15 กันยายน 2554 11:40 น.
สุนทรวิทย์
ฉันอาศัย ในกระท่อม เก่าซอมซ่อ
ขาดทั้งพ่อ และแม่ คอยแลเหลียว
เหลือแต่ยาย เลี้ยงดู เพียงผู้เดียว
ขาลีบเหี่ยว มีกรรม จำอดทน
อยู่กับยาย ดิ้นรน มาจนสาว
ได้ยินข่าว แม่บ้าง เป็นบางหน
ยายว่าแม่ มีผัวใหม่ อีกหลายคน
เลิกกังวล สนใจ ให้ป่วยการ
ส่วนพ่อฉัน นั้นยาย ไม่เคยเห็น
รู้แค่เป็น คนงาน ร้านอาหาร
ตอนแม่ท้อง พ่อผลุนผลัน อันตรธาน
มิรู้บ้าน หลักแหล่ง อยู่แห่งใด
ฟังยายเล่า ทีไร หัวใจแป้ว
ถึงหมาแมว ยังรักลูก ผูกพันใกล้
ฉันกลับโดน ทิ้งขว้าง จนห่างไกล
เป็นลูกใคร ไม่อาจรู้ อดสูจัง
กระนั้นฉัน คงกระหาย ใคร่พบแม่
อยากเยียวยา บาดแผล แต่หนหลัง
แม่จ๋าแม่ ลืมชื่อ หนูหรือยัง
หนูเพียรนั่ง ชะแง้ รอแม่มา
********************
เสียงรำพัน ของเด็กสาว ชวนหนาวเหน็บ
แถมป่วยเจ็บ อนาถ ขาดรักษา
วันวันทน เงียบเหงา เศร้าโศกา
กลืนน้ำตา จับเจ่า เฝ้าบนบาน
แม่ของเธอ อยู่ไหน ใครรู้บ้าง
ช่วยหาทาง บอกกล่าว ส่งข่าวสาร
ว่าลูกเธอ ขื่นขม มานมนาน
นอนพิการ คุดคู้ อยู่บ้านนา
หากมีความ เป็นแม่ แม้กระพี้
จงเร่งรี่ เร็วไว กลับไปหา
ให้ลูกได้ รู้จัก หน้าสักครา
อย่าเย็นชา ปล่อยปละ ควรละอาย
********************
อีกหลายปี ผ่านพ้น บนความช้ำ
เสียงครวญคร่ำ จำเจนั้น พลันเงียบหาย
ได้ยินว่า เธอผ่ายผอม ตรอมใจตาย
เคียงข้างยาย ที่ม้วยมรณ์ ก่อนหน้าเธอ
ชีวิตหนึ่ง กำพร้า แต่ทารก
ในหัวอก หดหู่ อยู่เสมอ
ร่ำเรียกแม่ ทั้งตื่นหลับ กลับไม่เจอ
สู้พร่ำเพ้อ ถวิล จนสิ้นลม
บนโลกซึ่ง จำแลง ด้วยแสงสี
คนอัปรีย์ ใจจืด กลับถืดถม
มิรู้ผิด รู้ชอบ ตอบสังคม
ภาพระทม จึงปรากฏ มิหมดไป
เดียรัจฉาน ยังปกปัก รักลูกยิ่ง
คนกลับทิ้ง เลือดเนื้อ เชื้อสายได้
คนกับสัตว์ จัดชั้น กันอย่างไร
แท้จริงใคร พันธุกรรม ต่ำกว่ากัน
14 กันยายน 2554 14:45 น.
สุนทรวิทย์
เขาเกาะกลุ่ม ผงาด เดินมาดเขื่อง
คุยโตเรื่อง นักเลง เบ่งศักดิ์ศรี
พกอาวุธ เต็มอัตรา พร้อมราวี
แต่งชุดหมี วางท่า ข้าช่างกล
พบใครต่าง สถาบัน พาลหมั่นไส้
รี่เข้าใส่ ดุจอาฆาต ขาดเหตุผล
ทำร้ายไม่ ยั้งคิด จิตวิกล
นี่หรือปัญ-ญาชน คนร่ำเรียน
พ่อ,แม่ ท่าน ตั้งใจ ให้ศึกษา
ไฉนมา ระราน แทนอ่านเขียน
ทิ้งเถอะความ น่ารังเกียจ ชอบเบียดเบียน
แล้วพากเพียร ไขว่คว้า หาวิชา
การคะนอง กักขฬะ ไร้สติ
อุตริ หุนหัน ก่อปัญหา
ย่อมเป็นที่ ติฉิน หมิ่น,ระอา
พาบิดา มารดร ทุกข์ร้อนใจ
หยุดเสียที ค่านิยม บ่มผิดผิด
เลิกยึดติด สถาบัน รั้นเหลวไหล
ทางข้างหน้า มุ่งหวัง ยังยาวไกล
พลาดพลั้งไป อนาคต จะหมดลง
14 กันยายน 2554 14:38 น.
