18 ตุลาคม 2554 20:47 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ศรีศรีศรีเทวีคงคา
มื่อนี่มาสู่ขวัญพระแม่
เฮ็ดเครื่องแก้แต่งแนวสมมา
แม่คงคาขอจ๋งอดโทษ
ขอพระโผดเวไนยสัตว์
ทุกข์สะพัดแล่วไปถ่วนหน้า
ย่อนแม่น้ำคงคารินไหล
กระหนาบไกลกระหน่ำตีวน
ส่ำสัตว์ฅนพากั๋นหนีต๋าย
ฝันสลายวอดวายสูญสิ้น
น้ำตารินหน่วยหน้าบ่าไหล
เหมิดจิตใจ๋อาลัยตายอยาก
เป็นทุกข์พรากจากฅนที่ฮัก
เป็นทุกข์หนักจากบ้านที่อยู่
ย่อนบ่ฮู้สิอ่วยหาไผ
คึดหาได้กะแต่พระแม่
เซิญแม่แลพิธีสู่ขวัญ
เซิญแม่อันพระคุ้มปกเกล้า
ขอแม่เซาแม่ลุโทสา
มาขวัญมาขวัญลี้หนีไส?
ไป๋อยู่ไกลในไพรด๋งด๋อน
สิไป๋อ้อนต้อนเซิญเมือมา
ขวัญอยู่ฟ้าขอบโค้งขุนเขา
ขอขวัญเจ้าหวนคืนสู่แม่
ขวัญไปแซอยู่ถ่ำเถื่อนธาร
ใต้บาดาลเมืองนาคภิภพ
ให้ขวัญสบกลับคืนมาสู่
ขวัญไปอยู่ภูหิมพานต์
ขอไหว้วานขวัญคืนแม่เจ้า
ผองหมู่เฮาตั้งพานบายศรี
เฮ็ดพิธีสู่ขวัญสมมา
แม่คงคามาเด้อขวัญเอ๊ย.....๚๛
(ขวัญเอ๊ยขวัญมาเด้อขวัญเอ๊ย)
14 ตุลาคม 2554 17:34 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ พระพิโรธพระโกรธเกรี้ยว
ธ ก็เที่ยวคระละไหล
ระอุอกสะทกใด?
กระหนาบไกลกระหน่ำวน
๏ พระพิโรธพระโกรธขึ้ง
มนุษย์จึงโกลาหล
อุตลุตสุดดิ้นรน
ฤจะพ้นจากความตาย
๏ จะแก้กัน ณ ฉันใด?
ก็เกินใจประมาณหมาย
ร้าวอุราชีวาวาย
โมหะร้ายพระคงคา
๏ โอม...พระแม่คงคาเจ้า
ศิระเกล้าสาธุสา
น้อมฤดีพลีขมา
ไหว้บูชาพระเทวี
๏ ทั้งข้าวตอกอีกดอกไม้
แหละมาลัยพานบายศรี
ถวายเซ่นเป็นบัดพลี
พระเทวีโปรดเมตตา
๏ วอนพระแม่จงอดโทษ
ที่พระโกรธ ธ โทสา
โปรดเอ็นดูหมู่นรา
รับขมาด้วยปราณี
๏ โอม...ชยะมังคลา
พระคงคามารศรี
ณ ฤกษ์งาม ณ ยามดี
ปวงข้าพลีขอขมา
๏ โอม...พระแม่คงคาเจ้า
ศิระเกล้าสาธุสา๚๛
25 กันยายน 2554 23:25 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า
ข้าพุทธเจ้าขอรายงานการหน้าที่
ทูลจอมองค์วิรูปักษ์ด้วยภักดี
ณ บัดนี้เมืองมนุษย์สุดเข็ญใจ
๏ ข้าฯพ่นน้ำท่วมท้นล้นคามเขต
แดนประเทศกล้ำกลืนสะอื้นไห้
เหล่าหมู่มวลนราร่ำอาลัย
ด้วยอุทกภัยผลาญชีวา
๏ กำจัดพวกหมู่มารรอนราญสิ้น
ให้วารินพร่าผลาญประหาญคร่า
ชำระคราบดวงจิต"อวิชชา"
คืนพิสุทธิ์โสภาสถาวร
