2 กุมภาพันธ์ 2548 02:32 น.
สุชาดา โมรา
จุดมุ่งหมายของการเขียนคืออะไร การเขียนคือการจรรโลงโลก คือสิ่งที่สรรสร้างเพื่อความเพลิดเพลินบรรเทิงใจ เป็นสิ่งที่ท้าทายมิได้เป็นสิ่งที่จะให้ใครอินแล้วตู่ว่าเป็นเรื่องตนเอง ขอให้เข้าใจเสียใหม่
นักเขียน คือผู้ที่สร้างงานเขียน อย่างไรก็ตามคำนี้มักใช้เฉพาะกับผู้ที่เขียนงานสร้างสรรค์หรือเป็นอาชีพ หรือผู้ที่ได้สร้างงานเขียนในลักษณะอื่น ๆ นักเขียนที่มีความชำนาญจะแสดงความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อที่จะนำเสนอแนวคิดและภาพพจน์ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบันเทิงคดีหรือสารคดี
นักเขียนอาจสร้างผลงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บทกวี ร้อยกรอง ร้อยแก้ว เรื่องสั้น นวนิยาย บทละคร นักเขียนที่ทำงานเฉพาะมักได้รับการเรียกแตกต่างกัน เช่น กวี นักเขียนเรื่องสั้น นักเขียนนวนิยาย นักเขียนบทละคร นักแต่งเพลง นักหนังสือพิมพ์เป็นต้น
2 กุมภาพันธ์ 2548 02:30 น.
สุชาดา โมรา
สมุนไพรนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับหมู่บ้านบางคู้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็นับว่าสมุนไพรก็นับว่าสมุนไพรเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของคนในบางคู้ได้สัมผัสอยู่กับสมุนไพรซึ่งให้คุณค่าต่อร่างกายโดยตรง
เราได้รู้และเคยรู้ว่าสมุนไพรมีต่าง ๆ นานาชนิด เพราะเป็นสิ่งที่เราพบเห็นและบริโภคในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว อาทิ ตะไคร้ ขี้เหล็ก ขิง ข่า ใบบัวบก ใบเตย มะขาม สะระแหน่ โหระพา มะระ กระเทียม ฯลฯ ก็เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วและเราเคยคิดหรือไม่ว่านอกจากสมุนไพรที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เคยรู้ไหมว่าสมุนไพรที่อยู่รอบตัวเราสามารถนำมาดัดแปลงเป็นสมุนไพรประเภทเครื่องดื่มได้ด้วย
สมุนไพรที่เรารู้จักก็มักจะรู้จักการนำมาบริโภค การนำมารักษาโรค และเพื่อความงามของร่างกายของหนุ่ม ๆ สาว ๆ และสิ่งต่อไปนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณที่มีทั้งคุณค่าและประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น ในวันนี้อะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปได้ทุกอย่าง ขนาดสมุนไพรยังมีการนำมาเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้
บ้านบางคู้ก็มีสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพไม่แพ้เครื่องดื่มทั่วไปในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย น้ำว่านกาบหอย น้ำใบบัวบก น้ำตะไคร้ น้ำชา น้ำขี้เหล็ก น้ำขิง น้ำข่า น้ำสาระแหน่ เป็นต้น
นับวันความตื่นตัวของเครื่องดื่ม สมุนไพร หรือที่เรียกกันว่า ชาสมุนไพร ในบ้านเรายิ่งเพิ่มขึ้น จะสังเกตเห็นว่าในปัจจุบันมีการผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรออกมาให้เลือกซื้อหากันมากมายหลายยี่ห้อ จนบางครั้งก็นึกสงสัยว่าเครื่องดื่มสมุนไพรเหล่านั้นมีคุณประโยชน์สมคำโฆษณาเพียงใด
สำหรับชาวบ้านบางคู้แล้วเครื่องดื่มประเภทสมุนไพรเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักคุ้นเคยกันดีทั้งนี้เพราะดื่มบ่อย ไม่ว่าจะเป็นชาสมุนไพรทั้งหลาย เครื่องดื่มสมุนไพร คือเครื่องดื่มที่ได้จากส่วนประกอบต่าง ๆ ของพืช ทั้งผลไม้ ผัก หรือธัญญาพืชต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายหลายชนิด อาจใช้ส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่ย ลำต้น ใบ เหง้า ราก เปลือก ดอก หรือเมล็ดก็นำมาผ่านกระบวนการคั้น ต้ม ออกมาจนเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรให้เราดื่มกัน สมุนไพรเหล่านี้อาจมีสรรพคุณเพื่อบำรุงร่างกาย แก้กระหาย คลายร้อน หรือบรรเทาโรค แล้วแต่ชนิดของสมุนไพร
