28 ธันวาคม 2549 23:55 น.
สุชาดา โมรา
สองพี่น้องครุ่นคิดถึงป้ายประกาศก่อนี่จะเดินห่างไกลผู้คนออกมา นางฟ้าตัวน้อยผู้ใจดีจึงพาทั้งคู่ลอยขึ้นเหนือท้องฟ้าและกลุ่มเมฆขึ้นไป
"นั่นไง เจ้าได้ยินเสียงในความคิดของเด็ก ๆ อีกหลายคนหรือไม่" นางฟ้าตัวน้อยเอ่ย ชาลีและมารีน่าพยักหน้ารับ
เสียงของเด็ก ๆหลายคนดังก้องขึ้นจากความคิดของพวกเขา......ทำไงดีวะเราไม่มีงานจะส่งซะด้วยสิ แต่เราก็สนใจอยู่เหมือนกัน... เจี๊ยบนั่งนึกอยู่นานในร้านอินเตอร์เน็ตหลังจากที่นิวเพื่อนของเธอกลับไปแล้ว เธอจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้มีงานส่งประกวดได้ทันท่วงที ในที่สุดเธอก็พบเรื่องสั้นของใครคนหนึ่งซึ่งใช้นามปากกาว่าทาริกา หรือในนามที่รู้จักกันว่าริวนั่นเอง
ริวเป็นนักเขียนตัวน้อย ๆ ที่โลดแล่นอยู่บนอินเตอร์เน็ตมานานนับปี ข้อความของเธอที่เขียนดูไร้เดียงสา และอ่อนต่อโลกนัก ใคร ๆ อ่านก็จะนึกถึงภาพที่ริวนักเขียนตัวจ้อยคนนี้เขียนเกี่ยวภาพความทรงจำในวัยเด็ก ซึ่งทำให้เจี๊ยบรู้สึกพอใจอย่างมาก
...เอาละวะ เป็นไงเป็นกัน ไม่มีใครรู้จักหรอกแม่ทาริกาอะไรเนี่ย...เจี๊ยบนึก พร้อมทั้งคัดลอกงานของผู้อื่นมาเป็นของตนด้วยความดีอกดีใจ
ในขณะที่อีกเสียงดังก้องขึ้น "หมู่นี้ยัยผึ้งไม่เข้ามาห้องสมุดเลยแฮะ หมู่นี้ดูแปลก ๆ พิกลเชียว สงสัยจะซุ่มประกวดซีไรต์ฯแบบกลุ่มพวกนั้นอยู่เหมือนกัน แต่เราต้องขอบาย"
"ทำไมล่ะมิ้ง"
"เพราะเที่ยวนี้ชื่อของเราดันลงไปอยู่ในกลุ่มผู้ช่วยกรรมการตัดสินด้วยน่ะสิ เดี๋ยวเขาจะหาว่าโกงกัน แต่ก็นั่นละ ยัยผึ้งก็จะลงประกวดด้วย แต่ช่างมันเถอะ เรามันคนละนามสกุลกัน" เด็กสองคนคุยกันหัวเราะต่อกระซิกกันใหญ่
"เราก็ไม่มีผลงานเหมือนกันนะคะ" มารีน่าแย้งขึ้น
"ใช่จ่ะ แต่เด็ก ๆ จำโลกนิทานที่พวกเธอไปเยือนได้มั๊ย หากจำได้ เราก็ไปกันเลย...............
สองพี่น้องหลุดเข้าไปในหนังสืออีกครั้ง เป็นระยะเวลาสามเดือนเต็มที่พวกเขาหลุดเข้าไปในโลกนิทาน แต่ประสบการณ์ที่สนุกสนานของพวกเขาทำให้มารีน่าคิดที่จะแต่งเรื่องราวจากโลกนิทานมาเป็นนิยายของเธอ ส่วนชาลีก็มีครูดีที่ช่วยให้พลังเสียงของเขาไปได้ดี
นางฟ้าผู้ใจดีช่วยอัดเพลงให้เขาในโลกนิทาน ที่มีแต่ความสนุกและเสียงดนตรี
สองพี่น้องได้ผลงานที่ต้องการและพร้อมที่จะประกวด
"เอาละเด็ก ๆ พวกเธอต้องกลับไปในเวลาของเธอแล้ว จากกันวันนี้โชคดีวันหน้านะจ๊ะ" พระราชินีแห่งโลกนิทานโบกมือลาพวกเขา ในขณะพวกเขาต่างคนต่างกอดหนังสือและเปคัดเสทแน่น
แวบแสงสีขาวพวยพุ่งออกจากหนังสืออีกครั้งพร้อมกับร่างของเด็กน้อยทั้งสองคนที่ยังคงถือหนังสืออยู่ เมื่อเขาหันกลับไปก็เห็นบ้านใหม่ของตัวเอง และนางฟ้าทั้งสองคนซึ่งยืนเชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าบ้าน
ร่างค่อย ๆ ก้าวออกจากบ้านนั้นคือพ่อของเขา พ่อ!!! ทั้งสองคนร้องตะโกนเสียงหลง
ไปไหนมาลูก พ่อเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
นี่บ้านใครคะพ่อ มารีน่าเอ่ยถาม
นี่บ้านใหม่ของเรา นายฝรั่งเขาให้เรามาพักที่นี่เป็นการถาวร พ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดลูกทั้งสองเอาไว้ทันที
ผมมีของมาฝากพ่อด้วยครับ ชาลีเอ่ยพร้อมกับใช้คทาวิเศษที่ยังคงติดมือเขามาจากดินแดนมหัศจรรย์แกว่งไปที่หน้าบ้าน พลันใดนั้นทองคำมากมายก็ปรากฏขึ้น
ลูกทำได้ยังไงเนี่ย! พ่อเอ่ยถาม
เรื่องมันยาวครับ ชาลีตอบพร้อมกับกอดพ่อเอาไว้แน่น
ทั้งสามคนจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ในขณะที่นางฟ้าทั้งสองคนยังคงปกป้องพวกเขาอยู่
และพวกเขาก็ส่งผลงานได้ทันท่วงที
ตอนนี้ง่วงแล้วค่ะ เดี๋ยวกลับมาต่อให้พรุ่งนี้นะคะ
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ขอยกของคนอื่นมาให้อ่านนิดนะคะ
"พลังและแรงบันดาลใจ คือสิ่งมีอยู่ภายใน เมื่อใดขาดการนำออกมาใช้ย่อมพลาดโอกาสในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขวัญ กำลังใจ ทั้งความก้าวหน้าในการทำงานจะถดถอย การสร้างพลังเป็นเทคนิคเชิงจิตวิทยาที่จะทำให้พนักงานมุ่งมั่น เข้าใจงาน เข้าใจคน เข้าใจตนเอง มีแรงบันดาลใจ เข้าใจผู้อื่น ตื่นอยู่เสมอ ไม่เผลอใจที่จะท้อถอย มีพลังเชิงบวกในการทำงานรวมกับหัวหน้า สมาชิก เป็นผู้มีใจรักในการทำงาน ภักดีต่อองค์กรมีประสิทธิภาพ ชีวิตสร้างพลังรักในงานอย่างเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ เป็นบุคลากรในองค์กรที่มีความมุ่งมั่น ขยันทำงานเป็นทีม รักษาเวลา มีความรัก ภักดีในงานและองค์กร สามารถพิชิตปัญหา ผ่านสถานการณ์และวิกฤตต่างๆ ไปได้ด้วยดี"
จาก nationgroup.com ค่ะ
28 ธันวาคม 2549 18:05 น.
