว ทุกตัวหัน
กระชวยกระชุ่ม ชุมชุก ขนลุกชัน
จ๊ะ ขยัน โยกย้าย ให้ยวนยี
เธอร้องบอก ว่าหนู คันหูแย่
เขาจะแหย่ แต่หนู เอาหูหนี
ตะโกนบอก เอาหู หนูมาดีดี
จะช่วยขยี้ บี้ขยำ ชุ่มฉ่ำอุรา
ตบรางวัล กันอื้อ คอยยื้อแย่ง
แจกใบแดง แบงค์ละพัน กันร้อนฉ่า
เอาเงินยัด ให้หนู หายหูชา
มองช้าช้า เห็นขาอ่อน อยากชอนไช
คนติฉิน นินทา ว่าต้อยต่ำ
ศีลธรรม ย่ำแย่ ต้องแก้ไข
บ้างก็เห็น เป็นศิลปะ ประทับใจ
ผิดหรือไม่ เธอใจกล้า แค่หากิน
ใครจะเห็น แตกต่าง กันบ้างเอ่ย
บางคนเฉย บอกดูดี ก็มีศิลป์
บ้างบอกอาย ขายหน้า จนชาชิน
ใครได้ยิน วิจารณ์หน่อยคอยรับฟัง