8 มกราคม 2548 00:11 น.

นวนิยาย:คิดจะรัก...ต้องพักรบ (ตอนที่2)

สุชาดา โมรา

กัญญานั่งตรวจดูบัญชีอย่างขะมักเขม้น  เธอเป็นคนเก่งมีไฟและมีความมุ่งมั่นในการทำงานสูงจึงทำให้เธอดูเป็นเจ้านายคนใหม่ที่เจ้าระเบียบ  เข้มงวดและรักความถูกต้อง  และเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงรอบรู้และเชี่ยวชาญในงานที่ทำโดยเฉพาะ
	ได้เวลาพักเที่ยงแล้วค่ะ  คุณกัญญาจะทานอะไรดีคะจะได้จัดเตรียมให้ที่ห้องอาหาร
	ไม่ฉันไม่อยากทานที่ห้องอาหาร  ฉันอยากไปทานที่โรงอาหารมากกว่า
	เอ่อแต่ที่นั่นมีแต่คนงานนะคะ
	ก็ดีฉันจะได้ไปดูว่าคนงานเขากินอยู่กันอย่างไร  อาหารถูกสุขอนามัยหรือเปล่า
	แต่ไม่มีใครรู้จักคุณเลยนะคะ
	ก็ดีฉันจะได้ลงไปสัมผัสกับพวกคนงานอย่างใกล้ชิด  จะรู้เรื่องราวของคนในบริษัทด้วยถ้าเธอไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปนะ
	ไปสิคะ  ดิฉันต้องตามคุณไปอยู่แล้วค่ะ
	ก็ดีอ้อ...!!!!  ห้ามปากโป้งบอกใครต่อใครล่ะว่าฉันเป็นประธานบริษัทคนใหม่
	ค่ะ
	กัญญาสั่งคุณวจีเลขา  จากนั้นก็สวมเสื้อสูทตัวนอกสีดำเดินตรงมายังห้องอาหารทันที  เธอชำเรืองมองเข้าไปในห้อง  ทุกคนในห้องอาหารลุกขึ้นรอเธอแต่เธอกลับยิ้มและปิดประตูทันที  จากนั้นก็เดินตงไปยังโรงอาหาร
	ในห้องอาหารมีแต่พวกผู้จัดการและพวกใหญ่ ๆ นี่เหรอ
	เอ่อค่ะ
	กัญญาเดินเงียบตลอดทาง  เมื่อมาถึงโรงอาหารเธอมองเห็นคนงานเดินเข้าคิวต่อแถวซื้ออาหารกันเนืองแน่น  ร้านอาหารมีเพียงสามร้านซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนงานเลย  เธอเดินเข้าคิวเช่นกัน
	คุณจะต่อแถวแบบนี้เหรอคะ
	จะให้ฉันรัดคิวหรือไงกัน
	ก็ดิฉันไม่ได้ว่าอย่างนั้นค่ะเพียงแต่ดิฉันเดินไปสั่งให้ก็ได้ค่ะ  เดี๋ยวแม่ค้าก็จะเดินมาส่งถึงโต๊ะ
	นี่.คุณวจี  ฉันมาเพื่อดูคนงาน  มาร่วมทานอาหารกับคนงาน  คุณไม่เข้าใจความหมายของฉันเหรอ  อีกอย่างฉันก็ไม่อยากแซงคิวใครมันเสียมารยาทเข้าใจไหม
	กัญญาพูดกระซิบกระซาบกับคุณวจีเลขา  จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารอคิวเพื่อสั่งอาหารจนเลยเวลาทำงาน  คนงานหลายคนที่ยังไม่ได้ทานอาหารเมื่อมองดูนาฬิกาก็รีบร้อนกลับไปทำงานทันทีทำให้กัญญารู้สึกสงสารคนงานมาก  เธอเดินออกจากแถวจากนั้นก็ตะโกนเสียงดังลั่นโรงอาหาร
	หยุดก่อนค่ะอย่างเพิ่งไป
	ทุกคนหันมามองกัญญาด้วยความสงสัย
	ทานข้าวก่อนแล้วค่อยไปทำงานสิคะ
	ไม่ได้หรอกคุณถ้าฉันไปไม่ทันทำงานคุณอุดมคงจะหักเงินเดือนฉันแน่  หรือว่าคุณจะมารับรองเงินเดือนของพวกเรา
	ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นทำให้กัญญารู้สึกใจหายเพราะเธอก็เพิ่งรู้ว่ามีการตัดเงินเดือนกันทั้ง ๆ ที่ในบัญชีของหลายฝ่ายในบริษัทไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ไว้เลย
	เอาละฉันรับรองเงินเดือนพวกคุณเอง  ไปเข้าแถวสั่งอาหารต่อได้ค่ะ
	คุณมีอำนาจสิทธิ์อะไรถึงจะมารับผิดชอบพวกเราเงินเดือนคุณคงไม่มากหรอก  คุณจะรับผิดชอบไหวเหรอ
	ไหวสินี่คือคุณกัญญา  สมจิตรนา  ประธานบริษัทคนใหม่ของบริษัทเรา
	คุณวจีพูดเสียงดังขึ้นทุกคนในโรงอาหารฮือฮากันให้แซดไปหมด  ต่างคนต่างก็จ้องมองกัญญาด้วยความเกรงใจจากนั้นก็วิ่งเข้าไปเข้าแถวต่อคิวซื้ออาหารต่อ  แม่ค้าคนหนึ่งเดินออกมาหากัญญาและแสดงความนอบน้อมเป็นพิเศษ
	ท่านประทานคะ  ทานอะไรดีคะ
	ยังก่อนค่ะดิฉันจะต่อคิวเหมือนพนักงานคนอื่น ๆ
	กัญญายิ้มและเดินไปเข้าแถวอย่างพนักงานทั่วไป  หลายคนหันมายิ้ม ๆ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจใคร  เธอยิ้มและพูดคุยกับพนักงานตามปกติราวกับทุกคนเป็นเพื่อนเธอ  ไม่มีการแยกชนชั้นแบ่งความสูงต่ำในบริษัท  เธอพยายามจะทำให้ทุกคนเสมอภาคกันจึงทำให้เป็นที่โจทย์จันกันไปทั่วว่าเธอเป็นนักพัฒนาที่ดี  เป็นเจ้านายที่ดีที่สุดเท่าที่พนักงานทุกคนเคยเห็นมา
	.