สุชาดา โมรา
หนังสือจ่ะพี่ชาลีพี่อ่านออกไหมเนี่ย!
จะอ่านออกได้ยังไงล่ะ ก็ไม่เคยเรียนตัวหนังสือแบบนี้เลยเนี่ยแต่ก็เอาไปเถอะเผื่อจะมีภาพอะไรให้ดูบ้าง ชาลีเอ่ยพร้อมกับหยิบหนังสือออกจากกล่องเหล็กแล้วเดินกลับไปเล่นที่เดิม
หนังสือที่เขียนอักษรตัวยึกยือ มีภาพมากมายในนั้น ทั้งสองพี่น้องเปิดดูด้วยความสุขถึงแม้ว่าจะอ่านมันไม่ได้ก็ตามที
จู่ ๆ เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น พื้นทรายที่เคยแห้งแล้งนั้นกลับมีต้นไม้งอกขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ เด็กทั้งสองหันมองไปรอบ ๆ พร้อมกับสีหน้าที่งงงัน มือหนึ่งก็ค่อย ๆ เปิดหนังสือ
วาบ.แสงประหลาดพุ่งทยานออกมาจากหนังสือ ร่างของทั้งสองคนหลุดลอยเข้าไปในอีกโลกหนึ่งซึ่งมีแต่ความอุดมสมบูรณ์
ที่นี่ที่ไหนกันคะพี่ชาลี
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ชาลีเอ่ยพร้อมกับจูงมือมารีน่าเดินไปรอบ ๆ ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีลักษณะประหลาดอะไรเช่นนี้
กึก กึก กึกต้นไม้ใหญ่ค่อย ๆ สั่นเอนไปเอนมา พลันใดนั้นร่างของคนแคละผู้หนึ่งก็กระโดดออกมาจากต้นไม้พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องไปหมด
ห้า ห้า ห้า ห้าข้าชนะแล้วเจ้าแฮมปีเซอร์
ไม่จริงข้าไม่แพ้หรอก มาเป่ายิงฉุบใหม่สิ
ไม่มีทางห้า ห้า ห้า ห้า คนแคละคนนั้นวิ่งกระโดดไปรอบ ๆ ตัวของเด็กทั้งสองพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
หยุดเดี๋ยวนี้นะมาให้จับซะดี ๆ เจ้าได้เงินข้าไปเยอะแล้วนะเจ้าคนกระล่อนฮิวเมอร์หยุดเดี๋ยวนี้นะหยุด.!
เด็กสองคนยืนมองจนปวดหัวจึงจับแขนคนแคละทั้งสองคนไว้ทันที
ที่นี่ที่ไหนเหรอ มารีน่าเอ่ยถามพร้อมกับสีหน้าอันสงสัย
ใครกันเนี่ย น่าตาขี้เหล๊ขี้เหล่เนาะ!!! แฮมปีเชอร์เอ่ยพร้อมกับเอียงคอมองอย่างสงสัย เจ้าเป็นใคร มาจากไหน ทำไมมาอยู่ที่นี่
ผะ ผะ ผมไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้เรายังเล่นอยู่ที่หน้าบ่อน้ำมันอยู่เลย แล้วจู่ ๆ ผมกับน้องก็มาอยู่ที่นี่แหละ
โกหก!!! คนแคละทั้งสองถึงกับเอ่ยขึ้นพร้อมกันทันที ต้องมีอะไรนำเจ้ามาแน่ ๆหรือว่าหนังสือ หนังสือใช่ไหม!!!
อะ อะ เอ่อใช่!!! ชาลีเอ่ยพร้อมกับสีหน้าอันหวาดวิตก ในขณะที่มารีน่าฝาแฝดผู้น้องหลบเข้าไปอยู่ที่หลังของพี่ชายด้วยความกลัว
เอาอย่างนี้ละกัน นาน ๆ ทีเราจะได้เจอกับมนุษย์โลกเอน่าจะพันกว่าปีได้มั้งเนี่ย แต่ก็เอาเถอะเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปคัดเลือกคนนำทางแห่งดินแดนมหัศจรรย์ไป ไปกันเถอะ
คนแคละทั้งสองคนนำทางไปยังลานกว้าง ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนมาชุมนุมกันอย่างคับคั่ง
หลบหน่อย หลบหน่อย แฮมปีเชอร์ตะโกนดังขึ้นพร้อมกับจูงมือพาเด็กน้อยทั้งสองคนเข้าไปตรงกลางลาน
พลันใดนั้นเองร่างอันใหญ่และดำทมึนของใครคนหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากความมืดพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังตึง ๆ อยู่ตลอดเวลา
โอ้ผู้พยากรณ์ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันพร้อมกับคุกเข่าคำนับทันที
ก้มลงสิ แฮมปีเชอร์กดหลังของเด็กน้อยให้ก้มลงคำนับผู้พยากรณ์อย่างนอบน้อม
สวัสดีผู้มาเยือนคนใหม่ เจ้าคงยังไม่มีนางฟ้าที่จะปกป้องเจ้าสินะอืมข้าจะให้เจ้าเลือกละกันมันก็แล้วแต่บุญแต่กรรมเจ้าละนะ ผู้พยากรณ์เอ่ยพร้อมกับหยิบแก้วขึ้นมาสองใบและสับไปสับมา เลือกสิ ผู้พยากรณ์เอ่ย
ชาลีสะกิดให้มารีน่าเลือกก่อน มารีน่าจึงชี้แก้วใบซ้ายมือ พลันใดนั้นนางฟ้าผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับสีหน้าอันยิ้มแย้มสดใส
โหอย่างกับตุ๊กตาบาบี้แน่ะ มารีน่าเอ่ย
เจ้าไม่ต้องเสียใจไปนะเพราะเจ้าก็มีนางฟ้าประจำตัวเจ้าแล้วเหมือนกัน ผู้พยากรณ์เอ่ยพร้อมกับเปิดแก้วใบต่อไป พลันใดนั้นร่างของนางฟ้าที่กำลังนอนหลับไหลก็ปรากฏขึ้น โฮ่โฮ่เจ้านี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้เจ้าไลลาเป็นผู้ช่วย คงจะกินกับนอนทั้งวันทีเดียวละ ผู้พยากรณ์เอ่ยพร้อมกับสลัดข้อมือเบา ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ เดินออกไป อ้าวแล้วใครที่ต้องการดูดวงก็เดินเข้ามานะ อย่ารอช้า ข้ามีงานต้องทำ ผู้พยากรณ์หันไปเอ่ยกับคนอื่น ๆ ที่ยังคงคุกเข่าคำนับอยู่อย่างนั้น
นับตั้งแต่ได้นางฟ้ามาสองพี่น้องก็มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป ต่างคนต่างอยู่ จากที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกันก็เป็นอันห่างกันออกไปทุกที มารีน่านับวันก็จะก้าวร้าวขึ้นทุกวันสนใจและฝักใฝ่ที่จะเล่นการพนันกับแฮมปีเชอร์และฮิวเมอร์คนแคละจอมกวนที่ต้นไม้ใหญ่ ส่วนชาลีก็ดูจะเคร่งขรึมหัดอ่านหนังสือจนกระทั่งอ่านออกเขียนได้
