28 ตุลาคม 2548 04:22 น.
สุกรวดี
มาโยงใจถึงกันวันละบท"สองบท"
เขียนตามกฏกติกาเชิงภาษิต
จับคำไทยใส่กลอนซ้อนความคิด
คนตามติดชิดต้องคล้องพัวพัน
จักขอเริ่มเจิมยอดสอดคำสร้อย
เชิญร่วมร้อยคิดคำนำมาผัน
เช่นว่า"ไก่งามเพราะขน"คนเช่นกัน
นั่งประชันขันแข่งแต่งตามไป
อีกข้อหนึ่งนั้นหรือคือตัวอย่าง
คำ"เอาข้างเข้าถู"รู้ใช่ไหม
คือคนดื้อดันทุรังไม่ฟังใคร
พอจะเล่นได้ไหมในทำนอง?
มีภาษิตเป็นหลักในวรรคหนึ่ง
ความหมายถึง-คำแปลแผ่สนอง
คำพังเพยเชยชิดคิดทวนตรอง
เพิ่มวรรคทองตามใจให้ลงตัว
จาก : รจนา -21/07/2002 20:19
......ถ้าจับปลาสองมือถือให้มั่น
เรี่ยวแรงนั้นฤาปองสองมือทั่ว
ย่อมลดถอยแรงลงหลงเมามัว
ยังหวั่นกลัวหลุดพลั้งทั้งสองมือ
ทำอะไรไม่แน่แท้สักอย่าง
หวังสองทางเอ่ยอ้างอย่างไม่ถือ
ใจรวนเรเหหันนั่นและคือ
ผู้ได้ชื่อถึงที่สุดหลุดมือไป
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 21/07/2002 20:59
....."อัตตาหิอัตตาโนนาโถ"
กล่าวมาแต่ครั้งโบราณเขาขานไข
ตนนั่นแลพึ่งตนกลความนัย
ใจพึ่งใจทุกข์ท้นหมดปลดตนวาง
***ป้าหมูครับ ผมส่งภาพไปทางอีเมล์แล้วครับ/กวีศรีภูเก็จ
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 21/07/2002 21:10
เมื่อรักวัวให้ผูกถูกต้องหลัก
รักลูกน้อยคอยทักท้วงติงบ้าง
รักคนอื่นหมื่นรายที่กรายทาง
มิเท่านางแม่ขึงทึ้งตีตน
จาก : รจนา - 21/07/2002 21:16
......สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ
คำโบราณระวังงานการฝึกฝน
สอนผู้รู้เชี่ยวชาญชำนาญชน
ได้รับผลเสียคำไปไม่ได้การ
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 21/07/2002 21:23
..คบคนพาล.. พาลพาไปหาผิด
ควรพินิจคิดย้อนก่อนประสาน
คบบัณฑิตชิดช่วงพ่วงผลงาน
คิดประมาณผ่านไปทางไหนดี
จาก : รจนา - 21/07/2002 21:46
พึงจดจำ คำนั้น แม้วันผ่าน
ถึงเนิ่นนาน กาลไหน ไม่สุขี
หมั่นเตือนตนพ้นภัยไร้ราคี
"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"ตัวสบาย
จาก : pee_lee - 22/07/2002 13:27
"หนีเสือปะจรเข้"
เดินโซเซเร่ร่อนเดือดร้อนหลาย
คบคนผิดคิดชั่วกลัวอับอาย
พบอีกรายร้ายซ้ำทำฉันใด
จาก : รจนา - 22/07/2002 17:14
มะเดื่องแดงดั่งฉูดฉาดเอาชาดป้าย
เนื้อในร้ายแมงหวี่มีสอดไส้
เปรียบภายนอกอาภรณ์ดีนี่กระไร
แต่ในใจของผู้นั้นมันคิดร้าย
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 22/07/2002 19:23
๐เอา"ขวานผ่าซาก" ลากแรงซัด
ซากก็กระจัด-กระจายหาย
"พูดดีเป็นศรีแก่ปาก" จึงฝากชาย
หากใจหมาย ชนชื่น ถ้อยวาที
๐พูดมาก อาจสี มีที่ปาก
