11 พฤศจิกายน 2554 10:56 น.
สุนทรวิทย์
ชลธี สีคราม ยามกระฉอก
ริ้วระลอก ดอกคลื่น แลดื่นดาษ
นทีรัย กรีดกราย ส่ายลีลาศ
กัปนาท ร้องรำ ขับทำนอง
นาวาน้อย ลอยลำ กรำแดดฝน
ฝ่าวังวน อุปสรรค หนักทั้งผอง
ยามพายุ กระหน่ำ คลื่นลำพอง
คงประคอง แล่นไป แม้ภัยมี
เปรียบมวลชน ผจญ บนโลกกว้าง
ต่างคนต่าง ตรากตรำ ทำหน้าที่
เพียงไร้โรค ไร้โศก คือโชคดี
ดั่งนาวี ราบรื่น ผ่านคลื่นลม
ทะเลทุกข์ ทะเลสุข ปนคลุกเคล้า
ท้าให้เรา กลั้วเกลือก เลือกสั่งสม
ตอนมั่งมี ฟุ้งเฟ้อ เห่อสังคม
พอล่มจม คิดได้ มักสายไป
ท้องทะเล แปรปรวน ป่วนเนืองนิตย์
ห้องชีวิต แท้จริง ยิ่งอ่อนไหว
เห็นแต่คน ดิ้นรน บ่นทุกข์ใจ
ล้วนอยากได้ อยากมี ชั่วชีวิน
11 พฤศจิกายน 2554 10:44 น.
สุนทรวิทย์
ตรากตรำ ร่ำเร่รัก
ตะลอนปัก เล็งหลักหมาย
หาหมุด จุดหย่อนกาย
แหล่งสืบสาย ในปลายทาง
บ่มเพาะ เสาะดำเนิน
เป้าเผชิญ อันเหินห่าง
เที่ยวเฟ้น ไม่เว้นวาง
ด้วยอ้างว้าง ร้างคู่อิง
ยากนัก หนอรักแท้
จิตแน่วแน่ แค่หนึ่งหญิง
มิจำ ล้ำเพริศพริ้ง
เพียงรักจริง ยิ่งผู้ใด
เมื่อหนุ่ม สาวรุมล้อม
ทำเนื้อหอม มิยอมใกล้
ล่วงกาล ผ่านพ้นวัย
มิเหลือใคร ใคร่ชื่นชม
โศกา คราโดดเดี่ยว
ตัวคนเดียว เปลี่ยวขื่นขม
สำแดง แสร้งรื่นรมย์
ซ่อนระทม ข่มอยู่ใน
ทุกข์ใด ใช่ท่วมท้น
เท่าผจญ โรคหม่นไหม้
ขาดชู้ เพื่อนคู่ใจ
ตรมฤทัย ไหนจะปาน
10 พฤศจิกายน 2554 10:17 น.
สุนทรวิทย์
เมฆหม่น ผ่านพ้นไป
แสงรำไพ เฉิดฉายส่อง
เวหา อ่ารงรอง
อาบสีทอง ผ่องทันใด
ดั่งคน พ้นรันทด
หายสลด พลันสดใส
ปัญหา น่าห่วงใย
กลับแก้ไข ได้ทันที
ชีวี ที่ล้ม,ลุก
หลอมรวมทุกข์ และสุขศรี
สำแดง แห่งโลกีย์
ไร้วิถี ทางจีรัง
ธรรมดา โลกามิส
ห้ามท้อจิต ยามผิดหวัง
มานะ แก้ประทัง
ดีกว่าชัง นั่งโทษใคร
วันนี้ มีทุกข์ครัน
อาจสุขสันต์ เมื่อวันใหม่
อิ่มหนำ คือกำไร
เลิกฝักใฝ่ ในราคี
กอบกู้ สู้ชีวิต
สุจริต ไม่คิดหนี
สะสวย ด้วยกรรมดี
จนหรือมี อยู่ที่ใจ
10 พฤศจิกายน 2554 10:13 น.
สุนทรวิทย์
จากทุ่ง จากดิน เจือกลิ่นสาบ
ถอดคราบ ถอดไคล ใจหื่นหรรษ์
ปรับรูป ปรับโฉม เตรียมโรมรัน
จ้วงฝัน จ้วงใฝ่ ไม่รีรอ
หนึ่งใน ปณิธาน สาวบ้านนอก
ทิ้งคอก ทิ้งนา มาอยู่หอ
ฟังเพื่อน โน้มน้าว กล่าวเยินยอ
ลืมพ่อ ลืมแม่ แลลืมตัว
ปล่อยกาย ปล่อยจิต คิดสั้นสั้น
มิทัน ถันเต่ง เร่งมีผัว
ติดยา ติดเหล้า หลงเมามัว
เกลือกกลั้ว มลทิน โดยยินดี
ขายเนื้อ ขายตัว ชั่วเหลวแหลก
จ่ายแจก แตกรัก สิ้นศักดิ์ศรี
ดื่มด่ำ ตัณหา ชาลินี
ป่นปี้ ยับเยิน เกินเยียวยา
เหยื่อของ สังคม หล่มโสโครก
เสี่ยงโรค เสี่ยงภัย ไร้เดียงสา
รายแล้ว รายเล่า ก้าวเข้ามา
ปิดตา ปิดหู สู่วังวน
รู้ตัว ชีวิต ก็บิดเบี้ยว
อยากเลี้ยว อยากเวียน เปลี่ยนถนน
เสียดาย สำส่อน มาค่อนคน
หมดหน หมดทาง ยามร่างโทรม
10 พฤศจิกายน 2554 10:01 น.
สุนทรวิทย์
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันมองหา
รังสิมา ทอแสง แห่งความฝัน
คนบ้านนอก คอกนา ป่าปัจจันต์
คอยคำมั่น ด้วยหวัง อันรังรอง
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันมองหา
รุจิรา มากลบ ลบเศร้าหมอง
ขอวันใหม่ จงรุ่งเรือง ทรัพย์เนืองนอง
รวยเงินทอง มั่งมี ดีครันครบ
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันมองหา
รอสัญญา มากมาย หลายตลบ
คำสวยหรู มารษา เหล่ามานพ
มิพานพบ แม้ผ่าน นานกี่ยุค
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันมองหา
นึกถึงอา-ณาเขต วิเศษสุข
วาดวิมาน งมงาย ระบายทุกข์
แท้เจ่าจุก ยากเข็ญ เช่นเนืองนิจ
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันมองหา
จากยุวา จนแก่เฒ่า เศร้าดวงจิต
ไร้วี่แวว ความงาม ตามสวนิต
สู้ชีวิต เจียนดับ คงอับจน
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันมองหา
ด้วยนัยน์ตา เหือดแห้ง แล้งสับสน
ฝันแล้วฝัน สดับ กลับมืดมน
เจ็บกมล ผิดหวัง ทั้งชีวิน
สุดขอบฟ้า ปลายนั้น ฉันเริ่มเห็น
ไม่เคยเป็น ดั่งจิต คิดถวิล
ปรารถนา ทุกอย่าง ต่างพังภินท์
เหมือนโลกสิ้น วทัญญู ผู้พิทักษ์
สุดขอบฟ้า แลถนัด รู้ชัดแจ้ง
พวกเสแสร้ง พกลม พาจมปลัก
คำสัญญา นักการเมือง เปลี่ยนเยื้องยัก
พึ่งประจักษ์ ถี่ถ้วน ล้วนภาพลวง