คุณไลลา ผมจะออกไปดูมารี่น่าสักหน่อย ไม่รู้ว่านาฟ้าเฌอมานสอนอะไรไปได้แค่ไหนแล้ว ชาลีเอ่ย เขาเดินตามหาน้องสาวจนทั่วแต่ก็ไม่เจอจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงน้องสาวดังลั่นออกมาจากต้นไม้ใหญ่ เขาจึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับต่อว่ามารีน่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เนี่ยนะเหรอสิ่งที่นางฟ้าเฌอมานสอน
ก็แหมคนเรามันเครียดก็ต้องหาทางระบายบ้างละ มารีน่าเอ่ยพร้อมกับสะบัดหน้าหนี
ออกมานี่เลยมาเรียนหนังสือซะเดี๋ยวนี้เลย เห็นไหมพี่อ่านออกเขียนได้ไปตั้งเยอะ แล้วเราล่ะได้อะไรมาบ้างไม่มีเลย วัน ๆ เอาแต่เล่นการพนันแบบนี้น่ะเหรอ ใช้ไม่ได้ ไม่มีความรับผิดชอบ ชาลีเอ่ย
อย่ามายุ่งกับเค้านะ มารีน่าเอ่ย นายไม่ต้องมายุ่งอะไรกับเค้านักหรอกเอาไว้เจอกันในงานเลือกตั้งผู้นำเผ่าก็แล้วกัน มารีน่าเอ่ยท้าชาลีด้วยท่าทางยียวน
นี่!!! ชาลีถึงกับพูดไม่ออกเพราะไม่คิดว่าน้องสาวของตัวเองจะกล้าท้าทายเขาให้เขาทำในสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามคำทำนายของไลลานางฟ้าประจำตัวของเขา
เช้าของวันค้นหาผู้นำเผ่า ทุกคนต้องขึ้นเขาเพื่อขุดทองกัน ใครค้นหาทองคำได้คนนั้นจะได้เป็นผู้นำเผ่า ชาลีและมารีน่าขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับเครื่องมือในการขุดทองตามที่นางฟ้าประจำตัวมอบให้ ในวันนั้นผู้คนมากันอย่างคับคั่งเพื่อต้องการความเป็นหนึ่ง แต่ชาลีเองคิดแต่เพียงว่าต้องการเรียกร้องความรักระหว่างพี่กับน้องกลับมาเท่านั้น
หนทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก มารีน่าล้มลุกคลุกคลาน ชาลีเองก็เข้าไปพยุงตัวน้องสาวเอาไว้ แต่เธอกลับผลักไสเขาให้ไปห่าง ๆ
ออกไปนะไป!!! เสียงตวาดของมารีน่าดังกึกก้องไปหมด แต่ไม่มีใครสนใจเธอเพราะทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาหาทองคำกันอย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อมารีน่าหกล้มกลิ้งไปจนกระทั่งจะตกเขา เธอจึงเอ่ยร้องดังขึ้นว่า พี่ชาลีช่วยน้องด้วย ทำให้ชาลีวิ่งเข้าไปดึงมือของมารีน่าเอาไว้จนกระทั่งตกเขาไปพร้อมกัน อ๊าก!!!!
ที่นี่ที่ไหนกันคะพี่ชาลี มารีน่าเอ่ยขึ้น
ไม่รู้เหมือนกันตะตะแต่ว่านั่นไง ทองคำ ชาลีเอ่ยเสียงหลงเมื่อหันไปรอบ ๆ ตัวก็พบแต่ทองคำมากมายก่ายกองเต็มไปหมด และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนซึ่งกำลังคุยกันอยู่นั้นแว่วมาแต่ไกล เขากระซิบกระซาบให้มารีน่าเงียบ ๆ และค่อย ๆ ย่องไปแอบฟังว่าคนเหล่านั้นเป็นใครและกำลังจะทำอะไร
ยาบ้าพวกนี้นี่ดีจริง ๆ เลย ทำให้เราได้ทองคำมากมายขนาดนี้ ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องไปหมด ร่างนั้นค่อย ๆ หันมาช้า ๆ พลันใดนั้นเด็กน้อยทั้งสองคนก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าชายคนนั้นคือนายกเทศมนตรีกระทรวงมหัศจรรย์ และปราบปรามยาเสพติดแห่งโลก
จะทำยังไงดีคะพี่ชาลี น้องกลัวจังเลยค่ะ มารีน่าเอ่ยด้วยเสียงอันแผ่วเบา
เราจะต้องช่วยกันนะ อย่าปล่อยให้คนชั่วมาครองโลกได้และถ้าเราทำงานนี้สำเร็จ เราอาจจะได้กลับไปหาพ่อและแม่ในโลกของเราก็ได้ถึงที่นั่นจะไม่สวยงามเท่าที่นี่ แต่พี่ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นที่สุด ซึ่งนั่นก็คือครอบครัวของเรา
พลันใดนั้นเองร่างของนางฟ้าไลลาก็ปรากฏกายขึ้น ปิ๊ง!!! ดีจังเลยที่เธอสองคนหันกลับมารักใคร่ปองดองกัน เอาละฉันจะช่วยเธอเอง ฉันจะให้เธอทั้งสองคนยืมคาทากายาสิทธิ์ นางฟ้าไลลาส่งคาทากายาสิทธิ์ให้เด็กน้อยทั้งสองคนแล้วก็พลันหายวับไป
โอมขอให้เหตุการณ์ทุกอย่างนั้นหยุดนิ่งเพี้ยง! มารีน่าเอ่ยพร้อมกับกวัดแกว่งคาทาอันนั้นทันที ทุกสิ่งทุกอย่างจึงหยุดนิ่งไปหมด
ไปเราไปหาทางออกกันเถอะ ชาลีจูงมือมารีน่าน้องสาวเพื่อเดินหาทางออกจนกระทั่งพบ นั่นไง!!! ชาลีตะโกนดังขึ้นด้วยความดีใจ
ทั้งคู่ต่างก็วิ่งออกมาข้างนอกจนสำเร็จ พวกเขามองไปทางไหนก็เห็นมีแต่คนหยุดนิ่งไปหมด เขาไม่รู้จะทำยังไงจึงอธิฐานถึงนางฟ้าประจำตัวเขาทั้งสองคน ร่างของนางฟ้าเฌอมานและไลลาจึงปรากฏกายขึ้น
ข้าจะช่วยเจ้าเองเด็กน้อย นางฟ้าทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสกให้ตำรวจแห่งเมืองมหัศจรรย์และพระราชาแห่งเมืองมหัศจรรย์นั้นมาอยู่ต่อหน้านายกเทศมนตรีพร้อมกับเด็กน้อยทั้งสองคน เจ้าจงใช้คทานั้นอีกครั้งสิ นางฟ้าเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
