9 ตุลาคม 2554 09:34 น.
สุนทรวิทย์
คนบางคน แสนจน ยังทนสู้
เพียรกอบกู้ บากบั่น น่าสรรเสริญ
เขายินยอม อาบเหงื่อ เพื่อแลกเงิน
แต่ขอเมิน ทรัพย์ที่ มีมลทิน
ส่วนบางคน มุ่งฉกฉวย รวยไว้ก่อน
อนาทร เวรกรรม คำติฉิน
พบโอกาส สบช่อง ต้องโกงกิน
เพราะเคยชิน เรื่องเลือดเย็น เห็นแก่ตน
สองสำนึก แตกต่าง อย่างชัดแจ้ง
เหมือนเส้นแบ่ง ความดีงาม ความฉ้อฉล
ซึ่งซ่อนอยู่ ภายใน ใจทุกคน
จะรู้ผล ตามสันดาน การกระทำ
รูปฐานะ เปลือกนอก ยากบอกได้
บุคคลใด ถูก,ผิด จิตสูง,ต่ำ
คนจนอาจ ร่ำรวย ด้วยศีลธรรม
ผู้รวยล้ำ อาจขัดสน จนความดี
ประการหนึ่ง พึงสังวร ก่อนมรณ์ม้วย
ว่าความรวย ช่วยมิได้ ในเมืองผี
รักทำชั่ว อย่าร้องหา ความปรานี
อเวจี นั้นไม่รับ ทรัพย์สินบน
9 ตุลาคม 2554 09:20 น.
สุนทรวิทย์
คนจะดี มีค่า น่ายกย่อง
สมควรต้อง ยึดถือ ความซื่อสัตย์
วางจุดยืน แนวทาง อย่างเคร่งครัด
ปฏิบัติ รักษา ซึ่งวาจา
มิกลับกลอก ยอกย้อน ซ่อนเล่ห์ร้าย
ละอบาย ทุจริต ปวงมิจฉา
เคารพต่อ ข้อผูกพัน คำสัญญา
มิตบตา โป้ปด คดโกงใคร
ความ ซื่อสัตย์ เปรียบอาภรณ์ บวรเลิศ
คือบ่อเกิด กุศลกรรม ธรรมผ่องใส
บ่งถึงความ ดีงาม ความจริงใจ
หล่อหลอมให้ แน่นหนัก รู้หลักเกณฑ์
ผู้ตระบัด ขาดสัตย์ซื่อ คือคนชั่ว
จิตเมามัว มักมาก ยากเคี่ยวเข็ญ
คำพูดเหมือน ไม้หลัก ปักขี้เลน
มักโอนเอน พลิกผัน มิมั่นคง
ความ ซื่อสัตย์ เทียมอาวุธ สุดวิเศษ
ตัดกิเลส ฟาดฟัน บั่นโลภหลง
เตือนสำนึก ถูก,ผิด จิตซื่อตรง
ช่วยธำรง มรรคผล สร้างคนดี
8 ตุลาคม 2554 11:17 น.
สุนทรวิทย์
เวหะ สลัว มัวคลุ้ม
เมฆชุ่ม อุ้มน้ำ ฉ่ำฝน
เปรี้ยงเปรี้ยง เสียงซ่าน ดาลดล
หยาดชล ล้นสรวง ร่วงพรู
ขวัญเอ๋ย ขวัญตา ยาจิต
มิ่งมิตร มิมา หาสู่
ก่อนนั้น พรรษ-ฤดู
เคยคู่ เคยเย้า เคล้าคลอ
ลืมสิ้น หรือไร ไมตรี
รักที่ สองเรา เฝ้าก่อ
ร่วมแรง สลัก ถักทอ
ใจคอ ฤๅจะ ละเลย
ฝนใกล้ สร่างซา ลาแล้ว
น้องแก้ว ไยช่าง วางเฉย
สายลม เย็นฉ่ำ รำเพย
หนาวเอย หนาวเหน็บ เจ็บตรม
สัญญา หน้าฝน มนต์เสื่อม
น้ำเชื่อม อ้อยตาล พานขม
สะทก สะท้าน ซานซม
นอนห่ม ความเหงา เศร้าใจ
8 ตุลาคม 2554 11:06 น.
สุนทรวิทย์
ทุกข์บีบคั้น ฉันให้ ใจอมทุกข์
สุขไม่สุข ปล่อยปละ ตามยถา
คนเพลี่ยงพล้ำ จำเจ ทุกเวลา
เชื้อระอา ย่อมกลุ้ม-รุมกัดกิน
ความสำเร็จ อยู่ไหน ไม่พานพบ
ที่ประสบ ครบครัน นั้นหนี้สิน
การพลาดหวัง เรื้อรัง หลังเหงื่อริน
คำคุ้นชิน อันก่นด่า ชะตาตน
จากวัยหนุ่ม ไฟแรง แฝงมุ่งมั่น
วันแล้ววัน เคี่ยวขับ กลับไร้ผล
รางวัลได้ ติดมือ คือความจน
แววกังวล หม่นไหม้ ในดวงตา
อุตสาหะ ตะบึง ถึงยามแก่
กายอ่อนแอ โรคภัย ตะกายหา
ไร้ลูกเมีย อาทร ตอนโรยรา
มัวเงื้อง่า ครองโสด จะโทษใคร
นอนพึมพำ ลำพัง ยื้อสังขาร
ขาดอาหาร หยูกยา คราป่วยไข้
ฝ่าแดดลม ข่มหนาว มายาวไกล
ก่อนสิ้นใจ มีเสื่อ เหลือผืนเดียว
8 ตุลาคม 2554 11:02 น.
สุนทรวิทย์
ฉันไม่ สนใจว่า
เธอพลาดท่า มาจากไหน
อกหัก เพราะรักใคร
เคยผ่านชาย ใดครอบครอง
ใครว่า เหมือนกากี
อดีตมี กี่เจ้าของ
ฉันยัง มุ่งหวังปอง
ใคร่สนอง ปกป้องนาง
ตราบาป คราบมลทิน
เสียงติฉิน หมิ่นถากถาง
เธอจง ปลงปล่อยวาง
สิ่งบาดหมาง คงจางไป
บาดแผล แลน้ำตา
ฉันอาสา เยียวยาให้
จะขอ เป็นหมอใจ
ขับพิษไข้ ในอุรา
เธอป่วย ด้วยโรครัก
ต้องฟูมฟัก เร่งรักษา
กำจัด ตัดโรคา
โดยวิวาห์ อย่าเชือนแช
ถักทอ ก่อรักใหม่
เลิกไถล ใฝ่แน่วแน่
เราสอง คล้องดวงแด
ใช้รักแท้ แก้โรคภัย