5 พฤศจิกายน 2554 17:23 น.
สุนทรวิทย์
เพ็ญเยือน เดือนสิบสอง
น้ำเจิ่งนอง คลองละหาน
วาระ เทศกาล
งานบูชา ชลาลัย
ลอยกระทง สู่คงคา
กล่าวขมา ธาราศรัย
ลุแก่โทษ โปรดอภัย
ที่อาศัย ใช้ดื่มกิน
ค้ำจุน หนุนชีวา
เกิดปู,ปลา เอื้ออาสิน
แบกรับ ซับมลทิน
บำรุงดิน ถิ่นอุดม
ด้วยบุญ คุณความดี
สายนที มีสั่งสม
เกื้อสุข ทุกสังคม
ลูกประนม ก้มกราบกราน
ราตรี นี้หฤษฎ์
สำรวมจิต อธิษฐาน
แม่พระ ชลธาร
ช่วยบันดาล ประทานพร
ขอร่มเย็น เป็นสิริ
มั่นฐิติ ดังศิขร
รุจิรา สถาวร
ดัสกร มรณ์มลาย
กระทง ส่งแสงวาม
สื่อข้อความ ตามมุ่งหมาย
อภิวันท์ นิรันตราย
หมดเรื่องร้าย กลายดีเทอญ
5 พฤศจิกายน 2554 17:17 น.
สุนทรวิทย์
อุทกภัยใหญ่ ในครานี้
หลายชีวี ย่อยยับ ดับสลาย
ทั้งทรัพย์สิน เงินทอง ต้องมลาย
ความเสียหาย หลายหลาก ยากประเมิน
ชนชั้นล่าง ชั้นกลาง ต่างร่วมสู้
ร่วมกอบกู้ ช่วยกัน น่าสรรเสริญ
แจกอาหาร ภาชนะ สละเงิน
ร่วมเผชิญ ส่ำทุกข์ ที่รุกราน
นักธุรกิจ ผู้กุม คุมตลาด
ฉวยโอกาส ขึ้นรา-คาอาหาร
กรรมาชน ตระหนก พลันตกงาน
คนนับล้าน เปียกปอน นอนโศกา
จบน้ำท่วม เมื่อใด คงได้เห็น
ความลำเค็ญ โถมบุก ทุกหย่อมหญ้า
คนจนตรอก ชอกช้ำ กินน้ำตา
เหล่าโจรา ขี้ครอก ออกย่ำยี
ความวิบัติ อัปลักษณ์ จักมาสู่
โรคหดหู่ ระบาด มิอาจหนี
คนจนจะ ยิ่งจน ล้นทวี
ส่วนเศรษฐี คงจัก เร่งตักตวง
สักกี่คน สำนึก รู้สึกได้
สักกี่คน รู้ภัย อันใหญ่หลวง
สักกี่คน จริงใจ ไม่หลอกลวง
สักกี่คน รักห่วง ปวงประชา
5 พฤศจิกายน 2554 17:03 น.
สุนทรวิทย์
รักแรก แอกขึง ตรึงชีวาตม์
มิอาจ พลาดผละ ละอดีต
พลัดพราก จากนุช ดุจโดนมีด
เค้นขีด กรีดย้ำ ถลำลึก
ความหลัง ฝังแอบ แนบสนิท
แผลงฤทธิ์ ติดอยู่ ในรู้สึก
ปลาบปลื้ม ดื่มด่ำ สิ้นสำนึก
จารึก ทึกทัก รักหมดใจ
หลอกตน วนเวียน เพียรปลอบจิต
จริต ผิดเพี้ยน เพียรหลงใหล
ร้อนดุจ ทรุดร่าง กลางกองไฟ
หวั่นไหว ไม่หย่อน ไม่ผ่อนพัก
ปะเหลี่ยม ปะคู กว่ารู้แจ้ง
วิ่นแหว่ง แรงราญ ผ่านอกหัก
ซึมอาบ ซาบซึ้ง ถึงความรัก
รู้หลัก หนักเบา กว่าเก่ากาล
ปรับเปลี่ยน กลยุทธ์ หยุดร้อนรุ่ม
สุขุม ซุ่มคอย อ่อยคำหวาน
มิพัก ชักช้า คาเนิ่นนาน
แต่งงาน ทันที มิรีรอ
4 พฤศจิกายน 2554 10:50 น.
สุนทรวิทย์
ชมบุหลัน วันเพ็ญ เด่นกลางสรวง
วาวโชติช่วง เยี่ยมเยือน เดือนสิบสอง
โสมเจ้าเอ๋ย อร่าม งามเรืองรอง
สาดแสงส่อง ห้วยหนอง คลองวารี
งานรื่นเริง ลอยกระทง ส่งความหวัง
ธารล้นฝั่ง ฉ่ำเย็น เป็นสักขี
หนุ่มสาวร่วม อธิฐาน ผ่านนที
พึ่งบารมี ปกปัก รักยั่งยืน
ลอยกระทง ปีนี้ ไม่มีน้อง
สายชลนอง ดุจน้ำตา ข้าขมขื่น
เดินคนเดียว เปลี่ยวเปล่า เหงาทั้งคืน
แสร้งหน้าชื่น หดหู่ อยู่ภายใน
ปฏิญญา ความรัก คงหักเห
สิ้นเสน่ห์ หมดหวาน พานเฉไฉ
นัดดิบดี กลับไร้เงา จึงเศร้าใจ
สาเหตุใด ป่วนจิต คิดพะวง
ลมเหนือเยือน เตือนสาว ว่าหนาวแล้ว
รักยังแน่ว สัตย์ซื่อ หรือลืมหลง
ลอยกระทง ฝากถาม ความอนงค์
ยังมั่นคง เพียงไหน อย่างไรกัน
กี่หนาวที่ พี่เพียร เวียนสู่ขอ
ผลัดให้รอ จนหวาด ขาดเชื่อมั่น
แม้นปล่อยปละ ละเฉย เลยเหมันต์
จะไปหมั้น หญิงอื่น เลิกฝืนเธอ
4 พฤศจิกายน 2554 10:33 น.
สุนทรวิทย์
แม่คุณ กุลสตรี ศรีสมร
อรชร อ้อนแอ้น น่าแหนหวง
เป็นที่ปอง ที่หมาย ชายทั้งปวง
ชวนให้ห่วง ให้หลง ปลงฤทัย
เธอโสภา สามารถ ฉลาดเฉลียว
เสียหน่อยเดียว ที่ตดเหม็น เป็นนิสัย
ประเดี๋ยวปู้ด ประเดี๋ยวป้าด ขาดอนามัย
ดมแล้วไม่ บรรลัย คงใกล้เคียง
ฉันต้องใช้ ความกล้า มหาศาล
มาสร้างภูมิ ต้านทาน ด้านกลิ่น,เสียง
เร่งบังคับ ปรับตน จนพร้อมเพรียง
เพื่อร่วมเรียง เคียงหมอน ตอนวิวาห์
ชีวิตคู่ อยู่ได้ ไม่นานนัก
ใจฉันชัก ขยาด หวาดผวา
สามเมื้อ หลังอาหาร ต้องทานยา
คอยรักษา โรคจมูก ซึ่งคุกคาม
รักแท้ แพ้กลิ่นตด เก็บกดยิ่ง
อยากแอบอิง ชิดใกล้ ใจก็ขาม
เธอตดดัง ตดถี่ แถมขี้ตาม
สุดห้ามปราม ถามไถ่ ได้แต่ดม