โอมทุกอย่างจงเป็นปกติ มารีน่าเอ่ยขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงขยับได้
ตำรวจกุมตัวนายกเทศมนตรีพร้อมกับเจ้ากรมกระทรวงการต่างประเทศแห่งเมืองมหัศจรรย์เอาไว้ได้ พระราชาจึงตัดสินโทษด้วยพระองค์เอง
ข้าขอปลดเจ้าออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี และให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนเจ้าข้าจะส่งเจ้าไปให้กระทรวงการต่างประเทศตัดสิน พระราชาเอ่ยพร้อมกับหันมายิ้มให้เด็กน้อยทั้งสอง ในความดีของเจ้า ข้าขอขอบใจเจ้ามากที่ช่วยให้เมืองมหัศจรรย์รอดพ้นจากยาเสพติด เจ้าอยากได้อะไรขอจงบอกข้า ข้าจะช่วยเจ้าเอง
กระหม่อมไม่อยากได้อะไรหรอกครับ แค่เพียงได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ ได้รู้จักผู้คนที่นี่ ได้ทำความเข้าใจกับน้องสาว ทำให้ความรักฉันท์พี่น้องนั้นก่อตัวกันแน่นแฟ้นกระหม่อมก็พอใจแล้วครับ ชาลีเอ่ย
แต่ข้ามีสิ่งที่ดีกว่านั้นจะมอบให้เจ้า พระราชาเอ่ยพร้อมกับใช้คทาเรียกนางฟ้าประจำตัวของเด็กทั้งสองออกมา บทพิสูจน์ความสามัคคีของเด็กสองคนนี้สิ้นสุดแล้ว แถมพวกเขายังช่วยให้เมืองเรารอดพ้นจากยาเสพติดอีกด้วย ข้าขอสั่งเจ้าให้ปกป้องเด็กสองคนนี้ไปตลอดชีวิต และข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งสี่กลับไปยังโลกของเจ้าสักที พร้อมกับทองคำที่มีอยู่ในนี้เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีของเจ้าสองพี่น้องก็แล้วกัน พระราชาเอ่ยพร้อมกับแกว่งคทาอีกครั้ง ร่างของทั้งสี่จึงหลุดลอยออกมา
วาบ............สองพี่น้องกลับมานั่ง ณ จุดเดิม ทั้งคู่รู้สึกถึงความผิดแปลกที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงรุดออกจากเหมืองน้ำมันและรีบไปที่ตลาดอีกครั้ง
"สัญญาแล้วนะนางฟ้าว่าจะช่วยเรา" มารีน่าเอ่ย นางฟ้าตัวน้อยพยักหน้ารับ
ตั้งแต่มีการประกาศทางหน้าเว็ปบอร์ดเด็ก ๆ หลายคนพากันสนใจยิ่งนัก โดยเฉพาะนิวซึ่งใช้นามปากกาว่าบูรพา
เฮ้ย! เขาประกวดงานเขียนกันว่ะ เห็นสื่อที่เขาโฆษณาอะป่าววะ ข้าสนใจมาก ๆ เลย
เออว่ะ...แหม...ฉันนะอยากได้รางวัลจังเลย ไม่รู้จะฝันสูงไปหรือเปล่า เจี๊ยบเอ่ย
แต่คนเราก็ต้องมีความฝันจริงมั๊ย ถึงจะไม่ชนะแต่ขอให้ได้ส่งต้นฉบับไปให้พิจารณาก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จได้แล้วจริงมั๊ยล่ะ
จริงของนิวนะ งั้นเจี๊ยบจะทำเรื่องการวิจารณ์วรรณกรรมละกันนะ เพราะเจี๊ยบเพิ่งจะเรียนมาเอง
นิวและเจี๊ยบเริ่มทำงานเขียนตามที่ตั้งใจไว้ และอีเมล์ไปตามที่อยู่ซึ่งเขาได้ให้ไว้ และน่าทึ่งมากี่ระบบตอบกลับอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบซึ่งมีใจความว่า
ตามที่คุณติดต่อมานะครับ รายละเอียดมีดังนี้
1. ที่อยู่การส่งต้นฉบับ สำนักพิมพ์เมปิ้ล
2. ผู้ที่มีสิทธิ์สมัครจะต้องส่ง
2.1 รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
2.2 สำเนาบัตรประชาชน (กรุณาขีดค่อมที่เสาเนาด้วยเพื่อกันการนำไปทำอย่างอื่น)
2.3 เอกสารการขออนุญาตนำผลงานของเพื่อนหรือบุคคลอื่น ๆ แนบมาด้วย อาจจะเป็นการเซ็นรับรองโดยมีบุคคลอื่นนอกเหนือจากคุณและเจ้าของงานที่คุณรวบรวมมาแล้วนั้นต้องมีพยานเซ็นรับรองด้วย (ใส่กระดาษ A4 เขียน/พิมพ์ก็ได้)
2.4 ผลงานของคุณในนามบรรณาธิการของหนังสือเล่มนั้น (ฉบับ 16 หน้ายก/พ็อกเก็ตบุ๊คส์- สามารถใช้ไมโครซอฟเวริ์ดหรือโปรแกรมเพจเมคเกอร์ได้) อาจทำมาเป็นตัวหนังสือ หรือใส่แผ่นซีดีรอมมาก็ได้
3. กติกา
1. ไม่จำกัดเพศ วัย หรืออายุ
2. จะต้องเป็นผลงานที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน
3. กรณีใช้นามแฝง ผู้เขียนต้องแจ้งชื่อ-นามสกุลจริงด้วย รวมทั้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์
4. เป็นเรื่องที่เขียนใหม่โดยไม่ไปลอกผู้อื่นมา ต้องถูกต้องทางภาษาไทย-พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
5. ต้องเป็นผลงานที่ไม่เคยผ่านการประกวด
6. ไม่จำกัดจำนวน 1 คนสามารถส่งได้มากกว่า 1 ชิ้น
7. ต้นฉบับจะต้องใช้ฟรอนท์อังสนานิว 16 พอยท์
8. โครงการประกวดจะดูแลผลงานของคุณเป็นอย่างดี แต่ผู้เขียนจะต้องเก็บสำเนาของตนเองไว้ด้วย
9. ผลงานที่ไม่ผ่านการเข้าประกวดทางกองประกวดจะจัดส่งคืนให้ภายใน 6 สัปดาห์หลังจากการประกาศผลครั้งแรก
10. สามารถเขียนผลงานล้อเลียนวรรณกรรมต่าง ๆ ได้แต่ต้องไม่ผิดศีลธรรมและไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท
4. ผลงานแต่ละประเภท โดยไม่จำกัดในเรื่องเนื้อหาแต่ต้องสัมพันธ์กัน
1. ประเภทรวมเรื่องสั้น
2. ประเภทบทความ
3. ประเภทสารคดี
4. ประเภทกวีนิพนธ์