น้ำสมุนไพรมีรสแท้จากธรรมชาติจะให้คุณค่าและประโยชน์ต่อร่างกายได้โดยตรง เพราะจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยเจริญอาหาร ช่วยบำรุงโลหิต และให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถเปิดรับคุณค่าทางอาหารจากแหล่งอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่
นอกเหนือจากสรรพคุณเครื่องดื่มสมุนไพรยังหมายถึงยารักษาโรคอีกด้วย ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำเองได้ เครื่องดื่มสมุนไพรจะต้องมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านหนึ่งคือเพื่อบำรุงสุขภาพเช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย ในขณะที่อีกด้านหนึ่งช่วยบำรุงหัวใจเช่น น้ำใบเตย น้ำว่านกาบหอย น้ำใบบัวบก บางชนิดบรรเทาอาการไข้หวัด เช่น น้ำตะไคร้ บางชนิดช่วยให้เจริญอาหารเช่น น้ำชา น้ำขี้เหล็ก เป็นต้น
สมุนไพรเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ ของคนบางคู้ เพราะเป็นสิ่งคู่ชีวิตของคนบางคู้มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราจะพบว่าสมุนไพรตามท้องถิ่นบ้านเราก็สามารถเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนในชุมชนเช่นกัน
2 กุมภาพันธ์ 2548 02:29 น.
สุชาดา โมรา
ชาวบ้านในบางคู้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตแบบวิถีชาวบ้านที่แท้จริง คือ นอกจากชาวบ้านจะมีความรัก ความสามัคคีกัน หรือรู้จักการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์คิดค้นสร้างสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ขึ้นใช้เองได้แล้ว ชาวบ้านในตำบลบางคู้ยังได้ปลูกผักปลอดสารพิษไว้ใช้ในครัวเรือนและสามารถนำไปขายได้อีกด้วย
ในตำบลบางคู้จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผักนานาชนิด ทั้งที่ชาวบ้านปลูกและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ผักปลอดสารพิษหรือผักสวนครัวของชาวตำบลบางคู้อยู่คู่กับชาวบางคู้มานาน เพราชาวบ้านรู้จักการใช้ชีวิตอยู่กินกับธรรมชาติ พืชผักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติชาวบ้านก็จะเก็บนำมาประกอบอาหาร เช่น ตำลึง ซึ่งเป็นผักที่หาได้ง่าย และนำมาประกอบอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย ที่นิยมกันมากก็เห็นจะเป็น ต้มจืดตำลึง ที่ถามบ้านไหนก็รู้จักกันดี
นอกจากนี้ที่ตำบลบางคู้ ยังมีผักปลอดสารพิษอีกหลายชนิดที่สามารถหาได้ง่าย เนื่องจากชาวบ้านนิยมปลูกกันมาก เช่น ผักบุ้งจีน ผักชะอม มะเขือ ถั่วฝักยาว ข่า ตะไคร้ เป็นต้น ซึ่งผักปลอดสารพิษเหล่านี้ชาวบ้านจะปลูกไว้ใช้ในครัวเรือนส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปขายตามท้องตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว
ผักปลอดสารพิษในตำบลบางคู้ที่ชาวบ้านได้ปลูกขึ้น จะช่วยให้สุขภาพของคนในบางคู้แข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ชาวบ้านในตำบลบางคู้มีความพึงพอใจกับชีวิตแบบพึ่งตัวเองอย่างนี้ เนื่องจากพื้นที่ในเขตตำบลบางคู้มีความอุดมสมบูรณ์ แหล่งน้ำเพียงพอ เหมาะสำหรับการเพาะปลูก และการปลูกผักปลอดสารพิษก็สามารถทำได้ง่าย ผลประโยชน์ที่ได้รับก็ตกอยู่ที่ชาวบ้าน เพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อหาตามท้องตลาดโดยไม่จำเป็น
ตำบลบางคู้นับเป็นตำบลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านมีส่วนร่วมช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับชุมชนของตนเอง โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น รู้จักการพึ่งพาอาศัยกันขยันทำมาหากิน มีความรักพื้นถิ่นทำกินของตนเอง สามารถเล็งเห็นคุณค่าและประโยชน์ของสิ่งต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้น ภูมิปัญญาของชาวบางคู้ควรที่จะได้รับการถ่ายทอดไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพื่อให้รุ่นหลังได้ตระหนักเห็นถึงคุณค่าและรู้จักธำรงรักษาไว้สืบไป
2 กุมภาพันธ์ 2548 02:26 น.