	คุณภูริกับหนูนามาที่บริษัทบริษัทผ้าฝ้ายและลินิน  จำกัด  ด้วยกันทั้งคู่มาพร้อมกับช่างภาพและทีมงานข่าวของ  N.TV  เพื่อจะมาขอสัมภาษณ์กัญญาและพนักงานบริษัทถึงข่าวลือที่เป็นกระแสออกไปว่าเธอเป็นเจ้านายนักพัฒนาและมีความเป็นกันเองสูง
	ขอพบคุณกัญญาค่ะ
	จากไหนคะ
	N.TV ค่ะ
	นัดไว้หรือเปล่าคะ
	เปล่าค่ะ
	เดี๋ยวรอสักครู่นะคะเพราะตอนนี้ท่านกำลังทำธุระอยู่ค่ะ
	คุณวจีพาคุณภูริและหนูนาไปนั่งที่โซฟารับรองจากนั้นก็เข้าไปในห้องของท่านประธานเพื่อปรึกษาเรื่องนักข่าวที่มาจาก N.TV ทันที
	คุณนี่ทำงานหละหลวมมากเลยนะทำไมไม่ถามาเขาว่ามาเรื่องอะไร
	กัญญาดุคุณวจีเสียงดังลั่นห้อง  คุณวจีทำหน้าเสียและออกมาถามคุณภูริและหนูนาทันที  แต่คุณภูริเข้าใจผิดคิดว่าเลขาให้เข้าพบได้จึงตรงเข้าไปในห้องของท่านประธานทันที
	นี่คุณใครอนุญาตให้เข้ามา!!!!
	คือดิฉันห้ามไม่ทันค่ะ
	กัญญาพูดเสียงดังคุณวจีตรงเข้ามาอธิบายทำให้กัญญาต้องถอนใจเฮือกใหญ่และต้องเชิญให้คุณภูริและหนูนาพร้อมทั้งทีมงานนั่งที่โซฟารับรองคุณวจีไปยกขนมและกาแฟมาให้ที่โซฟา  กัญญาชงกาแฟให้กับหนูนาทันที
	ขอบใจจ่ะเธอนี่รู้ใจฉันตลอดเลยนะ
	หนูนาพูดขึ้นพร้อมกับจิบกาแฟ  กัญญามองหน้าคุณภูริและฉีกซองกาแฟเตรียมที่จะชงทันที
	เอ่อผมไม่ดื่มกาแฟครับ
	ใครว่าฉันจะชงให้คุณล่ะ  นี่ของคุณคนนี้ต่างหากล่ะ
	กัญญาพูดยิ้ม ๆ และก็ยื่นกาแฟให้ตากล้องทันทีจากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะและหยิบของในลิ้นชักโต๊ะออกมาทันที
	คุณคงทานได้นะคะ
	กัญญาส่งซองโกโก้ให้คุณภูริ  เธอยิ้มละมุนแล้วก็เดินไปเคลียร์เอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะทันทีกัญญาหยิบถุงของฝากมาที่โซฟาจากนั้นก็ยื่นให้กับทั้งสามคนทันที
	นี่อะไรเหรอกัญญา
	นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเรา  ฉันได้ไอเดียมาจากตอนเรียนอยู่ที่ปารีส  ฉันว่าฉันจะทำตุ๊กตาหมีพร้อมกับชุดที่สามารถถอดได้ด้วยนี่ฉันตัดเย็บเองเลยนะ
	อืมสวยเนาะ
	ฉันให้ทุกคนเป็นของขวัญปีใหม่ค่ะ
	แหมเลยมาตั้งหลายวัน  นี่มันจะวันวาเลนไทน์แล้วนะย๊ะแม่นาง
	เออ ๆ ก็รับไปเถอะแหมเธอนี่ก็ช่างเบรคฉันจังเลยนะเดี๋ยวก็ส่งให้ไปอยู่กับยายกิ๊กเลย
	กัญญาหัวเราะแล้วก็ส่งตุ๊กตาให้กับทั้งสามคน  จากนั้นก็นั่งคุยกันอย่างออกรสทันทีคุณภูริค่อนข้างจะชื่นชมในตัวของกัญญาเป็นพิเศษ  เขาพูดชมกัญญาไม่หยุดปากทีเดียว  แต่กัญญากลับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ท่าทางแปลก ๆ ดูไม่ค่อยจะถูกชะตาเสียเท่าไร
	หนูนาและคุณภูริร่วมกันจัดรายการทีวีขึ้นมาเพื่อสัมภาษณ์คนดังและความสำเร็จในชีวิต  เขาเลือกที่จะมาสัมภาษณ์กัญญาเป็นคนแรกเพราะข่าวลือที่ลือกันหนาหูอีกทั้งความชื่นชอบส่วนตัวของเขาเองด้วย
	คุณภูริและหนูนาสัมภาษณ์กัญญา  กัญญาพาทั้งคู่และช่างภาพเดินไปดูรอบ ๆ โรงงานพร้อมทั้งอนุญาตให้ทั้งสองคนสัมภาษณ์คนงานได้ด้วย
	ขอบคุณมากนะครับที่ให้ความร่วมมือวันหลังถ้าผมมีโอกาสผมจะชวนคุณไปทานอาหารเพื่อเป็นการตอบแทน
	หัวหน้าคะใกล้จะถึงวันเกิดคุณแล้วไม่ใช่เหรอคะ  ทำไมไม่ชวนยายกัญญาไปร่วมฉลองล่ะคะ