5. ประเภทวิจารณ์วรรณกรรม (อ้างอิงด้วย)
5. บุคคลที่จะส่งผลงานนั้นจะต้องเป็นคนในประเทศไทย สัญชาติไทย เชื้อชาติไทยเท่านั้น ห้ามมิให้มีสัญชาติอื่น เพราะนี่เป็นผลงานของคนไทยเท่านั้น
6. ระยะเวลาส่งผลงานตั้งแต่บัดนี้ - 15 เมษายน 2550
7. ค่าสมัคร - (แปลว่าไม่มีค่าสมัครใด ๆ ทั้งสิ้น)
8. กรุณาแนบซองเอกสารขนาดที่สามารถใส่กระดาษ A 4 ได้ พร้อมที่อยู่-แสตมป์ 3 บาท 5 ดวงมาด้วยค่ะ เพื่อสะดวกในการจัดส่งคืน (เพราะคุณอาจได้ใบประกาศแนบไปด้วย)
9. ผู้ที่ไม่ได้รับรางวัลแต่ผ่านเข้ารอบ 7 เล่มสุดท้ายทางสมาคมจะออกใบประกาศแนบไปด้วย
10. ผลงานบางคนที่อาจจะไม่ได้รับรางวัลแต่คณะกรรมการลงความเห็นว่าดีนั้นจะได้ตีพิมพ์เป็นกรณีพิเศษ
11. รูปเล่ม
- ออกแบบปกทั้งหน้า-หลัง รวมทั้งสันด้านข้าง
- บทบรรณาธิการ
- สารบัญ (ถ้ามี)
- เนื้อหา
- บทสรุปของบรรณาธิการที่กล่าวถึงผลงานนั้น ๆ หรือเชื้อเชิญให้ติดตามเล่มต่อไป
ทางกองประกวด Your see my writing. (see write editorial) ประจำปี 2007 ซึ่งปีนี้จัดโดยสำนักพิมพ์เมเปิ้ลขอขอบคุณที่คุณสนใจครับ
อ้อ! อย่าลืมส่งที่อยู่มาให้เรา เพื่อที่เราจะได้ส่งใบสมัครไปให้ท่านที่บ้านครับ
.................................2....................................
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ
28 ธันวาคม 2549 18:04 น.
สุชาดา โมรา
ในดินแดนอันไกลโพ้นซึ่งห่างไกลความเจริญ ยังมีครอบครัวครอบครัวหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ภายใต้พื้นทรายแห่งเมืองอาบารัต ครอบครัวนี้มีฐานะยากจนค้นแค้น ถูกกีดกันทางสังคมจากนายทุน ฐานะความเป็นอยู่ของลูกจ้างขุดน้ำมันจึงเป็นไปได้ยากที่จะลืมตาอ้าปากที่จะมองดูโลกแห่งความศิวิลัยได้
อับบาฮาร์มพาลูก ๆ จ่ายตลาด่ามกลางแสงแดงยามเช้าที่แผดเผาอย่างรุนแรง ครู่หนึ่งทางการก็ตรงเข้ามาปิดประกาศ ผู้คนจับกลุ่มมุงประกาศ เสียงของชายคนหนึ่งอ่านเสียงดังขึ้นทำให้ผู้คนที่กำลังส่งเสียงให้แซดอยู่นั้นนิ่งเงียบ
"ประกาศฉบับแรกบอกว่า
การประกวด Your see my writing. (see write editorial) ประจำปี 2007 กำลังจะเริ่มต้นแล้ว คุณสามารถส่งผลงานที่เขียนของคุณได้ที่ สำนักพิมพ์เมเปิ้ล โดยรายละเอียดมีดังนี้
1.ตัวคุณจะต้องเป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือของคุณเอง ซึ่งจำเป็นต้องมีบทบรรณาธิการ สามารถเขียนได้ทั้งไทยและเทศ รวมทั้งภาษาอื่น ๆ ด้วย
2.งานเขียนนั้น ๆ อาจจะเป็นการรวบรวมสุดยอดงานเขียนประเภทเรื่องสั้น บทความ สารคดี กวีนิพนธ์ หรือแม้แต่การวิจารณ์วรรณกรรมก็ได้ ซึ่งมีการแยกประเภทดังนี้
2.1 ประเภทรวมเรื่องสั้น 1 รางวัล 50,000 บาท
2.2 ประเภทบทความ 1 รางวัล 50,000 บาท
2.3 ประเภทสารคดี 1 รางวัล 50,000 บาท
2.4 ประเภทกวีนิพนธ์ 1 รางวัล 50,000 บาท
2.5 ประเภทวิจารณ์วรรณกรรม หรือล้อเลียนวรรณกรรม 2 รางวัล รางวัลละ 60,000 บาท
ซึ่งอาจจะเป็นงานเขียนของคุณเอง หรือของเพื่อนคุณ หรือของบุคคลที่สนิทของคุณ และรวบรวมมาเป็นรูปเล่ม โดยผู้เป็นเจ้าของนามปากกาต้องอนุญาตตามกฎหมาย และจำเป็นต้องมีเอกสารการขออนุญาตแนบมาด้วย
3.จำเป็นต้องมีลูกทีม โดยสามารถศึกษาลายละเอียดเกี่ยวกับการเป็นบรรณาธิการได้จากหนังสือ กว่าจะเป็นบรรณาธิการ ของ สยามโพเอ็ม หรือ ช่างปั้นเรื่อง
หากสนใจ กรุณาติดต่อ siempoem@yahoo.com เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอที่อยู่การส่งต้นฉบับค่ะ
หมดเขตการส่งผลงาน 15 เม.ย. 2550 และประกาศผลครั้งแรก วันที่ 29 พฤษภาคม 2550, ประกาศผลครั้งที่ 2 วันที่ 15 มิถุนายน 2550, ประกาศผลตัดสิน วันที่ 23 กรกฎาคม 2550
ทางสมาคมนักเขียนนานาชาติขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2549
บรรณาธิการ-ประธานสมาคมนักเขียนนานาชาติ
ประกาศฉบับที่สองบอกว่า
การประกวดร้องเพลง (Singing contest.) ประจำปี 2007 กำลังจะเริ่มต้นแล้ว คุณสามารถส่งเดโม่ของคุณได้ที่ บริษัท Siam weed singer.โดยรายละเอียดมีดังนี้
1 ชนะเลิศประเภทร้องเดี่ยว รางวัลละ 70,000 บาท
2 รองชนะเลิศประเภทเดี่ยว รางวัลละ 50,000 บาท
3 ชนะเลิศประเภทกลุ่ม รางวัลละ 70,000 บาท
4 รองชนะเลิศประเภทกลุ่ม รางวัลละ 50,000 บาท
5 รางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท
หมดเขตส่งเดโม่ในวันที่15 เม.ย. 2550 และประกาศผลครั้งแรก จากนั้นทางบริษัทจะติดต่อกลับไปในวันที่ 29 พฤษภาคม 2550, และจะประกวดบนเวทีในวันที่ 15 มิถุนายน 2550
ทางสมาคมนักร้องนานาชาติขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2549
บริษัท Siam weed singer.