สุชาดา โมรา
หนูนารินทร์เรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอเป็นคนเรียนดี ขยัน เป็นที่พึ่งพาของเพื่อน ๆ อยู่เสมอ เธอทั้งอ่อนหวานและน่ารักจนเป็นที่หมายตาของใครหลาย ๆ คนทั้ง ๆ ที่เธอไม่ใช่คนสวย แต่อาจจะเป็นเพราะความอัธยาศัยดีของเธอก็ได้ถึงทำให้เธอมีคนเข้ามารุมล้อมเธออยู่เสมอ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจผู้ชายเหล่านั้นเลยเพราะเธอคิดอยู่เสมอว่าขณะนี้เธอควรที่จะคิดเรื่อเรียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สมควรคิดเรื่องผู้ชายพายเรือ
วันนี้หนูนารินทร์ไม่มีเรียนเธอจึงเข้าไปห้องคอมพิวเตอร์ของคณะเพื่อที่จะเซริ์ทหาข้อมูลที่จะมาทำรายงาน
"ส้ม...รายงานวิชาภาษาศาสตร์เธอทำเสร็จหรือยัง"
"ยัง...เออหนูนาฉันฝากเล่นแชทแทนฉันหน่อยนะ.."
"แล้วเธอจะไปไหนล่ะ..."
"ห้องน้ำปวดท้องน่ะ"
ส้มพูดกระซิบเบา ๆ แล้วก็เดินออกไป หนูนารินทร์จึงมาเล่นแชทแทนส้ม พอแชทไปนาน ๆ ก็เกิดติดลม แล้วก็เริ่มหัดแชทในเครื่องของตัวเองบ้างเพื่อที่จะคุยกับคนอื่นๆ เธอแชทคุยกันหลายคนจนดูสับสนไปหมด แต่เธอก็สนุกและชอบกับการที่ได้คุยกับเพื่อนใหม่ๆ บนเครือข่ายอินเทอเน็ต และเธอก็หันกลับมาแชทในเครื่องของส้มบ้างเพื่อให้คนที่กำลังคุยกับส้มอยู่นั้นยังไม่ไซน์เอ้าท์ออกไปไหน
"หนูนา...เป็นไงได้เบอร์โทรของต่อเขาหรือยัง"
"ยัง...แต่ฉันไม่ได้เล่นกับต่อหรอกเพราะต่อไปเรียนแล้ว"
"ว้า....!!!"
หนูนารินทร์ กลับมานั่งที่เครื่องของตัวเองแล้วก็เล่นแชทจนลืมเวลาพักเที่ยง ทุกคนออกจากห้อมคอมฯ กันไปหมดเหลือเพียงส้มกับหนูนารินทร์
หนูนารินทร์เล่นแชทกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อต้นกล้า เธอแลกเบอร์โทรกันและกันเธอมีความสุขมากกับการที่ได้แชทคุยกับใครสักคนหนึ่งทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ไม่ใช่คนคุยเก่งอะไร
.
