27 มกราคม 2547 12:14 น.
สิปราง
ป่วนปั่น...ปั่นป่วนรัญจวนจิต
ใจคิดริษยา...น่าอดสู
สอดส่องหาช่อง...จ้องแลดู
อยากจะรู้ใครจะเป็นเช่นอย่างไร...
ป่วนปั่น...ปั่นป่วนในจิตตน
สุขล้นจะหาได้...จากที่ไหน
ไม่สงบรบเร้า...เจ้าจิตใจ
หาวิธีที่ทำให้...ใครร้อนรน...
ป่วนปั่น...ปั่นป่วนชวนจิตต่ำ
คอยชักนำให้ทำชั่ว...ตัวสับสน
ใส่หน้ากากแย้มยิ้ม...พริ้มหน้าทน
ยังไม่พ้นก่นด่า...คราอยู่เดียว...
ป่วนปั่น...ปั่นป่วนชวนจิตชั่ว
เฝ้าพันพัวมัวเมา...ไม่เคยเหลียว
ท้ายสุดแล้วคนป่วนปั่น...จริง ๆ เจียว
ต้องนั่งเยียวยารักษา...จิตใจตน...
21 มกราคม 2547 12:25 น.
สิปราง
ผืนน้ำยามค่ำคืนทะมึนมืด
รักที่ชืดจืดจางก็ห่างหาย
แสงไฟส่องท้องน้ำล้ำเลาะราย
อย่าได้หมายจะส่องถึงซึ่งส่วนลึก
ผืนน้ำยามค่ำคืนยื่นหวั่นหวาด
ทำใจขลาดแขยงให้ในยามดึก
หวั่นใต้น้ำทำสิ่งใดให้ระทึก
ยามที่นึกถึงก็หวาดเพราะขลาดใจ
เปรียบใจเธอในยามไหนทำให้หวาด
ทุกข์ที่กวาดเอามากองฉันจองใส่
เก็บเอาไว้ลึก-ลึก อยู่ภายใน
หวั่นหวาดใจเธอจะให้ทุกข์ระทม
เหมือนท้องน้ำยามค่ำคืนยากจะหยั่ง
ใจพังพังยากจะฟื้นเคยขื่นขม
จะคิดไหมว่าอีกใจต้องจ่อมจม
เกรงรักคมจะบาดลึกต้องตรึกใจ
19 มกราคม 2547 17:27 น.
สิปราง
ย่ำเหยียบหญ้าเขียวเปลี่ยวเหงา
รักเราจะยั่งยืนถึงคืนไหน
จะเป็นเช่นหญ้าน้อยหรือกลอยใจ
เติบโตใหม่ได้เสมอถ้าเจอรัก
มองผ่านหญ้าเขียวกระเจียวขาว
แสงแดดยามเช้าเจ้าปกปัก
ให้หญ้าน้อยร้อยเรียงแล้วเอียงทัก
ตะวันจักเคียงคู่อยู่ข้างกาย
แม้อยู่สูงก็ยังห่วงมวลพฤกษา
ส่องแสงมาเคียงข้างไม่ห่างหาย
มอบรักมาข้างเคียงไม่เกี่ยงกลาย
ชั่วเช้าสายรายรอบต้องขอบคุณ
อยากให้รักเป็นเช่นดั่งตะวันสวย
มอบรักด้วยใจจริงให้อิงอุ่น
แม้นอยู่ไกลเพียงไหนยังเจือจุน
รักละมุนอุ่นไอให้ตอบแทน
***