พูด"ขวานผ่าซาก"ปากเสียศรี
ตรงนัก มักเจ็บ เมื่อเก็บวจี
ถ้าให้ดี ถนอมถ้อย ค่อยพูดจา ฯ
แหะ แหะ มาร่วมโยงภาษิต ขอรับ แหะ แหะ
จาก : นายทิวา - 22/07/2002 20:25
"คบคนให้ดูหน้า"คำภาษิต
ใช่เห็นงามตามชิดจิตฝันหา
ต้องคบกันด้วยใจไร้มายา
ใช่ที่ความโสภาท่าแสนดี
จาก : รจนา - 22/07/2002 21:03
.....ลงทุนค้นตำรามาต่อตอบ
เพราะนึกชอบสอนใจกระไรนี่
ตนเตือนตนราบรื่นชื่นชีวี
กระจกชี้เพียงไหนใจเตือนตน
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 22/07/2002 21:23
...อุตส่าห์แผ้วถางมา"คว้าน้ำเหลว"
กลับกลายเลวสิ้นท่าพาสับสน
หมดแก่จิตแก่ใจให้กังวล
ต้องอับจนหนทางวางมือพลัน
ต่างไม่ยอมออมมือคือปัญหา
"ขิงก็ราข่าก็แรง"แฝงดื้อรั้น
อารมณ์ร้อนซ่อนซุกรุกดึงดัน
ต่างจัดจ้านพอกันน่าหวั่นจริง...
จาก : นุภา - 23/07/2002 02:24
อันว่าความกตัญญูกตเวทีนี้
เป็นเครื่องหมายของคนดีเป็นที่ยิ่ง
พุทธภาษิตค่าล้นคนพึ่งพิง
รวมทุกสิ่งที่สำเหนียกเรียกว่าคน
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 23/07/2002 19:31
......ปากว่าตาขยิบมิบเม้มท่า
ไพล่วาจาการกระทำซ้ำสับสน
ห้ามอย่างนี้ทำอย่างโน้นโจนตัวจน
ได้รับผลเสียหายมาหลายคราว
จาก : กวีศรีภูเก็จ - 24/07/2002 19:20
ช้าเสียการ....นานเสียกิจ....ชีวิตนี้
เห็นมากมีตัวอย่างสุดอ้างกล่าว
พบสาวสวยมุ่งหมายร่ายเพลงยาว
แต่แล้วอ้าว...อึกอัก....อกหักเป๊าะ
จาก : จ. ดวงแก้ว - 25/07/2002 19:26
"รักสาวไกลบ้านปลูกตาลไกลตา"เห็น
ต้องลำเค็ญเป็นช้ำน้ำตาเผาะ
ไม่ไปมาหาสู่อยู่"ออเซาะ"
มีแต่เงาะติดเปลือกให้เลือกชิม
จาก : รจนา - 25/07/2002 20:15
รักยาวให้บั่น...รักสั้นให้ต่อ
ทั้งสองข้อคมดีชี้ไว้เหมาะ
จะพูดจาอะไรให้พิเคราะห์
พูดเฉพาะควรคำเชื่อมสัมพันธ์
คนพูดเรื่องหยุมหยิมเก๊กซิมแน่
พูดมากแท้ใครเห็นมากลับหน้าหัน
ไม่ข้องคบหลบลี้หนีตามกัน
ต้องตื้นตัน...ชีช้ำ...อยู่ลำพัง
จาก : ยายยิ้ม - 25/07/2002 20:20
--------------------------------------------------------------------------------
This Free service hosted by D'Server
|Arnhem Hotels|Payday Loans|Mortgages|Chateau
25 ตุลาคม 2548 17:40 น.
สุกรวดี
มาโยงใจถึงกันวันละบท"สองบท"
เขียนตามกฏกติกาเชิงภาษิต
จับคำไทยใส่กลอนซ้อนความคิด
คนตามติดชิดต้องคล้องพัวพัน
จักขอเริ่มเจิมยอดสอดคำสร้อย
เชิญร่วมร้อยคิดคำนำมาผัน
เช่นว่า"ไก่งามเพราะขน"คนเช่นกัน
นั่งประชันขันแข่งแต่งตามไป
อีกข้อหนึ่งนั้นหรือคือตัวอย่าง
คำ"เอาข้างเข้าถู"รู้ใช่ไหม
คือคนดื้อดันทุรังไม่ฟังใคร
พอจะเล่นได้ไหมในทำนอง?
