17 พฤศจิกายน 2554 10:30 น.

เป็นเพราะกิ๊ก

สุนทรวิทย์

มีเมียแล้ว  ดั้นด้น  ค้นหากิ๊ก
			เหงื่อซิกซิก  พรั่งพรู  มิรู้หน่าย
			พบใครงาม  น่ารัก  เป็นทักทาย
			จะโสด,ม่าย  ลูกติด  คิดผูกพัน

				เรื่องความรัก  พูดไป  ไร้เดียงสา
			อาศัยว่า  มานะ  แข็งขยัน
			จิตกับใจ  เรียกร้อง  เห็นพ้องกัน
			จึงบากบั่น  เชื่อฟัง  ดังบัญชา

				เรื่องเจ้าชู้  หลายใจ  ไม่เคยนึก
			เพียงรู้สึก  ตื่นเต้น  ตอนเฟ้นหา
			มีความสุข  วาบหวาม  ยามเกี้ยวพา
			ตามประสา  หนุ่มใหญ่  วัยฉกรรจ์

				ภรรยา  ใจดี  มิมีบ่น
			เพราะอดทน  จนเบลอ  เลิกเพ้อฝัน
			อยากมีกิ๊ก  กี่นาง  ช่างแม่งมัน
			ยอมแบ่งปัน  โดยดี  มีน้ำใจ

				ถือโอกาส  เร่งรีบ  จีบสะสม
			จนอารมณ์  นงนุช  สุดทนไหว
			ลักลอบเจี๋ยน  อาวุธ  ฉันหลุดไป
    มานอนไอ-ซียู  อยู่ตอนนี้				
16 พฤศจิกายน 2554 12:09 น.

น้ำตาแม่บุญธรรม

สุนทรวิทย์

เขาเรียกฉัน  ว่าแม่  มาแต่น้อย
					มักสำออย  ร้องหา  เวลาหิว
					ชอบวิ่งเล่น  หยอกเย้า  ผมเผ้าปลิว
					เอวคอดกิ่ว  ตาใส  ไร้มารยา

						ฉันรักเขา  เท่าดวงใจ  เลือดในอก
					เฝ้ากอดกก  ปกปัก  อารักขา
					ถึงเป็นบุตร-บุญธรรม  เด็กกำพร้า
					ก็นำพา  ชุบเลี้ยง  เยี่ยงลูกตัว

						ยี่สิบปี  ที่ฉัน  หมั่นฟูมฟัก
					ถนอมรัก  เกื้อกูล  แทบทูนหัว
					บัดนี้เขา  สุขศรี  มีครอบครัว
					ย้ายตามผัว  จากไป  ไม่หวนคืน

						เขาทิ้งฉัน  ยามแก่  สิ้นแยแส
					ปล่อยให้แม่  เจ่าจุก  ทุกข์ขมขื่น
					ต้องงันงก  ตกระกำ  สุดกล้ำกลืน
					ช่างหยิบยื่น  ได้ลงคอ  หนอน้ำใจ

						วันนี้ถึง  วันแม่  ชะแง้หา
					ลูกจะมา  เหลียวแล  แม่บ้างไหม
					บ้านหลังเก่า  เจ้าย่อมรู้  อยู่ที่ใด
					ไยลูกไม่  กตัญญุตา  มาเยี่ยมเลย				
16 พฤศจิกายน 2554 12:05 น.

ชาติหนึ่งเปรียบหนึ่งวัน

สุนทรวิทย์

คนจะเกิด  ก็ยื้อแย่ง  แข่งกันเกิด
					คุมกำเนิด  ห้ามไว้  ยังไม่ไหว
					คนจะตาย  ปุบปับ  ก็หลับไป
					เหมือนปิดไฟ  มืดดับ  โดยฉับพลัน
						
          การเกิดแก่  เจ็บตาย  ในมนุษย์
					หมุนดำเนิน  ไม่หยุด  ดุจกังหัน
					เก่าไป  ใหม่ผลิ  มิเว้นวัน
					เพียงเคี่ยวขัน  ให้ผ่าน  กาลเวลา
						
          สัจธรรม  สรรพสิ่ง  อิงสมมุติ
					บั้นปลายสุด  คือเอวัง  สู่สังขาร์
					ถือดังเรื่อง  โลกิยะ  ธรรมดา
					ผองชีวา  ทั่วถ้วน  ล้วนต้องวาย
						
           แรกกำเนิด  เกิดมา  เปรียบฟ้ารุ่ง
					ต่างหมายมุ่ง  ความเลิศ-เลอเฉิดฉาย
					แท้คืนวัน  ผันเปลี่ยน  เวียนกลับกลาย
					มีเช้า-สาย  บ่าย-เย็น  เป็นนิรันดร์
						
           ครั้นยามใกล้  ม้วยมรณ์  ดั่งตอนค่ำ
					ตะวันต่ำ  อำลา  ชีพอาสัญ
					จบลงแล้ว  ชาติหนึ่ง  คล้ายคลึงกัน
					มันแสนสั้น  กระไร  จริงไหมเอย				
16 พฤศจิกายน 2554 11:24 น.

