26 ตุลาคม 2554 09:29 น.
สุนทรวิทย์
เรื่องราวใด ใคร่ลืม มักลืมยาก
สิ่งใดอยาก จดจำ มักทำหลง
เรื่องใกล้ตัว บ่อยครั้ง ยังงุนงง
ยิ่งเจาะจง ยิ่งพลาด ประหลาดจริง
อยากลืมเธอ คนนั้น บั่นให้ขาด
กลับมิอาจ ลืมเลือน เหมือนผีสิง
รู้ว่าเขา หมางเมิน เกินช่วงชิง
ยังประวิง เสแสร้ง แกล้งปลอบตน
อยากให้เธอ จดจำ คำพูดบ้าง
เธอสิช่าง ลืมง่าย-ดายทุกหน
พูดเองว่า ให้ช้าช้า อย่าร้อนรน
ฉันก็ทน หักห้าม ตามวาจา
พอเธอพบ เพื่อนใหม่ ใจพลันเปลี่ยน
ทำแนบเนียน ชำนาญ การหนักหนา
ผลักความผิด ให้ฉัน โดยทันตา
ลืมสัญญา รวบรัด ตัดไมตรี
ไยต้องทำ เช่นนี้ เล่าที่รัก
น้องแปรพักตร์ อยากเลี่ยง เพียงบอกพี่
น้องมีสุข สมจินต์ พี่ยินดี
น้องสมหวัง พี่นี้ ย่อมปรีดา
แม้ลืมน้อง มิได้ ใช่จะทุกข์
พี่คงสุข สมถะ ตามประสา
ถึงน้องจัก ลืมง่าย ไม่นำพา
พี่ไม่ว่า ไม่เกี่ยง เพียงไม่ลืม
25 ตุลาคม 2554 13:53 น.
สุนทรวิทย์
หมู่ดาว พราวกะพริบ
อยู่ไกลลิบ ทิพย์สถาน
จรัส รัตติกาล
ชัชวาล ปานมณี
เรืองรอง ส่องเจิดจ้า
ดุจดวงตา มารศรี
ออดอ้อน ตอนราตรี
กระซิกซี้ เย้ายียวน
คืนไหน ไร้ดารา
ดั่งนภา ล้ากำสรวล
เสียงลม ตรมคร่ำครวญ
ยิ่งรัญจวน ป่วนฤทัย
ดาวเอ๋ย เคยคู่ฟ้า
ไยหลบหน้า นิราศรัย
ตัวข้า นี้อาลัย
เจ้าอยู่ไหน ในเมฆี
ดาวคง หลงเวหา
เหมือนกานดา ข้าหน่ายหนี
ลับหาย ไปหลายปี
มิเคยมี วี่แววใด
วอนดาว หวนวาววับ
เร่งขยับ กลับมาใหม่
เยี่ยมเยือน แทนเพื่อนใจ
คลายหม่นไหม้ ให้ข้าที
25 ตุลาคม 2554 13:43 น.
สุนทรวิทย์
แขนเขาเกร็ง กระชับ จับแหเหวี่ยง
หาปลาเลี้ยง ครอบครัว จนหัวหมุน
ไร้สมบัติ พัสถาน จานเจือจุน
ขาดซึ่งบุญ วาสนา อาภัพจริง
วันนี้จะ อิ่มครบมื้อ หรือเปล่าหนอ
ยืนจดจ่อ เงือดเงื้อ เหงื่อหยดติ๋ง
ปลาก็น้อย ร่อยหรอ พ้อติติง
ลูกชาย,หญิง คงท้องกิ่ว หิวอีกวัน
*************************
ในเขตรั้ว รโหฐาน บ้านเศรษฐี
เสียงบุตรี เรียกร้อง ขอของขวัญ
อยากได้รถ รุ่นใหม่ ใช้อีกคัน
เลือกที่มัน อ่าโอ่ หรูโอฬาร
เสียงพ่อตอบ สนอง มิข้องขัด
กล่าวรวบรัด ตามใจ ไม่หักหาญ
พ่อมีกิจ วุ่นวาย หลายพันล้าน
ลูกจัดการ เองหนา อย่ากวนใจ
*************************
สองชนชั้น แตกต่าง อย่างดิน-ฟ้า
หนึ่งชีวา แสนเข็ญ ดั่งเป็นไพร่
หนึ่งรวยล้น สินทรัพย์ อัประไมย
เหมือนมิใช่ เกิดมา ใต้ฟ้าเดียว
ชะตาคน สูง,ต่ำ ฟ้ากำหนด
คำประชด หรือไร ใครเฉลียว
คนกรำงาน ขัดสน จนซีดเซียว
พวกกิน,เที่ยว ไม่เลือก เสือกมั่งมี
25 ตุลาคม 2554 13:19 น.
