20 กันยายน 2554 12:25 น.
สุนทรวิทย์
อาชีพครู ซึ่งฉัน เฝ้าฝันใฝ่
เชื่อยิ่งใหญ่ พร้อมพรัก เกียรติศักดิ์ศรี
คนนับหน้า ถือตา บารมี
ปูชนี-ยบุคคล สร้างผลงาน
ฉันก้าวถึง จุดหมาย ดั่งใจหวัง
ด้วยพลัง มุ่งมั่น อันอาจหาญ
ได้ชื่นชม สมญา ครูอาจารย์
ปณิธาน อุตสาหะ สละตน
ยี่สิบปี ล่วงไป นึกใจหาย
เป้าขวนขวาย แท้เพียงครู ผู้ขัดสน
ประศาสน์ศิษย์ ก้าวหน้า มาหลายคน
ครูกลับจน ซ้ำซาก มากกว่าเดิม
แต่สำนึก หน้าที่ ไม่มีเปลี่ยน
คงหมั่นเพียร สอนสั่ง ทั้งส่งเสริม
เคี่ยวเข็ญแก้ เด็กเก- เรทุกเทอม
หนี้ก็เพิ่ม ลุกลาม ตามทวี
คำเปรียบครู ว่าเรือจ้าง ช่างเหมาะสม
ฝ่าคลื่นลม พายุ ยากสุขี
รับลูกศิษย์ โดยสาร ผ่านนที
ปีแล้วปี ทรหด อดทนไป
เห็นศิษย์เก่า หวนเยี่ยมกราบ แสนปลาบปลื้ม
เหน็ดเหนื่อยลืม สิ้นหมด พลันสดใส
ศิษย์รู้รัก กตัญญู ครูชื่นใจ
สิ่งที่ได้ มีเท่านี้ ชีวิตครู
20 กันยายน 2554 12:11 น.
สุนทรวิทย์
รักของฉัน ไม่ยิ่งใหญ่ อย่างใครเขา
ยิ่งมิเท่า นภา มหาสมุทร
มีเพียงความ จริงใจ ไม่สมมุติ
เยี่ยงมนุษย์ ปุถุชน บนโลกนี้
มิสามารถ ปีนป่าย ตะกายฟ้า
มิอาจผ่า ควักใจ ให้โฉมศรี
มิอาจสอย จันทรา ในราตรี
ทั้งมิมี ปาฏิหาริย์ จะดาลดล
มีโอกาส เพลี่ยงพล้ำ กระทำผิด
มีปกปิด มิดเม้น เป็นบางหน
หนีเที่ยวบ้าง อยากสนุก แอบซุกซน
อย่างที่คน ทั่วไป ใครก็ทำ
จะคบฉัน เป็นแฟน ต้องแน่นหนัก
กลัวอกหัก มิควร ด่วนถลำ
รอบคอบหน่อย ฉันเอื้อน เตือนแนะนำ
ที่เพียรพร่ำ ปะเหลาะ เพราะอาทร
เป็นกิ๊กกัน ไปก่อน เลิกงอนนะ
เรื่องที่จะ ผูกมัด ขอผัดผ่อน
อยากแต่งงาน ฉันยัง ไม่พรั่งพร้อม
นอนเถิดนอน จอมขวัญ ฉันง่วงแล้ว
20 กันยายน 2554 11:59 น.
สุนทรวิทย์
โบราณว่า คารมชาย นั้นร้ายนัก
เป็นกับดัก ผลาญพร่า คร่าความสาว
ใครหลงลม จมปลัก จักเปื้อนคาว
คงปวดร้าว ย่อยยับ พาอับจน
สุภาษิต เยี่ยงนี้ มีอยู่มาก
แต่ยังยาก เตือนใจ ให้เกิดผล
สตรีผู้ ทิฐิ มิกังวล
มักหลงตน เหยียบย่ำ คำท้วงติง
คนไม่เจอ กับกลัว มิกลัวพลาด
อวดฉลาด ยโส โง่แกมหยิ่ง
ยอมปล่อยตัว ปล่อยใจ ให้เขาอิง
ครั้นถูกทิ้ง คิดได้ ก็สายเกิน
ก่อนเชื่อใคร กลั่นกรอง ตรองให้ซึ้ง
ถึงก้นบึ้ง เบื้องใน ใช่ผิวเผิน
ควรฟังหู ไว้หู รู้ประเมิน
ยามเผชิญ คำหวาน มิลานลน
อันบุรุษ สุดดี นั้นมีน้อย
ต้องค่อยค่อย คุ้ยหา อย่าสับสน
หนึ่งเดียวที่ คบได้ ไร้เล่ห์กล
เขาชื่อคน-รักกลอน สุนทรวิทย์
19 กันยายน 2554 14:09 น.
สุนทรวิทย์
แสงโสมส่อง จากฟ้า มาโลมหล้า
พสุธา แอร่ม แจ่มสนอง
ดวงดารา วับวาว พราวเรืองรอง
ถึงผุดผ่อง เปรียบกานดา หาเทียมทัด
เธอสกาว เปล่งปลั่ง บดบังแข
วิไลแท้ พริ้งเพริศ เจิดจรัส
เพิ่งพบเห็น รัญจวน ชวนประพัทธ์
ยากสลัด อารมณ์ นึกชมเชย
กามเทพ แผลงศร ปักร้อนเร่า
หลงใหลเจ้า เข้าแล้ว แก้วตาเอ๋ย
รักปฐม ครั้งแรก แปลกมิเคย
จะเอื้อนเอ่ย วาจา ประหม่าจริง
หันปรึกษา พวกพ้อง ผองรอบรู้
ล้วนแต่ผู้ ปราดเปรื่อง เรื่องราวหญิง
วานเป็นสื่อ ติดต่อ ขอพึ่งพิง
คนหนึ่งชิง อาสาช่วย ด้วยเร็วไว
ราวหนึ่งเดือน ผ่านพ้น ผลเกินคาด
เพื่อนบังอาจ ทรยศ คดเฉไฉ
สาวที่ฉัน หมายตา มันคว้าไป
ฝากปลาไว้ กับแมว แห้วเลยเรา
19 กันยายน 2554 14:04 น.
สุนทรวิทย์
ตราบขุนเขา ยืนยง ดำรงมั่น
มิไหวหวั่น แรงลม คมแดดเผา
ตราบนั้นฉัน ยังมั่นคง ต่อนงเยาว์
ไม่บรรเทา ผันแปร แม้ธุลี
ตราบอาทิตย์ คงอยู่ คู่เวหา
ท้องนภา ราตรี มีศศี
ตราบนั้น ฉันบูชา กัลยาณี
ขอภักดี ผูกพัน จวบวันวาย
ให้ทะเล ทั่วถ้วน ล้วนเหือดแห้ง
ธารทุกแห่ง แล้งขอด ตลอดสาย
แต่น้ำใจ ฉันคงเหลือ-เฟือมากมาย
มิสูญหาย ถอยถด สักหยดเชียว
มดปลวกใด สัมผัส กัดโฉมศรี
ฉันจะบี้ ให้ตาย หลายหลายเที่ยว
ผู้ใดทำ เธอหงุดหงิด แม้นิดเดียว
จักเข่นเขี้ยว เกรี้ยวโกรธ ถึงโคตรมัน
รักของใคร มัวเมา หนักเท่าไหน
ก็คงไม่ คลุ้มคลั่ง ดั่งตัวฉัน
มิเห็นหน้า จอมขวัญ วันสองวัน
ทุกข์โศกศัลย์ แดดิ้น แทบสิ้นใจ