	หนูนาพูดราวกับรู้ใจว่าคุณภูริแอบชื่นชอบกัญญาอยู่คุณภูริจึงออกปากชวนกัญญาไปร่วมฉลองงานวันเกิดของเขาในอีกสามวันข้างหน้าทันที
	ไปให้ได้นะครับ
	ค่ะ
	อย่าลืมเชียวนะ
	จ่ะยายนา
	อ้อเพื่อน ๆ เราไปทุกคนเลยนะ  ถ้าเธอพลาดแล้วจะเสียใจ
	กัญญาและหนูนายืนหัวเราะกันใหญ่  กัญญาขำที่หนูนาพูดเพราะปกติหนูนาจะไม่ใช่คนพูดจาแบบนี้แต่กัญญาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร  เธอยังยืนยันว่าเธอจะไปให้ทัน
.2
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เป็นกำลังใจให้เสมอมานะคะ				
7 มกราคม 2548 23:54 น.

นวนิยาย:คิดจะรัก...ต้องพักรบ (เสนอเป็นตอนแรกค่ะ)

สุชาดา โมรา

แป้งเป็นเพื่อนคนแรกในกลุ่มที่แต่งงานก่อนเพื่อน  แป้งทำงานอยู่ที่เดียวกับแฟนของเขาและคบค้าดูใจกันมานานตั้งแต่ตอนที่พวกเรายังเรียนปริญญาตรีอยู่ที่เมืองไทย  แฟนของแป้งเป็นคนรักครอบครัวแต่เสียอย่างเดียวคือเรื่องเจ้าชู้  พี่นันต์เป็นหัวหน้าแผนกฝ่ายศิลป์ของบริษัทขายเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมาก  แป้งมักจะปวดหัวเสมอกับเรื่องของเขา  เพราะเขาเป็นคนหน้าตาดี  และพูดจาหว่านเสน่ห์สาว ๆ เก่งจึงทำให้สาว ๆ เข้ามารุมล้อมมากมาย  แต่แป้งก็ยังอดทนอยู่กับเขามานานถึงสี่ปีโดยที่ไม่ว่ากว่าเขาแม้แต่นิดเดียว  แป้งมีลูกสาววัยน่ารักชื่อแนท  ซึ่งกัญญายังไม่เคยเห็นหน้าลูกสาวของแป้งคนนี้เลย  เธอรู้เรื่องจากจดหมายที่แป้งส่งไปให้ตอนที่เธออยู่ปารีสช่วงที่เรียนปริญญาโท
                         กระต่ายเป็นเพื่อนคนที่สองที่แต่งงาน  เธอเป็นแม่บ้านแม่เรือน  ขยันทำงานและเอาอกเอาใจคนเก่ง  ต่ายจึงเป็นที่รักของคนในครอบครัวของแฟนเธอ  พี่โอเป็นคนดีขยันทำงาน  แต่เป็นคนที่เก็บเงินไม่ค่อยจะอยู่  มีเท่าไรก็มักจะไปเฮฮากับเพื่อนเสมอ ๆ ต่ายจึงทำหน้าที่เป็นเสมียนส่วนตัวของเขาคอยบงการไม่ให้ใช้เงินเก่ง  ต่ายให้เงินพี่โอติดตัวทำงานเพียงวันละยี่สิบบาทเท่านั้นเพราะวันทั้งวันพี่โอก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่กับอู่ซ่อมรถทั้งวัน  กลางวันต่ายก็หาข้าวหาน้ำมาเสริฟให้ตลอด  พอตกเย็นก็ไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาไปไหนเพราะกลัวว่าพี่โอจะหนีเที่ยวกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ อีก  จนชาวบ้านล่ำลือกันไปทั่วว่าคุณนายเสือดุ  หรือคนคุมบังเหียนเจ้าของอู่โอบริการ  ต่ายแต่งงานมาสามปีต่ายบอกว่ายังไม่อยากจะมีลูกเพราะตัวเองยังไม่ได้ปลูกบ้านแยกครอบครัวออกไป  ต่ายจึงรอให้พี่โอเก็บเงินให้มากกว่านี้เพื่อที่จะได้ไปปลูกบ้านในที่ของตัวเอง
