6 กันยายน 2554 14:19 น.
สุนทรวิทย์
บนถนน สายเปลี่ยว ทอดเคี้ยวคด
ฉันขับรถ คร่ำคร่า ฝ่าลมฝน
ทางวิบาก ชื้นแฉะ และมืดมน
หลายหลายหน ติดหล่ม จมโคลนเลน
คือถนน ชีวิต อันติดขัด
ต้องปากกัด ตีนถีบ รีบเคี่ยวเข็ญ
ถึงป่วยเจ็บ เหน็บซ้ำ ก็จำเป็น
ตราบกรรมเวร มิสิ้น คงดิ้นไป
ปะหลุมบ่อ เรียงราย คล้ายกับดัก
อุปสรรค หนักข้อ รอแก้ไข
เหลียวหาคน ปรับทุกข์ ปลอบปลุกใจ
ไร้ซึ่งใคร สักหนึ่ง พอพึ่งพา
ถนนสาย ยาวไกล ใกล้สิ้นสุด
มิพบจุด อภิราม ที่ตามหา
ได้แต่ความ ร้อนรุ่ม กลุ้มระอา
กับเวลา บั้นปลาย ไม่กี่วัน
ปลายชีวิต มิใช่ ปลายถนน
เรื่องตั้งต้น หนใหม่ ให้เลิกฝัน
ยามร่วงโรย หมดสิทธิ์ คิดดึงดัน
เหมือนตัวฉัน ท้อแท้ ตอนแก่ตัว
6 กันยายน 2554 13:39 น.
สุนทรวิทย์
คนเรา ชอบเหมาว่า
ดวงชะตา ฟ้าลิขิต
การใด ไม่สมคิด
ก็โทษอิท-ธิฤทธิ์ดวงดาว
ปัญหา คาอยู่ใกล้
แต่กลับไป ไล่เลียงหาว
ผิดทิศ ผิดเรื่องราว
หลงตามข่าว คำกล่าวลือ
แปลกเหลือ เชื่อโหรา
มุ่งศรัทธา บ้านับถือ
คร่ำเคร่ง เล็งลายมือ
ที่แท้ซื่อ หรืองมงาย
ลืมตา มาดูโลก
เผชิญโชค โศกทั้งหลาย
ไยแพ้ แก่อุบาย
คำทำนาย ทายทักคน
มั่นคง เลิกหลงใหล
ก่อนเชื่อใคร ใช้เหตุผล
ลิขิต ชีวิตตน
พร้อมผจญ บนความจริง
ขัดเคือง เรื่องเล็ก,ใหญ่
ควรแก้ไข ใช่อยู่นิ่ง
เข้าท่า กว่าพึ่งพิง
สิ่งอุทธัจ อนัตตา
6 กันยายน 2554 13:28 น.
สุนทรวิทย์
เธอเป็นดาว มหาลัย วัยใสสด
แสนงามงด ใครใคร หมายครองคู่
แข่งพะนอ เอาใจ ใส่โฉมตรู
กลับไร้ผู้ สมหวัง ดังทุ่มเท
เธอโดดเด่น ต้องตา กว่าผองมิตร
กายโศภิต แรกสาว พราวเสน่ห์
เสียที่คบ หลายชาย หน่ายจำเจ
เปลี่ยนโลเล ลองเล่น เช่นกีฬา
เราต่างจบ มหาลัย ไปตามฝัน
ข่าวคราวพลัน เงียบหาย ไม่สู่หา
เนิ่นนานปี เหินห่าง ต่างชรา
มาพบหน้า อีกครั้ง ช่างบังเอิญ
ฉันทักทาย ไต่ถาม ความผาสุก
เธอปรับทุกข์ ระทวย หมดขวยเขิน
ว่ายังโสด โดดเดี่ยว เปลี่ยวเหลือเกิน
ทั้งเผชิญ คำหลู่ อยู่เดียวดาย
นึกอาลัย คืน,วัน อันแสนสั้น
เมื่อก่อนนั้น หนุ่มหนุ่ม รุมมั่นหมาย
เพราะรับรัก กักตุน จนวุ่นวาย
ท้ายทุกราย ต่างทยอย ถอยอำลา
ฟังแล้วเหมือน ละคร สอนชีวิต
ภาพที่เพื่อน สนิท เคยอิจฉา
แท้จริงเพียง ฉากหนึ่ง ซึ่งลวงตา
ฉันพึ่งมา เข้าใจ ในยามนี้
จำไว้เถิด นงคราญ ลูกหลานเอ๋ย
การเกินเลย มากรัก เสียศักดิ์ศรี
จงรักษา คุณสมบัติ กุลสตรี
หญิงจะดี มีค่า อย่าหลายใจ
5 กันยายน 2554 17:22 น.
สุนทรวิทย์
เสื่อขาด ข้าวตาก ชามปากบิ่น
หืนกลิ่น ต้มแฟง แกงบูดเน่า
น้ำพริก หร็อมแหร็ม แกล้มสะเดา
คลุกเคล้า ผ่านคอ ก็จบมื้อ
หญิงแก่ ผอมเกร็ง หน้าเคร่งเครียด
ถูกเหยียด ตราหน้า ว่ากระสือ
ชาวบ้าน ประโคม โหมกระพือ
ผลคือ อนาถ สิ้นญาติมิตร
ปะรำ แคบแคบ ใช้แอบซ่อน
เธอนอน ทุกข์ตรม ระทมจิต
ร่างกาย ออดแอด มืดแปดทิศ
ครุ่นคิด ไม่ตก หันชกตัว
ลมปาก มนุษย์ ดุจแพร่เชื้อ
ความเชื่อ เรื่องผี จึงมีทั่ว
คนโง่ คนขลาด คอยหวาดกลัว
เมามัว เดาส่ง ลงที่แพะ
ชนชั้น ปกครอง เคยตรองไหม
ถามไป ดันโกรธ โทษเราแขวะ
ความเท็จ ความเชื่อ เบื่อแยกแยะ
นี่แหละ นักปกครอง สมองกลวง
5 กันยายน 2554 14:18 น.
สุนทรวิทย์
สวดมนต์ ท่องธรรม ชักนำจิต
เพ่งพิศ สู่พระ-อริยสัจ
สำรวม กราบไหว้ พระไตรรัตน์
สัมผัส แก่นธรรม เสริมกรรมดี
สั่งสม กุศล จากก้นบึ้ง
หมายพึ่ง ร่มบุญ คุณพระศรีฯ
น้อมกาย น้อมขวัญ อัญชุลี
ลูกนี้ เลื่อมใส ในพุทธา
ด้วยแรง ศรัทธา เปี่ยมมานะ
เชื่อพระ-พุทธองค์ คงรักษา
ทวยเทพ พิภพ จบนภา
กรุณา โอบอุ้ม คุ้มชีวิน
คู่ครอง จงดี เป็นศรีบ้าน
ลูกหลาน จำรูญ พูนทรัพย์สิน
สมมาด ปรารถนา กันอาจิณ
โศภิน ผาสุก ทั่วทุกคน
วอนสิ่ง-ศักดิ์สิทธิ์ นิมิตโชค
พ้นโศก โรคภัย ในทุกหน
ต่อนี้ สุขใจ ไร้กังวล
ขอผล แห่งบุญ เกื้อหนุนเทอญ