ประกาศทั้งสองฉบับนี้ทางผู้นำสหภาพอาบารัตเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่จะประกวดนั้นต้องเป็นวัยที่กำลังศึกษาอยู่เท่านั้น
สิ้นเสียงของชายี่อ่านคนนั้น เสียงผู้คนเริ่มดังแซดขึ้นมาอีกครั้ง ชาลีและมารีน่ามองหน้ากันและกัน ทั้งคู่ซุบซิบกัน
"พี่ชาลีคิดอย่างฉันใช่มั๊ย" ชาลีพยักหน้ารับ "งั้นพี่ไปประกวดร้องเพลงเพราะพี่เสียงดีกว่าฉัน ส่วนฉันจะเขียนนิยาย พี่โอเคมั๊ย" ชาลีพยักหน้ารับอีกครั้ง ทั้งสองพี่น้องเดินจูงมือกันตามหลังอับบาฮาร์มผู้เป็นพ่อตามไปติด ๆ
วันแห่งความอบอ้าว แสงแดดอันแผดเผาร้อนซ่านเข้าไปราวกับว่าเนื้อจะสุกนั้นอับบาฮาร์มผู้เป็นพ่อได้ขึ้นมาจากโพรงเล็ก ๆ ของบ่อขุดน้ำมันพร้อมกับกล่องเหล็กที่เก่าคร่ำคร่าใบหนึ่ง เขายืนพิจารณาอยู่นานจนกระทั่งวางมันลงกับพื้นและใช้แชลงงัดกล่องเหล็กใบนั้นทันที
ทำอะไรของมึงวะอับบาฮาร์ม นายฝรั่งตะโกนดังขึ้นมาพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ
ผมขุดเจอกล่องเหล็กครับ ไม่รู้ว่ามันมีอะไร แต่มันหนักมากเลยครับนายจอร์น อับบาฮาร์มเอ่ยขึ้นพร้อมกับออกแรงงัดกล่องเหล็กใบนั้นจนสุดกำลัง ปัดโธ่!โว๊ยนึกว่าจะมีอะไร ที่แท้ก็แค่หนังสือเล่มเดียว ไอ้เราก็นึกว่าจะมีสมบัติเสียอีก อับบาฮาร์มร้องเสียงหลงพร้อมกับเดินกลับไปอย่างหมดหวัง
พลันใดนั้นชาลีกับมารีน่าลูกชายและลูกสาวฝาแฝดวัยสิบขวบซึ่งนั่งเล่นอยู่บริเวณนั้นก็วิ่งโผเข้าไปดูหนังสือในกล่องใบนั้นทันที
..1
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
18 ธันวาคม 2549 12:00 น.
สุชาดา โมรา
กินอาหารหลัก 5 หมู่ให้ครบถ้วนพอเพียง
ถ้ามีแนวโน้มว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ควรจำกัดหมู่ข้าวกินข้าว หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว วุ้นเส้น ขนมปัง มักกะโรนีให้น้อยลง และจำกัดหมู่ไขมัน คือ กินอาหารผัดทอดให้น้อยลง งดแกง และขนมที่ใส่กะทิข้น ๆ กินเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน
ลดปริมาณไขมันในอาหาร
ควรงดไอศกรีม เค้กทุกชนิด ขนมที่มีแป้งเป็นชั้น ๆ และกรอบร่วน เช่น กะหรี่ปั๊บและขนมพายต่าง ๆ ไก่ชุบแป้งทอด (อมน้ำมันมาก) มันฝรั่งทอด แฮมเบอร์เกอร์
อาหารจีนประเภทผัด ก็มักจะใส่น้ำมัน อาหารไทยหลายชนิดที่มีไขมันมาก เช่น ประเภทแกงคั่ว แกงกะทิ เช่น ฉู่ฉี่ แกงเผ็ด แกงกระหรี่ มัสมั่น ต้มข่า ผักจิ้มน้ำพริก ผักต้นราดกะทิข้น ผักชุบแป้งทอด (อมน้ำมันมาก) ขนมที่ทอดน้ำมัน และอมน้ำมันมาก เช่น ข้าวเม่าทอด ควรงดขนมที่ใส่กะทิข้น (และหวานจัดด้วย) เช่น ปลากริมไข่เต่า ขนมครองแครง รวมทั้งแกงบวด กล้วยบวดชี บัวลอด (ถ้าใส่ไข่หวานด้วยจะยิ่งมีไขมัน และคลอเลสเตอรอลมาก)
อาหารที่มีไขมันน้อย และปรุงให้อร่อยได้ก็มีอยู่มากมาย เช่น ประเภทแกงก็มีแกงส้ม (ทำแบบหม้อไฟก็ได้ด้วย) ต้นยา (น้ำใสไม่ใส่กะทิ) แกงเลียง แกงป่า น้ำยาป่า แกงแค (อาหารเหนือ) แกงเหลือง และแกงไตปลา (อาหารภาคใต้) แกงเหล่านี้นิยมใส่ผักมาก ช่วยให้มีใยอาหารมากด้วย ควรกินบ่อย ๆ
อาหารประเภทยำของคนไทย ทำได้อร่อย โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน (ดังเช่นสลัดของฝรั่ง) จึงมีไขมันน้อย เช่น ยำใหญ่ ยำมะเขือ ยำแตงกวา ยำผักบุ้ง ยำเหล่านี้นิยมใส่เนื้อสัตว์ไม่มากแต่ใส่ผักมาก ช่วยให้ได้รับใยอาหารมาก
เครื่องจิ้ม เช่น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกมะขาม รวมทั้งน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกแดง (อาหารภาพเหนือ) เกือบจะไม่มีไขมัน ควรกินกับผักสด ผักเผา เช่น มะเขือยาว และหัวปลี หรือผักนึ่ง (สงวนคุณค่าได้ดีกว่าต้ม) จะกินผักผัดน้ำมันก็ได้ ถ้าผัดโดยใช้น้ำมันแต่น้อย เช่น ผักบุ้ง ถั่วพู ผัดกับน้ำมัน ถั่วเหลืองเล็กน้อย ของแกล้มใช้ปลาทูนึ่งทอดได้ เพราะในการทอดแบบมิได้ชุบแป้งนี้ ปลาจะไม่อมน้ำมันมากหากใช้ไฟแรงปานกลาง และเวลาทอดแล้วคอยให้สะเด็ดน้ำมันจึงตักขึ้น หรือจะตักวางบนกระดาษทิชชู เพื่อให้ซับน้ำมันก็ได้