สุนทรวิทย์
เขียนอะไร ไม่ออก นั่งกลอกหน้า
หกทุ่มกว่า จับเจ่า นั่งเกาหำ
สมองฝ่อ จู๋หด หมดถ้อยคำ
บ่นงึมงำ มิปรากฏ สักบทกลอน
ตะแคงตด เบาเบา แล้วเกาตูด
ยกนิ้วดูด แก้ง่วง ช่วงเหนื่อยอ่อน
คืนนี้ตู เป็นอะไร ไอ้สันดอน
นอนก็นอน ไม่หลับ แสนอับจน
เป็นเพราะกิ๊ก ของฉัน พลันหลบหน้า
มิร่ำลา เลยหนอ ก็ล่องหน
รู้เธอมี เพื่อนชาย ตั้งหลายคน
ดวงกมล จึงสลัด ตัดไมตรี
ถึงคราต้อง อกหัก รักสะดุด
เมื่อนงนุช เย็นชา มาหน่ายหนี
ทำเอาฉัน เจ็บแปลบ แอบโศกี
ความรักที่ เพียรปลูก ถูกลบเลือน
หันมาเห็น ภรรยา นอนอ้าซ่า
คิดได้ว่า นี่ไง ใครจะเหมือน
ผู้จงรัก ภักดี แม่ศรีเรือน
ยิ่งกว่าเพื่อน เหนือกว่ามิตร จิตพันพัว
รีบดับไฟ ปลุกเมีย มาเคลียเคล้า
ผลัดกระเซ้า เย้าแหย่ แก้ปวดหัว
จากนั้นเป็น เรื่องผัวเมีย เขาเนียนัว
เรื่องส่วนตัว บอกไม่ได้ อายจริงจริง
24 ตุลาคม 2554 12:21 น.
สุนทรวิทย์
แฟนฉันแสน สะสวย รวยกลิ่นเต่า
ชอบเดินเกา ขี้กลาก ถ่มขากถุย
ขนรักแร้ เป็นกระจุก ดำปุกปุย
พุงก็พลุ้ย นุ่มนิ่ม อิ่มไขมัน
ชันนะตุ กินหัว เหายั้วเยี้ย
ตัวต่ำเตี้ย แหง๋แก๋ แต่อวบอั๋น
ขี้ตาแฉะ เหม็นหึ่ง ถึงขี้ฟัน
แมลงวัน สิงสู่ อยู่รอบกาย
ซ้ำหน้าเหี่ยว ยู่ย่น ปนยู่ยี่
มองถ้วนถี่ ทีไร ใจคอหาย
แยกไม่ออก ควรเรียกย่า หรือว่ายาย
อยากบอกเลิก กลับเสียดาย สายสัมพันธ์
เธอเสมือน ริดสีดวง พวงน้อยน้อย
คอยติดสอย ห้อยตาม ง่ามก้นฉัน
จะไปไหน ใกล้ไกล ไปด้วยกัน
โดนเพื่อนหยัน เพื่อนติ ว่าพิเรนทร์
ไอ้พวกสา-ระแน ชอบแส่นัก
มิประจักษ์ รักแท้ แพ้ลูกเล่น
จ้องจับผิด บิดเบือน เหมือนจองเวร
พบหน้าเป็น ขบขำ ทำล้อเลียน
แม้หล่อนไม่ พริ้มเพรา เท่านางฟ้า
แต่หน้าตา คงที่ มิมีเปลี่ยน
ใครมองแล้ว โอ้กอ้าก อยากอาเจียน
ฉันก็ไม่ สะอิดสะเอียน คิดเปลี่ยนใจ