14 พฤศจิกายน 2554 10:57 น.
สุนทรวิทย์
ขี้ลืม เนืองนิตย์ ผิดมนุษย์
ชำรุด สุดแย่ เกินแก้ไข
หยิบยืม เงินทอง ของผู้ใด
มิเคย ชดใช้ จ่ายกลับคืน
มีเมีย ตอนไหน นึกไม่ออก
อยู่นอก บ้านพลัน หันเป็นอื่น
ปัญญา สมาธิ มิยาวยืน
ขัดขืน มิได้ ใช่แสร้งทำ
พาเพื่อน ไปเลี้ยง เที่ยงวันก่อน
ถึงตอน จ่ายตังค์ นั่งเกาหำ
ลมพก กระเป๋า หนอเจ้ากรรม
งึมงำ ปัดให้ เพื่อนจ่ายแทน
ลืมผ่อน บ้านช่อง สองปีกว่า
แม่งมา ยึดไป เสียดายแสน
เหตุผล ไม่ฟัง ยังดูแคลน
คลั่งแค้น ขุ่นข้อง จำต้องทน
ลืมเป็น นิสัย ไม่อาจเปลี่ยน
ยิ่งเพียร บังคับ ยิ่งสับสน
ตอนนี้ ลืมแม้ แต่เพศตน
ฉงน จริงจริง หญิงหรือชาย
13 พฤศจิกายน 2554 10:58 น.
สุนทรวิทย์
ชีวิตตน ตนสิ ต้องลิขิต
อย่ามัวคิด พึ่งใคร ให้ขีดเส้น
เกิดมาแล้ว ดี,พร่อง ต้องเดินเป็น
ใช่ยากเย็น เกินกว่า แรงฝ่าฟัน
โอกาสมอบ แด่ผู้ รู้ไขว่คว้า
หมายก้าวหน้า ยืนยง จงแข็งขัน
อุตสาหะ จะดล ผลอนันต์
ความมุ่งมั่น นั้นหนุน แทนทุนรอน
อย่าถอดใจ ท้อแท้ แม้พลาดพลั้ง
ยามผิดหวัง เสียรู้ เปรียบครูสอน
อุปสรรค หนักหนา อย่านิ่งนอน
หมั่นต่อกร ทุ่มเท ทุกเวลา
การสั่งสม ประสบการณ์ ผ่านเหนื่อยเหน็ด
ความสำเร็จ จักชิง วิ่งเข้าหา
การกล้ำกลืน ยืนหยัด พัฒนา
ย่อมดีกว่า วอนง้อ ขอผู้ใด
จากเม็ดกรวด เม็ดทราย ในแหล่งหล้า
อาจนำมา ก่อร่าง-สร้างเมืองใหญ่
คนบากบั่น อดทน จนก้าวไกล
ควรปลาบปลื้ม ภูมิใจ ได้แท้จริง
13 พฤศจิกายน 2554 10:48 น.
สุนทรวิทย์
วิหค ยามกกไข่
มันระไว ไม่ยอมห่าง
ปีกสอง ป้องอำพราง
ไข่บอบบาง ต่างชีวัน
ลูกรัก ฟักเป็นตัว
ยิ่งพันพัว เหนื่อยหัวปั่น
หาเหยื่อ เอื้อแบ่งปัน
ให้ลูกนั้น อิ่มทันใจ
ลูกโต ก็โผจาก
ไปถางถาก รกรากใหม่
ทิ้งพ่อ แม่ทันใด
ความห่วงใย ไม่เคยมี
คนเรา เหล่าหญิงชาย
เห็นมากมาย คล้ายปักษี
ปล่อยปละ บุพการี
มิไยดี หน้าที่ตน
บ้างยัง ชังเกรี้ยวกราด
หินชาติ ขาดเหตุผล
จริต ผิดผู้คน
เพราะกมล ขัดสนธรรม
ถึงครา ฟ้าลงโทษ
กลับถือโกรธ โอดครวญคร่ำ
ไม่ตรอง มองเงื่อนงำ
ว่าเวรกรรม ล้วนทำเอง
13 พฤศจิกายน 2554 10:31 น.