บ่วงเหมันต์

สุนทรวิทย์

ลมหนาว  เยือนคราวใด		
   เตือนฤทัย  ให้หวิวหวั่น
			สัญญา  คราเหมันต์				
   อดีตนั้น  ฉันยังคอย
			
        	เธอว่า  จะมาขอ		
  	ฉันเฝ้ารอ  มิท้อถอย
			กอดฝัน  อันเลื่อนลอย			
  	แม้เหงาหงอย  และน้อยใจ
		
       		มองใบ-ไม้เปลี่ยนสี		
  	สายนที รี่หลั่งไหล
			คืน,วัน  ผันจากไป				
   มีหรือชาย  ไม่เปลี่ยนแปร
			
       	เดือน,ปี  ลี้บำราศ	
 		ทุกข์อนาถ  ด้วยบาดแผล
			เจ็บซึ้ง  ถึงดวงแด				
   ไร้เบาะแส  แลข่าวคราว
			
        	สะทก  อกสะท้าน			
   ยามสังขาร  ผ่านวัยสาว
			ดังเพชร,นิล  สิ้นแวววาว		
  	หมดสกาว  ร้าวระทม
		
       		แก่เฒ่า  เข้าชรา
			เปลี่ยวเอกา  น่าขื่นขม
			วาบหวาม  ยามหนาวลม	
 		แอบร้องห่ม  ตรมทรวงใน
	
     			หลายปี  ที่เหินห่าง	
 		แสนอ้างว้าง  รู้บ้างไหม
			ทนสู้  อยู่อย่างไร	
			เมื่อบั้นปลาย  ไม่มีเธอ				
15 พฤศจิกายน 2554 13:18 น.

ที่พึ่งสุดท้าย

สุนทรวิทย์

โถคนดี  แก้วตา  หยุดว้าวุ่น
		        พี่จะบวช  แทนบุญ-คุณพ่อ,แม่
		    เรื่องแต่งงาน  หมายมั่น  จำผันแปร
		เลิกวอแว  ครวญคร่ำ  ทำหน้างอ
				
              พี่ยืนยัน  เพียงถึง  หนึ่งพรรษา
					        ลาสิกขา  ทันใด  ไปสู่ขอ
					    น้องถนอม  ตัวไว้  ให้ลออ
					ตั้งใจรอ  วันวิวาห์  อย่าแง่งอน
			
              บรรพชา  ใต้ร่มกา  สาวพัสตร์
		        แจ้งจรัส  รสพระธรรม  คำสั่งสอน
		    เกิดซาบซึ้ง  พุทธศาสน์  ปราศนิวรณ์
		   หมดรุ่มร้อน  หายสิ้น  ทั่วอินทรีย์
		
            		ครบกำหนด  เร็วไว  ไม่คิดสึก			
           ทั้งลืมนึก  เคยสัญญา  มารศรี
					    ครองจีวร  เดินธุดงค์  ป่าพงพี
					สึกตอนที่  วัยย่าง  เข้ากลางคน
		
            	กลับถึงเรือน  มิประสบ  พบคนรัก
		        ชาวบ้านทัก  นินทา  โกลาหล
		    เธอหนีไป  กับชาย  ท้ายตำบล
		  จิตลุกลน  เร่งตาม  ถามความจริง
				
              ผ่านบ้านน้อง  แอบดู  อยู่ห่างห่าง
					     มองเห็นนาง  กอดก่าย  ลูกชาย,หญิง
					  น้ำตาพลัน  รินร่วง  สุดท้วงติง
    สิ้นทุกสิ่ง  เจ็บช้ำ  จำอำลา

              ตั้งใจบวช  อีกครั้ง  ทั้งชีวิต
          ตัดสนิท  กิเลส  เพศตัณหา
       เคร่งครัดศีล  สวดมนต์  จนชรา
     เป็นหลวงตา  สมถะ  ตลอดไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์