                            หนูนาเป็นเพื่อนคนที่สามที่แต่งงานหลังจากที่ต่ายแต่งงานได้เพียงสองเดือน  หนูนาทำงานเป็นนักข่าวของช่อง  N.TV    เธอเป็นคนปราดเปรียวคล่องแคล่วในการทำงานมากจนได้รับขนานนามจากโทรทัศน์หลาย ๆ ช่องว่านักข่าวหัวเห็ด  คือมีสถานการณ์อะไรที่ไหนเธอก็จะไปอยู่ที่นั่นและเก็บข้อมูลได้เร็วมากจนทางโทรทัศน์หลาย ๆ ช่องก็อยากจะได้เธอไปเป็นนักข่าวของเขา  หนูนาคบหาดูใจกับแฟนของเขามาตั้งแต่ตอนเรียนปริญญาตรีและก็แต่งงานกันตอนที่เธอกำลังเรียนต่อโท  มีลูกด้วยกันสองคนคือต้นต่อ  และต้นเอก  เป็นผู้ชายทั้งคู่  แต่ถึงกระนั้นหนูนาก็เป็นคนรักสวยรักงามมาก  ถึงจะมีลูกแฝดสองเธอก็ยังคงรักษาทรวดทรงได้ดีทีเดียว  ต้นกล้าแฟนของหนูนาทำงานเป็นวิศวกรเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง  เป็นคนเก่งและขยันทำงานมาก  ถึงแม้ว่าจะอายุน้อยกว่าหนูนาถึงสามปีแต่ก็ไม่เคยคิดนอกใจหนูนาเลย  ทำให้ครอบครัวของเธอดูมีความสุขมากที่สุด
                          กุ๊กกิ๊กเป็นเพื่อนคนสุดท้ายที่กำลังจะแต่งงาน  เธอทำงานเป็นเลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด  มีชื่อเสียงในด้านการเข้าสังคมกับเจ้านายและเธอยังมีอาชีพเสริมเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุนัขอีกด้วย  ดูท่าทางเธอจะมีความสุขกับการทำงานของเธอมาก  เธอมีคู่หมั้นเป็นวิศวกรมือหนึ่งของเมืองไทยแต่เธอก็สลัดรักเขาเพราะเธอไปตกหลุมรักนายตำรวจหนุ่ม  ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมกันจึงทำให้เธอปันใจให้เขาและแอบมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนต้องบอกเลิกลากับพี่ธนูวิศวกรหนุ่ม  กิ๊กคบกับนายตำรวจหนุ่มเป็นเวลาปีกว่า ๆ เธอเคยเขียนจดหมายมาบอกกัญญาเสมอ ๆ ว่าเธอมั่นใจที่จะแต่งงานกับเขามากถึงแม้ว่าเงินเดือนของนายร้อยจะน้อยนิดไม่เท่ากับเงินเดือนของเธอก็ตาม  แต่เธอก็จะอดทนกัดก้อนเกลือกินกับเขาได้  ก่อนที่เธอจะแต่งงานนั้นเธอกำลังตั้งท้องได้สองเดือน
                             อุ๊ย!!!!  ยายกัญญา  มาได้ไงเนี่ย
                            จะให้เหาะมาหรือไงย๊ะคุณแม่ลูกสอง
                            ทำพูดไปไว้รอเธอแต่งก่อนเถอะฉันจะล้อให้ดูแม่นางว่าที่คานเพชรนิเวศน์
                           อุ๊ยยายหนูนานั่น
                          หนูนาและกัญญาหันไปมองผู้หญิงชุดสีฟ้าที่เดินมาจากซุ้มประตูดอกกุหลาบสีขาว  เธอทั้งขาวสวยดูมีราศีผู้ดี๊ผู้ดี  ส่วนผู้ชายที่เดินมาด้วยกันนั้นกัญญาจำได้ดีว่าเป็นพี่โอแฟนหนุ่มของต่าย  แต่กัญญาสงสัยอยู่ว่าผู้หญิงที่เดินมาด้วยนั้นคือใคร  เพราะเธอดูสวยมาก  ดูไม่เหมือนเพื่อนรักของเธอเลย
                            หนูนานั่นมันพี่โอไม่ใช่เหรอ  มากับใครน่ะ
                           โอ้โหสวยเนาะ
                            นี่หนูนา  ฉันถามน่ะไม่ได้ยินเหรอ
                              เอ่อขอโทษทีเพื่อน  ไม่ได้ฟัง  พูดอีกทีได้ไหม
                             พอเลยจบแล้ว
                             กัญญาพูดด้วยความรู้สึกที่งอน ๆ น้อยใจเพื่อนที่ไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลย  เมื่อผู้หญิงชุดสีฟ้านั้นเดินเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกับพี่โอกัญญาก็รู้สึกแปลกใจมากที่เห็นต่ายสวยผิดตาไปจากเดิมมาก
                             สวยต่าย  ทำไมเธอสวยได้ถึงขนาดนี้ล่ะ!!!!