สุนทรวิทย์
หากมีทาส ขอเลี้ยง เพียงทาสรัก
ฉันจะกัก ขังนาง อย่างแสนเข็ญ
อยู่ในห้อง กรงใจ ไว้เช้าเย็น
เคี่ยวเข็ญเป็น ทาสรัก ผู้ภักดี
เฆี่ยนด้วยแส้ สวาท บาดแผลลึก
ตราบสำนึก ผูกพัน ฉันเต็มที่
ใช้อาทร แทนอาวุธ ยุดอินทรีย์
กว่ายอมพลี ปรนนิบัติ เลิกตัดรอน
นำเมตตา ลบทิฐิ ศิโรราบ
ทุ่มรักปราบ น้ำใจ ให้โอนอ่อน
ประทับจูบ เหนี่ยวรั้ง จิตบังอร
ซ้ำแทรกซอน ด้วยกล มนตร์วาจา
สองแขนกอด ดังโซ่ เส้นโตใหญ่
ผูกล่ามใส่ ติดตรึง ขึงข้อขา
แม้นขัดเคือง ตีรวน ชวนโกรธา
ลงโทษา ด้วยอกอุ่น ให้คุ้นเคย
แล้วประหาร โดยทัณฑ์ ขั้นอุกฤษฏ์
จับขวัญจิต วิวาห์ หน้าตาเฉย
ตำหนักทาส เปิดประตู รอคู่เชย
กล่าวเปิดเผย ประกาศ รับทาสรัก
12 พฤศจิกายน 2554 11:27 น.
สุนทรวิทย์
แร้งขนดำ หัวล้าน ชาญเวหน
ดูพิกล อัปลักษณ์ ไร้ศักดิ์ศรี
ปากงองุ้ม ตึตัง ทั้งอินทรีย์
มิเห็นมี ตรงไหน ให้ชื่นชม
ทึ้งซากสัตว์ เน่าเหม็น เป็นอาหาร
สาบสังขาร มลทิน กลิ่นหมักหมม
วิหคอื่น เบือนหน้า สิ้นสมาคม
อนิยม หยามเหยียด นึกเกลียดชัง
ส่วนหงส์หยก ลวดลาย หลายสีสัน
ช่างขยัน แต่งองค์ ในกรงขัง
บรรจงไซ้ ปีกหาง สำอางจัง
ยืดอกตั้ง สำรวย อวดสวยงาม
กายวิลาส โสภี มีสง่า
ส่งภาษา เพลิดเพลิน เดินงุ่มง่าม
ยืนเคลียคลอ ออเซาะคู่ อยู่ทุกยาม
ผสมความ เริงร่า ยิ่งน่ารัก
หงส์หยกหนึ่ง หลุดมา เกาะค่าคบ
บังเอิญพบ เห็นแร้ง แสร้งแหลมหลัก
แร้งเอ๋ยกิน อะไร ใคร่ถามทัก
ขี้ริ้วนัก น่าสมเพช เพราะเหตุใด
แร้งเฒ่าตอบ ทันควัน ฉันชิมซาก
ไม่ยุ่งยาก แม้ปักษิน ก็กินได้
รอคอยเจ้า ตกอับ ดับลงไซร้
จะเข้าใจ ไปเอง อย่าเร่งร้อน
หงส์หยกเคย อิ่มพี มีคนเลี้ยง
สุดเอาเยี่ยง หากิน บินเร่ร่อน
เพียงสองวัน ก็มลาย วายม้วยมรณ์
เลี้ยงอุทร ประเคน เป็นเหยื่อแร้ง
เปรียบรูปโฉม โนมพรรณ นั้นเปลือกนอก
ใช่บ่งบอก นิยาม ความเข้มแข็ง
อันหน้าตา สวย,หล่อ พอดัดแปลง
แต่มิแจ้ง สำแดงค่า ปัญญาคน