สุนทรวิทย์
รักใคร ว่าใหญ่ยิ่ง
เหนืออ้างอิง สิ่งไหนไหน
รักนั้น จะฉันใด
ไม่เท่าใจ ฉันให้เธอ
หวงแหน แสนคลั่งไคล้
จิตฝักใฝ่ ใคร่เสนอ
มอบฝัน อันเลิศเลอ
พร้อมปรนเปรอ เสมอไป
จงรัก และภักดี
แม้เธอมี กี่เงื่อนไข
บุกน้ำ ย่ำลุยไฟ
ยอมรับใช้ ไม่เกี่ยงงอน
ขันติ มิเอนเอียง
หมายร่วมเรียง เคียงสมร
เถิดหนา อย่าตัดรอน
รักเลยอ้อน วอนเรื่อยมา
จริงใจ ใช่โลเล
จึงทุ่มเท เสน่หา
เพียรง้อ ขอวิวาห์
หวังกานดา คงอาทร
ยามใด ได้ผูกพัน
ร่วมชีวัน บรรจถรณ์
จักเฝ้า เคล้าอิงอร
ยามหนาว,ร้อน ช่วยผ่อนคลาย
วันนี้ ฤกษ์ศรีวัน
พี่ยกขัน-หมากมั่นหมาย
มาขอ ต่อแม่ยาย
น้องโปรดได้ รับไมตรี
ดิน,ฟ้า เทวารักษ์
แจ้งประจักษ์ เป็นสักขี
เราสอง ครองชีวี
ไม่หน่ายหนี ลี้ห่างไกล
พี่กิ่งทอง น้องใบหยก
ลูกคงดก กันยกใหญ่
หลานหลาน บานตะไท
คืนกำไร ให้พ่อตา
14 กันยายน 2554 14:14 น.
สุนทรวิทย์
สุโขทัย เมืองเก่า เราครั้งก่อน
รำลึกย้อน กลับไป ในอดีต
อาณาจักร อารยธรรม ฉ่ำจารีต
แดนประณีต องค์พระ ปฏิมา
ซากปรัก หักพัง ตั้งเตือนอยู่
ไทยเคยสู้ โรมรัน ยันพม่า
อนุสรณ์ ประวัติศาสตร์ ชาติลือชา
ไทยแกล้วกล้า แน่วแน่ แต่โบราณ
กำแพงอิฐ ศิลาแลง แสดงเห็น
ปู่ทวดเช่น วิญญู ผู้ห้าวหาญ
สละชีพ กำราบ ปราบภัยพาล
เพื่อลูกหลาน สงบ พบร่มเย็น
หลายร้อยปี ฟันฝ่า กว่าสำเร็จ
แสนเหนื่อยเหน็ด วิบาก ทุกข์ยากเข็ญ
รวมไผท เป็นหนึ่ง จึงชัดเจน
หมดลำเค็ญ จนลุ ปัจจุบัน
พงศธร รุ่นหลัง ยังดื่มด่ำ
วีรกรรม บรรพชน บนสวรรค์
สำนึกถึง ผลบุญ คุณอนันต์
เราสุขสันต์ ด้วยเลือดเนื้อ ท่านเกื้อกูล
14 กันยายน 2554 13:58 น.
สุนทรวิทย์
หวานเป็นลม ขมเป็นยา สุภาษิต
ใครช่างคิด ลิขิตไว้ ได้เหมาะสม
หวานก็หวาน ไฉน กลายเป็นลม
ขมส่วนขม ไยหา ว่าเป็นยา
เป็นคำคม เปรียบเปรย คุ้นเคยหู
แรกฟังดู ผิวผาด อาจกังขา
แท้จริงคน เก่าก่อน สอนกันมา
เจตนา ชี้ชัก แกมตักเตือน
ว่าของหวาน รสดี ยังมีโทษ
คารมโอฐ หวานนัก มักเชือดเฉือน
คนตำหนิ สิจริงใจ ไม่บิดเบือน
เหมือนยาเฝื่อน ขมปาก แต่มากดี
มองอะไร ตรึกตรอง ทั้งสองด้าน
ค่อยประมาณ วิเคราะห์ เสาะถ้วนถี่
รู้ผ่อนหนัก ผ่อนเบา จึงเข้าที
หลายสิ่งมี ประโยชน์ โทษปะปน
นำคติ มาเตือนใจ ใช่อวดเก่ง
เพียงหวั่นเกรง เด็กรุ่นหลัง ฟังสับสน
ฉันผู้เฒ่า นั่งเบื่อ ว่างเหลือทน
เขียนแทนบ่น ให้ลูกหลาน อ่านแก้เซ็ง