                             ก็วันนี้งานแต่งเพื่อนทั้งทีก็ต้องสวยเป็นธรรมดาสิ  และวันนี้คนใหญ่คนโตตั้งเยอะตั้งแยะมากันเพียบ  จะให้ฉันขี้เหล่ได้อย่างไร
                             แหมก็เคยเห็นแต่เธอแต่งตัวเรียบร้อยนี่  ไม่คิดว่าจะกล้าเว้าหน้าแหวกหลังขนาดนี้
                            ก็อย่างนี้แหละครับ  หลายอารมณ์ยิ่งตอนนี้กำลังมีน้องด้วย
พี่โอพูดเสียงดังพร้อมแสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความดีใจให้เห็น  กัญญาและหนูนาถึงกับแสดงความดีใจทันที  ต่ายรู้สึกเขินอายมากหันมาตีแขนพี่โออย่างอาย ๆ ทำให้เพื่อน ๆ หัวเราะไม่หยุดทีเดียว
                             เอ๊ะ!!!!  แล้วต้นกล้าล่ะ  ไม่มาเหรอ
                             อ๋ออยู่นั่นไง
                             หนูนาชี้ให้ต่ายและกัญญาหันไปมองผู้ชายที่กำลังจับกล้องบันทึกเทปวีดีโออยู่หน้าเวที
                            อ๋อเป็นนักข่าวคนเดียวไม่ได้  ต้องให้พ่อวิศวะหนุ่มไปเป็นตากล้องด้วยเหรอ
                            แหมก็ยายกิ๊กเขาวานให้ฉันมาเป็นพิธีกรนี่  ฉันก็เลยทำเต็มที่เอากล้องมาอัด  ส่วนของยายกิ๊กก็มีช่างภาพที่จ้างมาอยู่ข้างหลัง  งานนี้ได้ลงหนังสือพิมพ์ด้วยนะเพราะมีท่านผู้ว่าฯ มาหลายท่าน  และก็มี  ส.ส.ธนิต  มาด้วยนะ  ฉันก็เลยถือโอกาสทำข่าวไปด้วยอย่างไรล่ะ
                               แหมเราก็นึกว่ารักเพื่อน  ที่พูดมานี่ผลประโยชน์หมดเลยนะ
                                 หนูนาหันมาตีแขนกัญญาทันที  เธอรู้สึกหมั่นเขี้ยวกัญญามากเพราะเธอไม่ได้เจอกัญญาตั้งนานถึงสองปี
                                กลุ่มเราก็จบโทกันทั้งนั้นเนาะ  ยายต่ายจบมาก็มานั่งคุมสามีอยู่กับบ้านเฉย ๆ ยายแป้งก็จบมาเป็นรองผู้บริหารฝ่ายศิลป์  ยายกิ๊กก็เป็นท่านเลขาฯ  ส่วนเธอก็จบมาก็กลับมาสานต่อธุรกิจของพ่อเธอ  โหทำงานสบาย ๆ กันทุกคนเลยเนาะ
                                     หนูนาพูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  เธอรู้สึกมีความสุขมากที่เห็นเพื่อน ๆ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
                                   เออแล้วยายแป้งล่ะ
                                    นั่นไงพูดปั๊บมาปุ๊บเลย  วันนี้แปลกแฮะพาพี่นันต์มาได้
                                     ทำไมเหรอต่าย
                                       ก็ทุกทีแป้งมักจะเป็นช้างเท้าหลังตลอดเลยน่ะสิ
                                   ต่ายพูดขึ้นพร้อมแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อเห็นพี่นันต์เดินมา  แป้งเดินมาหยุดตรงหน้าเพื่อน ๆ แล้วก็โผเข้ากอดคอเพื่อน ๆ ทุกคนทันที  แป้งดีใจมากที่เจอกัญญาเพราะตั้งแต่กัญญาไปเรียนต่อโทที่ปารีสเธอก็ไม่ได้กลับมาเมืองไทยเลย
                                 นี่ลูกสาวเราเองน้องแนทไหว้ป้าเขาสิลูก
                                    แหมกล้ามาก!!!!  ให้ฉันเป็นป้าเลยเหรอ 
                                  กัญญาพูดด้วยท่าทางค้อน ๆ  เด็กน้อยไหว้ทุกคนด้วยท่าทางที่อ่อนน้อม  กัญญาเห็นเด็กน้อยคนนี้แล้วก็ยิ้มแก้มปลิทีเดียว  เธอรู้สึกรักเด็กคนนี้มากเพราะดูท่าทางไม่ดื้อเลย  อีกอย่างกัญญาก็เป็นคนรักเด็กด้วยจึงทำให้เธอรู้สึกถูกใจเด็กคนนี้มาก
                             ก็ให้เกรียติเป็นป้าไม่ได้เหรอ  เธอแก่กว่าฉันตั้งสองเดือน
ครู่หนึ่งหนูนาก็ต้องเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อเป็นพิธีกร  นายตำรวจหนุ่มเดินออกมาจากหลังเวทีจากนั้นก็มายืนหยุดอยู่ตรงหน้าเวที  ชิงช้าค่อย ๆ หย่อนลงมาจากข้างบนพร้อมกับผู้หญิงสวมชุดขาว  ดอกไม้โปรยปรายลงมาตลอดเสียงเพลงจังหวะวอลเปิดดังตลอดเวลา  เพื่อน ๆ ทุกคนรู้สึกว่าบรรยากาศของงานนี้ดูโรแมนติกเหลือเกิน
                             กิ๊ก.!!!!!