๏ ทั้งปิง วัง ยม น่าน ละลานไหล
ดังเช่นในตำนานแต่กาลก่อน
โขง ชี มูล เจ้าพระยา ลุ่มสาคร
กรีธาต้อนโรมรันประจัญบาน
๏ เปลื้องเวลากาลีกลียุค
ปลดความทุกข์สุขเปรมเกษมศานติ์
ธำรงศีลสัจจาสมาทาน
ตราบสิ้นพุทธกาล ๕,๐๐๐ ปี
๏ พิทักษ์คุ้มปกป้องศาสนา
ในสำนักศาสดาพระชินสีห์
ครั้นศีลธรรมต่ำทรามยามกลี
ใช้วารีชำระประลัยกัลป์
๏ ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้า
จอมนาคเจ้าผู้ผ่านไอศวรรย์
ควรแล้วที่พระองค์ทรงลงทัณฑ์
ให้มนุษย์เหล่านั้นพลันสำนึก
๏ ล้างกิเลสเกาะกุมสุมจิตไหม้
มโนธรรมนำใจได้ตรองตรึก
น้อมโอวาทศาสดามารฤก
ร่มโพธิ์พฤกษ์แห่งธรรมพระสัมมาฯ
๏ เพื่อจะได้จดจารตำนานเล่า
เช่นบุราณกาลเก่าสืบเค้าว่า
พงศ์พันธุ์ของพวกเราเหล่านาคา
จะพิทักษ์ศาสนานิรันดร์ไป๚๛
15 สิงหาคม 2554 17:58 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ กี่วารวันผันเลื่อนคล้อยเคลื่อนผ่าน
กี่กัปป์กาลเวียนหลงพะวงใฝ่
กี่เพลาเนิ่นเนาว์เฝ้าคอยใคร
กี่ครั้งใจละเมอเพราะเพ้อพิษ
๏ เหมือนม่านสายลายฝันแต่ครั้นก่อน
ฉายฉากซ้อนสายใยในลิขิต
เชื่อม ๒ ดวงหทัยให้ใกล้ชิด
ในนิมิตภพฝันนิรันดร์กาล
๏ จึงมิอาจมอบใจให้ใครอีก
ขอเร้นหลีกสู่ฝันอันแสนหวาน
หับห้องใจสนิทปิดทวาร
เพื่อพบพานยอดขวัญแค่นั้นพอ
๏ ทวิภพขวางกั้นคั่นเราไว้
สะพานใจสานฝันสัมพันธ์ต่อ
รอวันแล้ววันเล่าเฝ้าแต่รอ
รักเกิดก่อยืนยงคงนิรันดร์
๏ เธอคือ"มิ่งมณี"อันมีค่า
ขอสัญญาด้วยใจให้คำมั่น
รักเพียงเธอตลอดยอดชีวัน
เป็น"มณีมิ่งขวัญ"นิรันดร๚๛
25 มิถุนายน 2554 11:40 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ หาบน้ำ จนคานแอ่น
ทั้งไหล่และแขน เกร็งขึ้นเป็นสัน
๏ ย่างเหยาะ เลาะคันนา
จากบ้านเฮือนมา ตักน้ำท่ากัน
๏ หนองน้ำ คือจุดหมาย
สาวเจ้าทั้งหลาย พบปะสังสรรค์
๏ เว้าจา ประสาสาว
เป็นเรื่องเป็นราว บอกเล่าความฝัน
๏ แลกเปลี่ยน ทุกข์และสุข
ที่เร้ารานรุก อยู่ทุกคืนวัน
๏ ปลอบโยน ยื่นน้ำใจ
พี่น้องมีให้ ห่วงใยแบ่งปัน
๏ รอยยิ้ม พริ้มใบหน้า
ไมตรีเมตตา ห่วงหาต่อกัน
๏ ภาระ เต็ม ๒ ไหล่
เหนื่อยหนักแค่ไหน บ่ย่านบ่ยั่น
๏ หาบน้ำ เหยาะเยื้องย่าง
หัวใจอี่นาง บ่ร้าง...ความฝัน๚๛