อาหารทอดหลายชนิด (ไม่ชุบแป้ง ไม่ชุบไข่) ไม่อมน้ำมัน เช่น ทอดมันปลา เวลาทอดคอยให้สะเด็กน้ำมันจึงตักขึ้น (ต่างจากกุ้งตัวเล็กชุบแป้งทอด ซึ่งอมน้ำมันมาก) ปลาสด เช่น ปลาทู ปลารัง ปลาสีกุน ปลาทรายแดง ปลาน้ำดอกไม้ (อันเป็นปลาทะเลซึ่งมีไขมันอยู่ไม่มาก) ทอดแล้วให้สะเด็ดน้ำมัน จะมีไขมันจากการทอดติดมาไม่มากเลย ถ้าใช้น้ำมันถั่วเหลืองทอด ก็จะได้ประโยชน์ คือ ได้รับไขมันกรดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fatty Acid หรือ PUFA) อีกด้วย
เพื่อเป็นการลดไขมันอิ่มตัว ควรปฏิบัติดังนี้
ลดปริมาณไขมันที่ติดมาในเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด คือ เลือกเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อล้วน ๆ (เช่น สันในไก่ และหมู่ส่วนสะโพกของหมูและวัว) ถ้ามีมันแล่เอาออกเสีย
อาหารที่ควรงด คือ หมูสามชั้น หมูเบคอน ขาหมูส่วนมัน (ส่วนเนื้อล้วนกินได้) แคบหมู หมูหัน เป็ดปักกิ่ง หนังไก่ ก้นไก่ หนังและก้นเป็ด และห่าน
งดอาหารใส่กะทิข้น งดใช้น้ำมันมะพร้าว
ใช้เนยแต่น้อย (ขนมปังทาเนย ควรทาบาง ๆ) หรือไม่ใช้เนย
งดไอศกรีม เค้ก คุกกี้ ขนมพาย
เมื่อจะกินน้ำชา กาแฟ ไม่ควรใช้ครีมเทียม ใช้นมสดชนิดไขมันน้อย (Low Fat) หรือนมขาดมันเนย (Skimmed Milk) แทน
เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA)
ใช้น้ำมันถั่วเหลืองในการประกอบอาหารแทน เช่น ใช้ทอดและผัดแทนน้ำมันอื่น เช่น น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม เมื่อซื้อน้ำมันพืชบรรจุขวดควรอ่านฉลาก เพื่อดูส่วนปะกอบว่าทำมาจากอะไร ถั่วเหลือง หรือปาล์มหรืออื่น ๆ อย่างดูแต่ชื่อหรือยี่ห้อ น้ำมันถั่วเหลือง 100% ดีที่สุด มี PUFA มากทั้ง 2 ชนิด (ลิโนเลอิคและแอลฟาลิโนเลนิค) แกงที่เคยใช้กะทิข้น เช่น แกงเขียวหวานอาจเปลี่ยนใช้น้ำมันถั่วเหลืองแทนได้ ใช้น้ำมันถั่วเหลืองผัดน้ำพริกแกง ปริมาณน้ำมันถั่วเหลืองอาจปรับให้น้อยหรือมากได้ตามเหมาะสม
กินอาหารที่มีคลอเลสอตอรอลไม่เกิน 300 มิลลิกรัม
ก่อนอื่น ๆ ควรทราบว่า อาหารอะไรที่มีคลอเลสเตอรอลมาก อาหารที่คลอเลสเตอรอลมาก ได้แก่ มันสมอง ไข่แดง ไต ตับ นม ฉะนั้นเวลาปฏิบัติ คือ กินอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลสูง ครั้งละน้อย ๆ และไม่กินบ่อย เช่น กินไข่พร้อมไข่แดงวันละไม่เกิน 1 ฟอง (ถ้ากินไข่ขาว กินได้โดยไม่ต้องจำกัด) ผู้ที่มีคลอเลสเตอรอลในเลือดสูงอยู่แล้ว อาจกินไข่สัปดาห์ละไม่เกิน 3-4 ฟอง ถ้าจะกินตับหมู รวมทั้งไตหมู (เซี่ยงจี้) กินเพียงมื้อละ 3-4 ชิ้น
นมสดชนิดไขมันครบส่วน (Whole Milk) เป็นอาหารที่ควรจำกัด
กินอาหารที่ใยมาก เช่น ผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง (เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ที่มิได้ลอกเอาเยื่อหุ้มเมล็ดออก) พวกข้าวที่ไม่ได้ขัดจนขาว เช่น ข้าวแดง ขนมปังสีน้ำตาล นอกจากช่วยให้ท้องไม่ผูกแล้วยังมีส่วนช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือดด้วย ถั่วเหลืองดูเหมือนเป็นอาหารดีเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีคลอเลสเตอรอลในเลือดสูงเพราะ
น้ำมันถั่วเหลืองมี PUFA อันเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ที่มีคุณสมบัติช่วยลดคลอเลสเตอรอลได้อยู่มาก
ถั่วเหลืองมีโปรตีนมาก และโปรตีนของถั่วเหลืองที่มีคุณสมบัติช่วยลดคลอเลสเตอรอลได้ด้วย
ถั่วเหลืองที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดหนา ถ้ากินทั้งเมล็ดไม่ลอกเอาเยื่อหุ้มเมล็ดออก จะได้ใยอาหารมากทีเดียว
ข้อปฎิบัติด้านอาหาร การบริโภคเพื่อป้องกันอัมพาต
เพื่อลดน้ำหนัก จำกัดพลังงาน กินพวกข้าว (แป้ง) ให้น้อยลง แต่ไม่ต้องงดขนมหวาน กินผลไม้ที่ไม่หวานแทน
เพื่อลดไขมัน กินอาหารผัดให้น้อยลง และผัดโดยไม่ใช้น้ำมันมาก งดอาหารทอดชนิดอมน้ำมันมาก ใช้วิธีประกอบอาหารที่ไม่ต้องใช้น้ำมันบ้าง เช่น นึ่ง ย่าง อบ ยำ แกงเลียง แกงป่า แกงส้ม แกงเหลือง เป็นต้น งดกะทิ งดขนมที่ปรุงด้วยกะทิข้น