ต้นกล้าโทรมาหาเธออยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่ที่ได้เบอร์โทรศัพท์ของเธอมาทั้งคู่เริ่มสนิทกันจากการที่ได้คุยกันทุก ๆ วันในช่วงเย็น ๆ จนถึงดึกดื่นเที่ยงคืนไม่มีวันไหนที่ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันบนเครือข่ายอินเทอเน็ต
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
ไง
สติจงอยู่กับคุณ says:
ไง
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
จ่ะต้นกล้าเป็นอย่างไรวันนี้เรียนเครียดอีกอะป่าว
สติจงอยู่กับคุณ says:
ก็ไม่หรอกแต่ว่าวันนี้เซ็ง
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
เซ็งอะไรเหรองงบอกหน่อยดิ
สติจงอยู่กับคุณ says:
ก็เซ็งที่วันนี้เล่นบอลแพ้อ่ะแบบว่าตัวมันอ้วนไปหน่อยก็เลยแพ้เขา
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
โธ่น่าสงสารแต่ไม่เป็นไรหรอกนะตัวเองวันพระไม่ได้มีหนเดียวอะนะถ้าตัวเองเครียดก็ไปอาบน้ำแล้วก็นอนนะอย่าคิดอะไรมาก
สติจงอยู่กับคุณ says:
ไล่เหรอ
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
เปล่าซะหน่อยต้นก็แหมใครจะไปกล้าไล่เพื่อนรักได้ล่ะ จริงปะ อิอิเหอะๆ 55555
สติจงอยู่กับคุณ says:
แล้ววันนี้นาไม่มีการบ้านทำเหรอ
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
มีแต่เสร็จแล้วถ้าไม่รีบทำการบ้านแล้วจะมานั่งคุยเพ้อเจ้อได้ไงอ่ะจริงปะ
สติจงอยู่กับคุณ says:
อ๋อหาว่าเค้าเพ้อเจ้อเหรอคนใจร้าย อืมจำไว้เลย
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
แหมอย่าทำเป็นใจน้อยไปหน่อยเลยนะเค้าไม่ได้หมายถึงแบบนั้นซะหน่อยนะโอ๋ๆๆๆๆๆๆๆๆนะจ๊ะต้นเพื่อนเลิฟอิอิ
สติจงอยู่กับคุณ says:
งั้นก็แล้วไปแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะจริงๆ
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
แล้วต้นมีแฟนอะยัง
สติจงอยู่กับคุณ says:
ยังหรอกยังไม่คิด แต่อีกหน่อยอาจจะมีก็ได้
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
อ๋อแสดงว่ากำลังมองๆอยู่อะดิ ใช่ปะ
สติจงอยู่กับคุณ says:
เปล่าหรอกเดี๋ยวจะหาตามแถวนี้น่ะแหละกะว่าจะคบเด็กเรียนซะหน่อยอย่างนาเป็นไง
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
บ้าฉันมีแฟนแล้วย่ะ
สติจงอยู่กับคุณ says:
ไหนตอนแรกบอกว่าไม่มีไงล่ะ
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
นั่นมันตอนแรกแต่วันนี้คนที่นาแอบชอบเขามาขอเป็นแฟน นาก็เลยตอบตกลงไปแล้วละ
สติจงอยู่กับคุณ says:
ว้า!!!! งั้นต้นก็แฮ้วดิเนาะแต่ไม่เป็นไรเพราะเป็นแฟนกันเดี๋ยวก็เลิกกันได้อิอิแต่ว่าไม่ได้แช่งนะ แค่คิดเท่านั้นเองขอให้สมหวังในความรักนะนา
ถ้าไม่ให้รักฉันจะรัก...ไม่ให้สนฉันจะสนแค่อยากเป็นคนรู้ใจ... says:
จ้า.
