19 ตุลาคม 2554 12:55 น.
สุนทรวิทย์
อยากรักเธอ จริงจัง อีกครั้งหนึ่ง
ให้ลึกซึ้ง ตรึงตรา กว่ากาลก่อน
รักที่เคย ผิดพลาด ขาดอาทร
จนตัดรอน ร้างรา กันครานั้น
วันนี้ พี่มาง้อ ขอโอกาส
คงสามารถ รอมชอม นะจอมขวัญ
พี่จริงใจ หมายมั่น ฟื้นสัมพันธ์
คืนดีกัน เถิดหนา อย่าแง่งอน
ลืมได้ไหม ความหลัง เรื่องฝังจิต
น้องอย่าคิด ขึ้งโกรธ โปรดโอนอ่อน
ต่อนี้จะ คอยเฝ้า เคล้าอิงอร
มิย่อหย่อน จรห่าง อย่างที่เคย
สู้หว่านล้อม พรรณนา สารพัด
ไยสะบัด-สะบิ้ง ทำนิ่งเฉย
เหมือนมิเหลือ เยื่อใย สิ่งใดเลย
ยากลงเอย เสียแล้ว แก้วกานดา
ถึงงอนง้อ ต่อไป คงไร้ผล
มิอาจทน นงลักษณ์ เธอยักท่า
งอนเกินงาม อย่างนี้ พี่ขอลา
ไปข้างหน้า หาเอาใหม่ ก็ได้วะ
19 ตุลาคม 2554 12:46 น.
สุนทรวิทย์
เมียก่นด่า ว่าฉัน นอนฝันเปียก
ปลุกมาเรียก เช็ดล้าง ตอนกลางดึก
มันเป็นเหตุ สุดวิสัย ใครจะนึก
ไม่รู้สึก ตัวเลย พึ่งเคยเป็น
เรื่องของ ธรรมชาติ มิอาจห้าม
ขอนงราม กรุณา อย่าตื่นเต้น
บังเอิญฉัน อุตริ ฝันพิเรนทร์
ได้คลึงเคล้น สาวงาม สามสี่นาง
ครั้นถึงบท อัศจรรย์ อั้นไม่อยู่
จึงพรั่งพรู เปื้อนเปรอะ เลอะเทอะบ้าง
เรื่องเล็กเล็ก น้อยน้อย จงปล่อยวาง
หยุดโฉ่งฉ่าง เดี๋ยวใคร เขาได้ยิน
แต่เธอกลับ โกรธา ด่าซะลั่น
จนเพื่อนบ้าน ขบขัน รู้กันสิ้น
อายอิบอ๋าย แทบแหวก แทรกแผ่นดิน
เป็นมลทิน ขี้ปาก ยากจะเคลียร์
เพื่อนนำไป เล่าต่อ ล้อกันทั่ว
กลายเป็นตัว ตลก ตกเป็นเบี้ย
โดนตอกย้ำ ซ้ำซาก เพราะปากเมีย
มีแต่เสีย กับเสีย ละเหี่ยใจ
แค่ฝันเปียก เรื่องใหญ่ เท่าใดหนอ
จะหยอกล้อ ต่อความ ลามถึงไหน
มิเห็นว่า ผิดแผก แปลกอะไร
หรือว่าใคร ไม่เคย ลองเอ่ยมา
18 ตุลาคม 2554 11:16 น.
สุนทรวิทย์
ใดใด ในโลกนี้
แผกวิถี มีเปลี่ยนแปลง
อัศจรรย์ ผันพลิกแพลง
ชวนคลางแคลง แฝงแปลกใจ
บางคราว หนาวแทบมรณ์
แต่บางตอน ร้อนหมกไหม้
ฟ้าโล่ง โปร่งอำไพ
อาจครึ้มได้ ในบัดดล
สายชล ท่วมท้นแอ่ง
กลับเหือดแห้ง ยามแล้งยล
หลายหลาก ผู้ยากจน
เคยรวยล้น ผลอนันต์
วันนี้ มั่งมีทรัพย์
พรุ่งนี้ดับ นับครามครัน
คู่แอบ แนบชิดกัน
เดี๋ยวแยกพลัน หันคลาไคล
อนิจจัง ปวงสังขาร
มิทนทาน นานเท่าใด
เกิด,ดับ สลับไป
เสื่อมสลาย วายตามกาล
จิตคน พ้นกำหนด
แสนเลี้ยวลด คดเกินการ
เยื้องยัก สุดจักรวาล
ยากประมาณ ทะยานไกล
ผิวกาย ใช่บ่งบอก
งามภายนอก หลอกข้างใน
รูปลักษณ์ พักตร์วิไล
ไม่พอใช้ หยั่งใจคน
เลิกพะวง หลงวัตถุ
ก้าวบรรลุ สุวิมล
ทำดี สิคงทน
เป็นกุศล ผลยั่งยืน
18 ตุลาคม 2554 10:44 น.
สุนทรวิทย์
เขาว่าผม สามสลึง ไม่ถึงบาท
มิสามารถ หาญเปรียบ เทียบใครได้
คนมีปาก อยากพูด ก็พูดไป
เขาใส่ไคล้ เกินเหตุ ผิดเท็จจริง
ความจริงผม เต็มบาท ขาดนิดนิด
มีความคิด แคล่วคล่อง ต้องใจหญิง
ถึงหน้าตา ดูแก่ แต่ยังซิง
อาจตุ้งติ้ง ไปบ้าง เป็นบางครั้ง
เรื่องเจ้าชู้ ไก่แจ้ แก้หายแล้ว
เรื่องชอบแซว สตรี ยังมีหวัง
รักษาได้ ไม่ยาก หากจริงจัง
ส่วนสตังค์ เงินฝาก มีมากมาย
ด้านนิสัย ใจคอ ก็ดีหมด
มิโป้ปด ทำให้ ใครเสียหาย
แต่ตอนนี้ หดหู่ อยู่เดียวดาย
ขาดคู่หมาย รักชอบ ปลอบประโลม
ผมตั้งหน้า ตั้งตา หามิตรแท้
จะสาวแก่ แม่ม่าย ใคร่ยลโฉม
ที่กล่าวมา มิได้ หมายประโคม
เพียงเหนี่ยวโน้ม อ่อยเหยื่อ เผื่อโชคดี
18 ตุลาคม 2554 09:43 น.
สุนทรวิทย์
แสงแวววาว ดาวเดือน สาดเกลื่อนกลาด
กลาดเกลื่อนสาด เดือนดาว วาวแววแสง
ลมแผ่วพลัน สรรแสร้ง แกล้งอ่อนแรง
แรงอ่อนแกล้ง แสร้งสรร พลันแผ่วลม
ขมขื่นเปลี่ยว เดียวดาย ใจหม่นไหม้
ไหม้หม่นใจ ดายเดียว เปลี่ยวขื่นขม
ไกลคนรัก หักห้าม ข่มซานซม
ซมซานข่ม ห้ามหัก รักคนไกล
ใคร่ครวญคร่ำ ร่ำร้อง ตรองสอดส่อง
ส่องสอดตรอง ร้องร่ำ คร่ำครวญใคร่
คนผันแปร เปลี่ยนไป ไร้ซึ่งใย
ใยซึ่งไร้ ไปเปลี่ยน แปรผันคน
สนอยู่ไย ใจนาง ช่างเหินห่าง
ห่างเหินช่าง นางใจ ไยอยู่สน
รักผลักไส ให้ตน ดลดาลตน
ตนดาลดล ตนให้ ไสผลักรัก