เพื่อลดไขมันอิ่มตัว
- จากสัตว์ > เนื้อสัตว์ (มีไขมันแทรก) นม เนย
- จากพืช > มะพร้าว กะทิข้น น้ำมันมะพร้าว เนยเทียม ครีมเทียม
งดอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลมาก เช่น มันสมองหมู ไข่ปลา กินอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลมากปานกลาง เช่น ไข่แดง (ไข่ไก่ - ไข่เป็ด) ตับ ไต (เซี่งจี๊หมู) ปริมาณจำกัด เช่น กินโจ๊ก ใส่ตับ 2-3 ชิ้นไม่ใส่ไข่ กินไข่ที่มีไขแดงสัปดาห์ละไม่เกิน 3 ฟอง ส่วนไข่ขาวกินได้ไม่จำกัด
ใช้น้ำมันถั่วเหลืองผัดอาหาร ไม่ใช้ไฟแรง ใช้น้ำมันปาล์ม ทอดอาหารแบบไม่อมน้ำมัน เช่น ทอดปลาทู และปลาชนิดอื่น (ที่ไม่ชุบแป้งหรือขนมปังป่น) ทอดไข่ดาวหรือไข่เจียว ไม่ควรกิน ไข่ฟู เพราะอมน้ำมันมาก
บริโภคเนื้อสัตว์แต่เพียงพอ (ไม่มากเกินไป) โดยเลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (การกินเนื้อสัตว์มากจะทำให้ได้รับไขมันมากด้วย)
กินข้าวที่ไม่ขัดจนขาว กินข้าวเหนียวดำ ถ้ากินขนมป้งเลือกชนิดสีคล้ำ (Whole Wheat) กินน้ำตาลให้น้อยลง โดยงดน้ำหวาน น้ำอัดลง งดขนม (มักจะมีน้ำตาลและไขมันมาก) งดน้ำชา กาแฟ โกโก้ โอวัลติน
กินผักใบสีเขียวและสีเข้ม เช่น ตำลึง ยอดแค ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ปวยเล้ง เป็นต้น
ผักสีแสดและสีแดง เช่น มะเขือเทศสุกแดง แครอท ฟักทอง พริกหยวก พริกยักษ์แดง
ผลไม้สีแสด เช่น มะละกอสุก มะม่วงสุก (ได้เบต้าแคโรทีน ใยอาหาร และวิตามินซี) กินฝรั่งบ่อย ๆ จะมีสารเปคติน (Pectin) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่งอยู่มาก อีกทั้งยังมีวิตามินซีมากมาย (80 เท่าของแอปเปิ้ลและองุ่นที่หนักเท่ากัน) และยังหาง่ายราคาถูกกว่ามาก อีกทั้งยังช่วยลดคลอเลสเตอรอล
ผักที่มีใยอาหารมาก ได้แก่ มะเขือพวง สะเดา หัวปลี พริกขี้หนู เห็ดหูหนู ใบชะพลู พริกชี้ฟ้า กระเฉด กระเทียม กระเพรา แครอท โหระพา ใบกุยฉ่าย ชะอม ผักบุ้งไทย ถั่วฝักยาว แขนงกะหล่ำ
ผลไม้ที่มีใยอาหารมาก ได้แก่ ละมุด ทุเรียน (ชะนี) ฝรั่งเวียดนาม มะม่วงแรด (ดิบ) กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ส้มเช๊ง เงาะโรงเรียน ขนุนหนัง มะม่วงน้ำดอกไม้ (ผลยาว และสุก) กล้วยหอม
ผักที่มีเบต้าแคโรทีนมาก ได้แก่ ผักตำลึง ผักบุ้งจีน ใบกระเพรา กระถินยอดอ่อน ผักหวานบ้าน สะระแหน่ ผักอีตู่ ใบโหระพา ใบแมงลัก ผักกวางตุ้ง
ผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนมาก ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงสามฤดู มะละกอสุก แตงโม กล้วยไข่
งดหรือลดการได้รับคาเฟอีนลง คาเฟอีนอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง : จุลสารเรื่องอาหารสมอง โดย รศ.ชวลิต รัตนกุล
บทความที่เกี่ยวข้อง
คนพิการทางกาย หรือการเคลื่อนไหว
สาเหตุของการรักษาไมเกรนไม่ได้ผล
โรคพาร์กินสัน
โรคเอแอลเอส (Amyotrophic lateral sclerosis)
การตรวจเอกซเรย์หลอดเลือด (Angiography
18 ธันวาคม 2549 11:58 น.
สุชาดา โมรา
ส่วนผสม
เม็ดบัวแห้งนึ่งให้สุก 4 ½ ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
มะพร้าว 800 กรัม น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วยตวง
ไข่ 8 ฟอง
วิธีทำ
1.นำเม็ดบัวแช่น้ำ 1-2 ชั่วโมง
2.นึ่งเม็ดบัวให้สุก
3.คั้นกะทิให้ได้ 4 ถ้วยตวง
4.ผสมน้ำตาลทรายกับกะทิ คนให้ละลาย
5.ผสมเม็ดบัวกับกะทิในข้อ 4 ปั่นให้ละเอียด
6.นำส่วนผสมที่บดละเอียดแล้ว ใส่กระทะทอง ตั้งไฟกวนจนแห้ง ไม่ติดกระทะ เป็นก้อนกลม ยกลง ตักใส่ภาชนะ ผึ่งไว้ให้เย็น
7.ปั้นเป็นลูกกลมรี
8.นำน้ำตาลทราย ผสมน้ำลอยดอกมะลิ ตั้งไฟเคี่ยวจนเข้มข้นพักไว้
9.ต่อยไข่แยกไข่ขาวไข่แดง ใช้เฉพาะไข่แดง คนให้ไข่แตก
10.นำเมล็ดบัวที่ปั่นไว้ ชุบไข่ ใส่ลงในน้ำเชื่อม ให้เต็มกระทะแล้วจึงนำไปตั้งไฟ
11.พอเดือดตักออก