สติจงอยู่กับคุณ says:
ดึกแล้วละสี่ทุ่มแล้วนอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเรียนไม่ทันบาย
ต้นกล้าไซน์เอาท์ออกไปเพราะเขารู้สึกง่วงมากอย่างที่พูดในตอนแชทเขาดูจริงใจและไม่เสแสร้งแกล้งทำอย่างที่ใครๆ คิดหนูนารินทร์ก็เช่นกัน เธอจริงใจกับการที่จะหาเพื่อนสักคนมานั่งคุยบนเครือข่างอินเทอร์เน็ต เพื่อที่จะหาเพื่อนซี้สักคนที่รู้ใจเธอ
หนูนานั่งจดบันทึกเกี่ยวกับเรื่องที่แชทคุยกันกับต้นกล้าในวันนี้เธอมีความสุขมากที่สุดที่ได้คุยกับต้นกล้าทั้งๆ ที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนต้นกล้าก็เช่นกันต่างฝ่ายต่างก็เขียนบันทึกถึงกันและกันด้วยความที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
หนูนาจดบันทึกถึงแฟนของตัวเองที่เพิ่งจะคบกันเป็นวันแรกด้วยความรู้สึกดีใจ เธอนั่งเขียนด้วยท่าทางที่มีความสุขและอิ่มเอิบใจมากที่สุด
...1..
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดนะคะ
2 กุมภาพันธ์ 2548 02:23 น.
สุชาดา โมรา
เขาเรียกชื่อนี้ขึ้นมาทำให้เธอตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเรียกชื่อนี้ได้อีก เธอคิดว่ามีเพียงเธอคนเดียวเสียอีกที่รู้จักชื่อนี้
นั่นก็ต้องหมายความว่าเขารู้แล้วว่าเราเป็นหลานเขาในชาติที่แล้วแน่ ๆ.น้ำผึ้งนึก
ขณะที่นายตำรวจหนุ่มเงยหน้ามองน้ำผึ้งแก้วนั้นเขาเห็นเธอใส่ไสบสีทองทับสไบแพรสีเหลืองนวล ผมของเธอประบ่าสวมเข็มขัดทองประดับไปด้วยเพชรนิลจินดานุ่งผ้าจีบนางสีเขียวขี้ม้าราวกับที่เขาเห็นในความฝันทำให้เขานึกถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ภาพความทรงจำในนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจเขาตลอดเวลา เมื่อเขามองไปที่ข้อมือของตัวเอง เขาก็เห็นกำไลที่เขาให้เธอในความฝันเขาถึงกับตกใจเพราะไม่คิดว่ากำไลวงนี้จะมีจริง เพราะเขาคิดมาโดยตลอดว่าฝันไปเท่านั้น
กำไลเชือกเส้นนี้มาจากไหน
ของผึ้งเองค่ะพี่เอกดร.เกษม อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยให้มาเมื่อวานนี้ ผึ้งก็เลยเอามาใส่ให้พี่พี่รู้ไหมว่าพี่หลับไปวันหนึ่งเต็ม ๆ เลย
เหรอแล้วแก้มแฟนพี่ล่ะ
นอนรอดูอาการอยู่ค่ะไม่รู้ว่าเธอจะฟื้นหรือเปล่า
ทำไมก็เธอไม่รู้สึกตัวเลยเหมือนที่พี่เอกเป็นนั่นแหละค่ะ
น้ำผึ้งนั่งคุยกับนายตำรวจหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ค่ะค่ะค่ะ
น้ำผึ้งต้องลากลับก่อนเธอรีบไปที่สำนักงานสาขา 2 เธอไปพบคุณอุดมซึ่งเป็นนักโบราณคดี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเมืองโบราณ เธอคุยกับเขาและไปเป็นไกด์พาเขาเที่ยวชมโบราณสถานของลพบุรี
คุณทำงานที่นี่มานานแล้วเหรอครับ
ก็ไม่นานเท่าไรค่ะแต่อาศัยเป็นคนเกิดที่นี่โตที่นี่ก็เลยรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีอีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้อยากจะมาเป็นไกด์หรอกนะคะ ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งของกรมศิลปากรมากกว่า
แล้วทำไมคุณไม่ไปสอบล่ะครับ
ฉันคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสทางธุรกิจคงจะไม่เติบโตพอดีมีเพื่อนเรียนนิเทศศาสตร์ก็เลยคุยกันแล้วก็ตั้งสำนักงานทัวร์เล็ก ๆ ขึ้นมา พอมีลูกค้ามากขึ้นรายได้เริ่มอิ่มตัวก็ขยายสาขา ที่จริงฉันคุมอยู่ที่กรุงเทพฯ นะแต่ว่าตอนนี้เพื่อนฉันลาคลอดก็เลยต้องวิ่งไปวิ่งมา 2 ที่
อืมลูกน้องไม่มีใครมาช่วยเหรอครับ
ก็มีเหมือนกันค่ะ แต่ว่าใครล่ะจะรู้เรื่องลพบุรีได้เท่าฉันกับยายนุชเพื่อนของฉัน
มันก็จริงอยู่หรอกครับคุณน่ะเก่งออกขนาดนี้
ไม่ได้เก่งอะไรนักหรอกนะเพียงแต่ชอบก็เลยทำตรงนี้ คุณรู้ไหมว่าฉันไม่ได้จบทางด้านนี้มาโดยตรง
อ้าว!!!!