มีภาษิตเป็นหลักในวรรคหนึ่ง
ความหมายถึง-คำแปลแผ่สนอง
คำพังเพยเชยชิดคิดทวนตรอง
เพิ่มวรรคทองตามใจให้ลงตัว
24 ตุลาคม 2548 20:14 น.
สุกรวดี
เหมือนฆ่าเป็ดฆ่าไก่ไม่น่าเชื่อ
ฆ่ากันตายเป็นเบือเหลือแก้ไข
ทั้งนอกเมืองในเมืองเรืองวิไล
ฆ่ากันได้ทุกที่นี่แหละคน
เกิดมาแล้วมืดมนใจคนบอด
สร้างเวรกรรมตลอดจอดทุกหน
ศีลธรรมมีไว้ล้างใจตน
กลับไม่สนใจจำทำแต่เวร ฯ
เกิดมาแล้วต้องตายทั้งชายหญิง
ทรงยศยิ่งจอมคนหรือพลเสน
ต่างมีกรรมกำหนดเป็นกฏเกณฑ์
มิอาจเบนเบี่ยงหลบครบหน้ากัน
ศาสนาคือพระธรรมคำสั่งสอน
ดับทุกข์ร้อนเย็นยิ่งเป็นมิ่งขวัญ
จงใส่ใจในธรรมเป็นสำคัญ
โดยยึดมั่นเมตตาเอื้ออารี ฯ
ต่างมุ่งร้ายหมายฆ่าถ้าขัดผล
อิทธิพลยิ่งใหญ่ในถิ่นที่
ให้เปลี่ยนร้ายหมายหาสามัคคี
ต้องรอยุค"พระศรีอารียะฯ
ยุคพระศรีอารียะถ้าจะพบ
ต้องมีครบเรื่องศีลไม่ปีนดะ
คือสั่งสมบารมีศรีธรรมะ
หากเลิกละศีลนี่ไม่มีเจอ ฯ
23 ตุลาคม 2548 13:27 น.
สุกรวดี
"แฟมิลี่ รียูเนี่ยน"เวียนมาสู่
มากมายผู้"ร่วมสกุล"คนรุ่นเก่า
สืบเชื้อสายผูกพันกันนานเนา
รวมรุ่นเยาว์-รุ่นใหญ่พร้อมใจมา
ญาติที่อยู่ทางไกลไป"เกือบครบ"
อยู่ถึงจบสิ้นงานสุขหรรษา
เขียนเป็นเรื่อง"เล่าย้อน"ตอนลีลา
ช่วงที่เยือนแคนาดา"สิบห้ายาม"
ชมทั้งหมดคลิกที่ลิงก์ค่ะ
http://hmoothai.brinkster.net/Family1.html
20 ตุลาคม 2548 17:45 น.
สุกรวดี
สังคมถูกข่มขืน
มิอาจฝืนยืนเผชิญ
มนุษย์เร่งรุดเดิน
ประเมินทบงบประมาณ
เส้นสายเครือข่ายล้อม
จำออมชอมยอมดักดาน
ยุ่งยากหากทัดทาน
ภัยจะเกิดไม่เลิศลอย
ต้องรับจับแนวร่วม
เป็นส่วนรวมสวมรูปรอย
ผีบ้านผีป่าพลอย
คอยสิงสู่หดหู่จัง
ขัดขืนยืนไม่ติด
อ่อนน้อมชิดปิดความชัง
กังวลปนระวัง
เกรงอำนาจชาติกาลี
ฮึดสู้รู้ว่าพ่าย
คงถูกป้ายหลายคดี
ทางลอดปลอดภัยมี
ต้องเข้าด้วยช่วยคนพาล
คือคำสารภาพ
ใช่ใจบาปกราบสาบาน
จำต้องเกี่ยวข้องงาน
เป็นปลาเน่าเข้าตำรา