                             เพื่อน ๆ สาวทุกคนพูดพร้อมกัน  กิ๊กหันมามองเพื่อน ๆ พร้อมกับโบกมือ  ผู้คนในงานปรบมือดังอยู่ตลอดเวลา  นายตำรวจหนุ่มยกแขนขึ้นพร้อมกับโค้งรับ  กิ๊กเกี่ยวแขนนายตำรวจหนุ่มเดินมายังฟอล์ที่ต่อออกมาจากเวที  เสียงเพลงลีลาศดังขึ้นคู่บ่าวสาวเต้นรำบนฟอล์ด้วยท่าทางที่ซ้อมกันมาเป็นอย่างดี.  ผู้คนที่มาในงานจึงร่วมกันเต้นรำอย่างสนุกสนาน
                            ขอโทษครับออกไปเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาโค้งให้กัญญาออกไปเต้นรำด้วย  กัญญาควงแขนชายคนนั้นและเดินออกไปกลางวงเต้นรำอย่างสนุกสนาน  ชายคนนั้นถามเธอหลายเรื่อง  เธอก็ตอบไปพร้อมกับถามเขาเช่นกันจนทราบว่าเขาชื่อภูริเป็นประธานบริษัทคนใหม่ของ  N.TV  ซึ่งมาดูวิธีการทำงานของนักข่าวสาวว่าทำไมเธอถึงได้ทำงานดีจนใคร ๆ ก็อยากได้ตัวเธอไปร่วมงานด้วย  แต่กัญญาก็ไม่ได้เชื่อผู้ชายคนนี้มากนักเพราะเธอกลัวว่าเขาจะอำเธอมากกว่า  
                      นายคนนี้ยังเด็กอยู่เลย  จะเป็นประธานบริษัทได้อย่างไร  สงสัยจะขี้โม้เสียมากกว่ากัญญานึก
                       หนูนาเดินลงมาจากเวทีเพื่อสัมภาษณ์เพื่อน ๆ และแขกที่มาร่วมงานสร้างความสนุกสนานเคลื้นเครงให้กับแขกผู้มีเกรียติทุกท่านยิ่งนัก  หนูนาถามท่านผู้ว่าฯ เจ้านายคนก่อนของกุ๊กกิ๊ก  จากนั้นก็เดินมาถามท่านผู้ว่าฯ เจ้านายคนปัจจุบัน  และเดินไปถาม  ส.ส.ธนิต  ทุกคนต่างพากันหัวเราะ  ส.ส.ธนิตกันใหญ่เพราะท่านมีอารมณ์ขันกึ่ง ๆ ลามกนิด ๆ ทำให้งานดูไม่กร่อย  จากนั้นหนูนาก็เดินมายังโต๊ะของพวกเราและเริ่มกล่าวความรู้สึกของตัวเองในฐานะเพื่อนของกุ๊กกิ๊ก
                      ตั้งแต่เรารู้จักกัน  วันแรกเรารู้สึกว่ากิ๊กเป็นคนแปลก  คือแปลกตรงที่กิ๊กจะตีสนิทกับคนเร็วมาก  พูดจาตรง ๆ จนคนบางคนรู้สึกไม่ค่อยดี  ถ้าไม่คบกันจริง ๆ ก็จะไม่รู้ว่ากิ๊กหวังดีกับเพื่อน  นาดีใจมากนะที่กิ๊กมีวันนี้ถึงแม้ว่าเราจะคาดหวังกับกิ๊กไว้ต่าง ๆ นานา  แต่กิ๊กก็พลิกผันตัวเองจนมีอนาคตที่ก้าวไกลขนาดนี้  ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกกิ๊กเคยฝันว่าอยากเป็นครู  แต่พักหลังเราก็ดีใจที่กิ๊กหาตัวเองพบและหาคนรู้ใจจริง ๆ พบ  เราขอให้กิ๊กใช้ชีวิตคู่อย่างคนรักและรู้ใจกัน  พี่เอกคะถ้ากิ๊กเพื่อนของพวกเราทำให้พี่ต้องขุ่นข้องหมองใจก็ขอให้อภัยกันด้วยนะคะ
               ฉันมั่งสิ
                หนูนาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  เธอไม่อยากให้กิ๊กแต่งงานกับนายตำรวจหนุ่มเลยเพราะเธอรู้สึกว่าเขาเหมือนจะมากอบโกยผลประโยชน์จากเธอแต่หนูนาก็พูดไม่ได้เพราะกลัวว่าเพื่อนจะหาว่าอิจฉา  หนูนาถึงกับกลั้นน้ำตาเกือบไม่อยู่  เมื่อต่ายเห็นดังนั้นจึงสร้างความสนุกสนานด้วยการทำทีว่าอยากจะพูด  ต่ายแย่งไมโครโฟนมาถือแล้วก็พูดทันที