ฉันเรียนจบคณิตศาสตร์มาค่ะ แต่พอชอบและคลั่งไคล้ในศิลปะและพวกสถาปัตยกรรมฉันก็เลยมาต่อโทโบราณคดีและประวัติศาสตร์ ฉันก็เลยอาศัยช่วงที่ว่าง ๆ อยู่ศึกษาให้เข้าถึงแก่นเลย
เหรอครับแล้วตรงนี้เขาเรียกว่าอะไรครับ
นี่เป็นหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎค่ะ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2405 สมัยรัชกาลที่ 4 ค่ะ แต่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ลองเข้าไปดูหน่อยไหมคะ
น้ำผึ้งพาคุณอุดมชายหนุ่มผิวขาวท่าทางสมาร์ทหน้าตาคมคายเดินขึ้นไปบนตึกและพาชมรอบ ๆ พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนเองพอจะทราบให้เขาฟัง เมื่อเดินลงมาจากตึกเธอก็พาเขาไปชมบริเวณหมู่ตึกพระประเทียบ จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาที่พระที่นั่งจันทรพิศาล เธอถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังกิริยา เมื่อเธอเห็นรูปเหมือนขององค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เธอก็หมอบกราบทันทีทำให้คุณอุดมต้องหมอบกราบตามไปด้วย
ไม่รู้ทำไมนะคะ ทุกทีที่ฉันเห็นรูปปั้นหรือรูปเหมือนของพระองค์ ฉันเป็นต้องหมอบกราบทุกทีเลย
คุณอุดมยิ้มแล้วก็เดินเข้าไปภายในห้องโถงด้านใน น้ำผึ้งแนะนำพร้อมทั้งบอกเรื่องราวต่าง ๆ ของข้าวของที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์อย่างละเอียด
โอ๊ย!!!!
คุณอุดมคะเป็นอะไรไปคะ
คุณอุดมจู่ ๆ ก็ทรุดตัวล้มลงกับพื้น เธอหันซ้ายหันขวาพยายามหาคนมาช่วยแต่ว่าบนนั้นไม่มีใครเลย เธอจึงยกหัวของเขาขึ้นให้หนุนตักและเอายาดมให้ดม
คุณอุดมคะคุณอุดม
เสียงน้ำผึ้งเรียกอยู่ตลอดเวลา คุณอุดมก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
เสียงปี่พาดดังลั่นทั่ววังไปหมด สาว ๆ นางในนุ่งผ้าหน้านางไม่สวมเสื้อมีแต่ผ้าพาดบ่าสีทองผืนเดียวที่พอจะปกปิดกายา ในบรรดาหมู่สาวนางในนั้นน้ำผึ้งแก้วเป็นหญิงนางเดียวที่สวมใส่สไบนุ่งห่มมิดชิด วางจริตกิริยาอย่างนางหงส์ ผ้าที่หล่อนนุ่งห่มสมกับเป็นลูกผู้ถือยศศักดิ์ หล่อนเดินนำเหล่านางในทั้งมวลเดินเข้าไปในประตูชั้นในเพื่อตรงไปยังพระที่นั่งสุทธาสวรรย์
ขุนนางใหญ่น้อยที่มาเข้าเฝ้ายังท้องพระโรงมักจะไปแอบยืนมองนางในเสมอ ๆ โดยเฉพาะน้ำผึ้งแก้วซึ่งเป็นหลานของคุณท้าวเยาวลักษณ์ซึ่งมีเชื้อสายเจ้าทางสุโขทัย หล่อนจึงแต่งกายสมกับที่มีเชื้อสายเจ้าหล่อนเหมือนกับดอกฟ้าที่อยู่ท่ามกลางดอกหญ้าในสวนสวรรค์
นั่น.แม่หญิงมาแล้ว
เสียงใครคนหนึ่งตะโกนบอกพวกข้าราชการที่มายืนอยู่หน้าตึกท้องพระโรง