                อ่ะเราจะมาถามกันนะคะว่าเพื่อน ๆ ในแก๊งค์เราใครมีความรู้สึกอย่างไรเริ่มต้นจากคุณแป้งผู้ช่วยประธานบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย
                แป้งเหรอแป้งก็ยินดีกับกิ๊กด้วย  แป้งอยากให้กิ๊กเอาใจเขามาใส่ใจเรา  มองโลกให้กว้าง ๆ และหัดฟังหูไว้หู
               อ้าวแล้วคุณกัญญาล่ะคะ  สาวนักเรียนนอกปริญญาโทสองใบจากปารีส  เจ้าของบริษัทผ้าฝ้ายและลินิน  จำกัด  อยากจะแสดงความรู้สึกอะไรไหมคะ
                 ต่ายทำท่าจะส่งไมโครโฟนให้แต่ก็หันมาพูดเสียเองสร้างความขบขันให้กับผู้คนในงานยิ่งนัก  ทำให้ไม่มีใครหันไปมองหนูนาที่กำลังหันหลังเช็ดหยาดน้ำตาอยู่
                 เราอยากบอกว่ารักกิ๊กมากและหวงกิ๊กมากที่สุด  ถ้าหากกิ๊กต้องเสียใจพี่เอกน่าจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ต่ายหัวเราะ  รักกันนาน ๆ นะคะ  ถนอมน้ำใจกันด้วย
                 ต่ายพูดเหมือนกับจะพูดเล่น  แต่สายตาของต่ายจ้องมองนายตำรวจหนุ่มตาเขม็งทำให้นายตำรวจหนุ่มรู้สึกกลัว ๆ อยู่เหมือนกัน  ต่ายส่งไมโครโฟนให้กัญญาจากนั้นก็ไปแอบยืนน้ำตาซึมอยู่ข้างหลัง  พี่โอต้องตามไปปลอบใจ
                เราก็ไม่รู้จะว่าอะไรนะ  แต่เรารู้สึกทั้งดีใจและเสียใจที่เธอแต่งงาน  อย่าเข้าใจผิดนะ  คือเราดีใจก็คือเธอได้มีคนรักที่รู้ใจ  แต่ที่เราเสียใจก็เพราะเราอยากรู้ว่าเธอทำไมถึงด่วนแต่งงาน  ทำไมไม่อยู่เป็นสาวคานเพชรนิเวศน์ด้วยกันล่ะแหมแม่นาง  ชอบตั้งฉายาให้คนอื่นทำไมไม่อยู่ด้วยกันล่ะจ๊ะ
กัญญาพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดี  ผู้คนในงานต่างหัวเราะจนท้องแข็งไปตาม ๆ กัน  ผู้ชายคนหนึ่งเดินมาคว้าไมโครโฟนไปจากกัญญา  เขาดูหล่อและมีเสน่ห์  กิ๊กเจ้าสาวของงานดูท่าทางตกใจมาก  โดยเฉพาะพ่อแม่ของกิ๊กถึงกับลุกขึ้นมองทีเดียว
                 พี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะถึงแม้ว่ากิ๊กจะไม่ได้เชิญพี่มาก็ตามแต่พี่ก็อยากจะบอกกับกิ๊กว่า  อย่ามองอะไรแค่เปลือกนอก  ถ้าจะมองต้องมองให้ลึกถึงข้างในจิตใจคน  ถ้าหากกิ๊กมีปัญหาก็ขอให้จำไว้ว่าพี่คนนี้ยังเหมือนเดิม
หนูนา  ต่าย  และแป้งถึงกับตกใจมากที่เห็นพี่ธนู  อดีตคู่หมั้นของกิ๊กมาร่วมงาน  พี่เต้นำกล่องของขวัญเดินไปยื่นให้กับกิ๊กทันทีจากนั้นก็กอดกิ๊กไว้แน่นก่อนที่จะเดินออกไปจากงานกิ๊กวิ่งตามพี่เต้ออกไปเพื่อที่จะไปกล่าวคำขอบคุณกับเขากัญญารู้สึกงงมากเมื่อถามเพื่อน ๆ ก็ได้ความว่าพี่เต้คือคู่หมั้นของกิ๊กแต่กิ๊กสลัดรักเพราะแพ้ความใกล้ชิดของนายตำรวจหนุ่มและคำพูดหว่านล้อมของเขา  เพื่อน ๆ ไม่มีใครชอบนายตำรวจหนุ่มคนนี้เลยเพราะต่างก็รู้สึกว่าเขาเหมือนจะมาปอกลอกกิ๊กมากกว่ารัก
                                      .1..
                    โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดค่ะ				
7 มกราคม 2548 23:39 น.

สึนามิ

สุชาดา โมรา

ท่ามกลางความสนุกสนานของผู้คนจำนวนมากในแถบอันดามันที่กำลังครื้นเครงกับการเล่นน้ำทะเลไม่มีใครรู้ได้ว่าแผ่นท้องทะเลที่ดูสวยงามจะมาพร้อมกับความร้ายกาจที่คาดไม่ถึง  การแยกตัวใต้พื้นพิภพซึ่งเป็นลักษณะการยกตัวขึ้นสูง  ทำให้เกิดแผ่นดินไหว  ผู้คนทางแถบที่สูงที่สุดอย่างเชียงใหม่จะได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว  เกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดแผ่นดินไหวมา  ซ้ำร้ายกว่านั้นผืนพิภพใต้ท้องทะเลที่ได้ยกตัวขึ้นนั้นทำให้เกิดครื่นใต้น้ำและซัดเข้าสู่ฝั่งอย่างรวดเร็ว  ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นหนีตายกันจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด  บ้างก็ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกคลื่นซัดโหมกระหน่ำ  เสียทั้งทรัพย์และบุคคลที่รัก  ทำให้มีเด็กกำพร้าจำนวนมาก  ผู้คนอดอยากหิวโหย  เด็กเล็กตาดำ ๆ ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวร้องโหยหาพ่อแม่แต่ก็ไม่อาจจะเจอได้สร้างความสลดใจให้กับคนไทยทั้งประเทศยิ่งนัก
	มหันตภัยที่เกิดในครั้งนี้เรียกว่าซูนามิ  ซึ่งมาจากภาษาญี่ปุ่น  เป็นการรวมระหว่างคำว่า  ซู  ซึ่งแปลว่าภัยธรรมชาติ  นามิ  แปลว่าทะเล  เมื่อมารวมกันจึงแปลว่าภัยที่เกิดจากทะเล  ต่อมาจึงเกิดการผันแปลทางกระบวนการเกิดเสียงเรียกว่า  ซีนามิ  และล่าสุดเรียกว่า  ซึนามิ  ทางอเมริกาวัดค่าได้ถึงเก้าลิตเตอร์  ซึ่งนับว่าเป็นมหันภัยที่เกิดขึ้นทางน้ำครั้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา  ท่ามกลางความเศร้าสลดนั้นก็ยังทำให้ผู้คนทางหกจังหวัดภาคใต้ที่อยู่ฝั่งอันดามันได้รับธารน้ำใจที่หลั่งไหลมาจากคนไทยทั้งประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นอาหาร  เครื่องอุปโภคบริโภค  ทรัพย์สินเงินทอง  หรือแม้แต่โรงศพที่คนไทยทั้งประเทศร่วมบริจาค  ทำให้เรารู้ว่า  คนไทยไม่ทอดทิ้งคนไทยด้วยกัน  คนไทยเป็นชาติที่สามัคคีที่สุด  นอกจากนั้นยังได้มิตรภาพจากต่างแดนที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาสาสมัครลงไปช่วยเหลือในการกู้ศพผู้เสียชีวิต  หรือแม้แต่ไมตรีที่หลาย ๆ ประเทศได้ส่งลงมาช่วย  ได้แก่  หน่วยกู้ภัยของชาวเกาหลี  ของชาวเยอรมัน  ญี่ปุ่น  หน่วยแพทย์ของจีนที่จะร่วมตรวจ  DNA ให้ฟรี  รวมทั้งการช่วยเหลือของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาด้วย  สร้างความประทับใจให้กับคนไทยและคนอื่น ๆ ทั่วโลกยิ่งนัก
	ถึงแม้ว่าคนไทยจะพบกับความโหดร้ายที่ทำลายทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปนั้น  แต่ในทางกลับกันก็ทำให้คนไทยหันกลับมาสามัคคีและรักใคร่ปองดองกันเหตุนี้คนไทยทั้งประเทศจึงอยากบอกกับคนไทยที่รักในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า  คนไทยได้สูญเสียอะไรไปมากแล้ว  ขอให้เราจงสามัคคีกันอย่าได้คิดแยกตัวออกไปเลย  เพราะอย่างไรเราก็เกิดในแผ่นดินไทยและตายในแผ่นดินไทยมานับตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว  หากลองมองดูแผนที่ประเทศไทยในสมัยนั้นก็จะพบว่าไม่ว่าจะเป็นปัตตานี  ยะลา  และนราธิวาสนั้นก็เป็นชาติเดียวกันกับเรามาตลอด  เพียงแต่ในสมัยรัชกาลที่ 1 นั้นพระองค์ทรงลงไปภาคใต้เพื่อกอบกู้เมืองคืนฉะนั้นอย่าได้คิดแยกตัวออกไปเลย  เพราะไม่มีชาติไหนที่จะรักและสามัคคีกันเท่าชาติของเราอีกแล้ว  แผ่นดินนี้สงบได้เพราะพระบารมีแห่งราชวงศ์จักรี  คุณก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เกิดและเติบโตในแผ่นดินไทย  อยู่ภายใต้ร่มของพระมหากษัตริย์มาชั่วยุคสมัย  ทำไมเราจึงไม่รักสามัคคีกันเล่า  หันกลับมาเถอะนะ  คนไทยย่อมให้อภัยเพื่อนคนไทยด้วยกันเสมอ  รักสามัคคีกันไว้เพราะเรามันชาติเดียวกัน  สายเลือดเดียวกันต้องไม่ทอดทิ้งกัน  อย่าลืมว่าคนไทยไม่เคยทอดทิ้งคนไทยด้วยกัน  ประเทศไทยเป็นชาติที่รักสงบและรักความมีอิสระที่สุด  รักกันเถอะนะเพื่อนผองไทย				
7 มกราคม 2548 23:21 น.

นวนิยาย:ดาวประดับรัก (ตอนที่19)

สุชาดา โมรา

--------------------------------------------				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุชาดา โมรา
Lovings  สุชาดา โมรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุชาดา โมรา
Lovings  สุชาดา โมรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุชาดา โมรา
Lovings  สุชาดา โมรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุชาดา โมรา