สมเด็จฯ ท่านเล่าแม่หญิง
ทรงพระทรงอักษรอยู่เดี๋ยวจะเสด็จมา รอก่อนนะเจ้าค่า
น้ำผึ้งแก้วตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล หล่อนเดินมายังเบื้องหลังของท้องพระโรงโดยมีนางในอีก 2 คนเดินตามมาติด ๆ
หล่อนทำไมถึงแต่งตัวไม่เหมือนหญิงใด ๆ คนอื่น ๆ เล่าขอรับท่านเสนาฯ
หล่อนเป็นผู้ทรงศักดิ์ บรรพบุรุษของหล่อนสืบเชื้อสายเจ้ามาจากสุโขทัย พ่อของหล่อนเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ แม่ของหล่อนเป็นคุณท้าวนางห้ามข้างใน ส่วนที่ใหญ่ที่สุดนั้นเห็นทีจะเป็นเจ้าคุณย่าของหล่อน
ทำไมหรือขอรับ
ก็เจ้าคุณย่าของหล่อนเป็นคนที่เลี้ยงดูพระปีย์และยังเป็นคนสนิทของสมเด็จฯ ท่านอีกด้วย ฉะนั้นคนที่จะเกี้ยวแม่หญิงก็คงจะยากหน่อย ยกเว้น
ยกเว้นอะไรหรือท่านเสนาฯ
มีคน ๆ หนึ่งที่เข้าออกบ้านนั้นได้เห็นทีคงจะเป็นคุณหลวงบดินทร์นฤนาถญาติห่าง ๆ เชื้อสายราชวงศ์พระร่วงนั่นกระมัง
คนไหนหรือขอรับ
คนที่ยืนถือลอมพอกอยู่ใต้ต้นพุดจีบนั่นไง
ท่านเสนาฯ และคุณหลวงอุมศักดิ์มนตรียืนมองไปทางคุณหลวงบดินทร์นฤบาลที่ยืนทำท่าเหมือนกับรออะไรอยู่ใต้ต้นพุดจีบ ครู่หนึ่งแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วก็เดินออกมาหล่อนแอบยิ้มมุมปากแล้วก็ให้นางในคนหนึ่งนำห่อผ้าสีแดงเล็ก ๆ ยื่นให้คุณหลวง คุณหลวงก้มหัวแสดงความขอบคุณจากนั้นแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วก็เดินกลับเข้าไปในเขตพระราชฐานชั้นใน คุณหลวงบดินทร์นฤบาลแกะห่อผ้าสีแดงนั่นแล้วก็ยิ้ม
หล่อนเอาหมากให้คุณหลวงบดินทร์นฤบาลด้วย!!!!
ตกใจอะไรเขาอาหลานกัน
ข้าราชบริพารทุกคนเดินเข้าไปยังท้องพระโรง จากนั้นก็หมอบกราบ คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีนั่งใกล้กับคุณหลวงบดินทร์นฤบาล เขาจึงแอบกระซิบกับคุณหลวงบดินทร์ฯ เพื่อจะพูดเรื่องแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว
คุณหลวงขอรับ กระผมขอคุยกับคุณหลวงได้ไหมขอรับ
ได้สิ ใต้ต้นพุดจีบนะ
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลมายืนรอคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีอยู่ใต้ต้นพุดจีบ เมื่อคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีมาถึงเขาก็เริ่มพูดเรื่องแม่หญิงน้ำผึ้งแก้วทันที
ไม่ได้!!!! หล่อนยังเด็ก
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลพูดหนักแน่นแล้วก็เดินออกจากเขตพระราชฐานมาทันที ปล่อยให้คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรียืนงงอยู่ที่ใต้ต้นพุดจีบ
คุณหลวงเจ้าคะ
แม่หญิง.!!!!
คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจเมื่อเจอหน้าแม่หญิงน้ำผึ้งแก้ว
อ้าวขออภัยเจ้าค่ะ อิฉันคิดว่าเป็นคุณหลวงบดินทร์นฤบาล
น้ำผึ้งแก้วเดินกลับไปยังเขตพระราชฐานชั้นในทันทีเพราะหล่อนไม่มีธุระที่จะคุยกับคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรี
เดี๋ยว.!!!! แม่หญิงเดี๋ยวก่อน
น้ำผึ้งแก้วหยุดชะงักแล้วก็หันกลับมาทันที หล่อนยืนนิ่งรอให้คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีเดินมาหา
มีอะไรหรือเจ้าคะ
นี่ให้แม่หญิง
อิฉันคงรับไว้ไม่ได้ดอกเจ้าค่ะ
ทำไมรึเจ้า
มันไม่งามเจ้าค่า
ถือว่าพี่ให้ไว้เพื่อผูกมิตรก็แล้วกัน
น้ำผึ้งแก้วจึงรับดอกพุดจีบมาแล้วก็แอบอมยิ้มนิด ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปในเขตพระราชฐานฝ่ายในทันที
เดี๋ยว!!!! แม่หญิง
มีอะไรหรือเจ้าคะ
น้ำผึ้งแก้วหยุดเดิน หล่อนไม่ยอมหันกลับมา
พี่หลวงอุดมศักดิ์มนตรีบุตรชายเจ้าพระยาธรรมรัตน์เจ้ากรมเวียงอย่าลืมพี่เล่าเจ้า หากเจอกันก็ทักทายพี่บ้างนะเจ้า
เท่านี้ใช่ไหมเจ้าคะอิฉันต้องรีบกลับตำหนัก
น้ำผึ้งแก้วเดินลับสายตาเข้าไปในประตูเขตพระราชฐานฝ่ายใน คุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรียืนมองอยู่หน้าตึกท้องพระโรง เขาเดินยิ้มออกมาจนกระทั่งมาหยุดชะงักเมื่อเจอหน้าคุณหลวงบดินทร์นฤบาล เขาทำหน้าตาดุดันจนคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีรู้สึกกลัว
คะคะคุณหลวง!!!!!
บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับหล่อน!!!
คุณหลวงบดินทร์นฤบาลทำเสียงดุดันใส่ ในตาของเขาดูน่ากลัวเหลือเกินจนคุณหลวงอุดมศักดิ์มนตรีตกใจ
..
เฮ้ย..!!!!!!!!
คุณอุดมคะเป็นอะไรคะ
น้ำผึ้งเห็นคุณอุดมผวาจึงเรียกด้วยความตกใจคุณอุดมศักดิ์ลุกขึ้นจากตักของเธอแล้วก็ทำหน้างง ๆ
ผมเป็นอะไรไปครับ
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะจู่ ๆ คุณก็สลบ ฉันไปตามคนมาช่วยก็ไม่มีใครอยู่ฉันก็เลยให้คุณหนุนตักแล้วก็เอายาดมให้ดมคุณเป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ ไปหาหมอไหมคะ
เอ่อไม่ครับผมคงเพลียเพราะผมนอนดึกมาหลายคืน ขอโทษด้วยนะครับ
ไม่เป็นไรค่ะนี่ก็เย็นมากแล้วเรากลับกันเถอะนะคะ
น้ำผึ้งเดินนำหน้าคุณอุดมออกมาหน้าพิพิธภัณฑ์ เธอยิ้มนิด ๆ แล้วก็เดินคุยกับคุณอุดมไปตลอดทาง
4
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามผลงานมาโดยตลอดค่ะ