23 กุมภาพันธ์ 2547 02:53 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4721
มอบแด่คุณ..จอน..จากเมล์รัก
สร้างพลังฝันพลังใจ
จากน้ำใจสวยใสแสนงามยามใกล้สิ้นไฟฝันรจนานะคะ..
*****
รวงระเรี่ยเคลียหอมค้อมลมลู่
ตาลไร้คู่ยืนดายเดียวดูเปลี่ยวฝัน
สาวนาคอยรอยฝนลามานานวัน
รอยอดขวัญคืนเรือนรักพักพงไพร...
หยาดน้ำค้างกลางเรียวราวรุ้งพร่าง
ทอกระจ่าง สะท้อน แดดอ่อนใส
วะวาววับพิสุทธิพร่างกลางกลีบใบ
ราวเพชรใสพลิกพริ้งกลิ้งกลางรวง...
อ้ายเหมือนว่าวหลงลมลอยละล่อง
เมฆงามฟ่องท่องลมลิ่วลืมคนห่วง
สายป่านรักดึงดวงใจลอยหลุดร่วง
แรงลมลวงหลงลมลิ้นลืมดินเดิม..
ทุ่งรวงทองปองพ้อรอรับขวัญ
กี่วสันต์กี่ลมหนาวกี่เศร้าเพิ่ม
กี่รานร้าวกี่ดายเดียวรอเคียวเดิม
รออ้ายเติมเกี่ยวกอเก็บช่อรัก...
ข้าวกลางลานหวานบัวริมเรือนร้าง
ลาลอมฟางขลุ่ยแขวนแรมรอนภักดิ์
เพลงเดือนเพ็ญเร้นหวานมานานนัก
อ้ายลาลับหลงลืมสิ้นหอมกลิ่นรวง
สาวนาพ้อขอหัวใจกำไลรัก
อ้ายก็หักหัวใจธุลีร่วง
มาวันนี้ใจสาวนาแหลกลาดวง
หลุดลอยร่วงคืนผืนดินสิ้นวันคอย!..
******************
สาวนาตื่นแต่ย่ำรุ่ง รับอุษา
เดือนบนนภายังไม่ดับดวง
ดวงดารานับพัน ยังสุกปลั่งโปรยพร กระจ่างใจ
หากทว่าดวงใจ สาวนากลับหมองหม่นราวกับคนขวัญเสีย
มองเรือนร้าง อ้างว้างร้างไร้
ดายเดียวเหว่ว้าน้ำตาซึม..
แสนคิดถึงอ้าย...
กอราตรี ไหวกิ่งฝันรับรินร่ำหยาดละออละอองน้ำค้าง
แก้วรับฝนพร่าง..หลงฤดู..
แตกช่อผลิดอกละอออวล
หอมนวลพราวทุกราวกิ่งก้านกอ
มิหวงช่อรอราโรยโปรยปลิดกลีบกระจาย...
โมก..โศก..พิไรร่ำริมชานเรือน..
คลึงเคล้ากลีบกอช่อดวงดอกกระดังงา..
เหลืองระย้าย้อยห้อยเคลียคลอ..พ้อเคียงดิน
เข็มขาว..แทงช่อกลางกอรัก..กระปุกรัก
พลันพร่างพรึบ..เอาใจ..
นวลพุดซ้อนซ่อนกลิ่น ไหวไกวกลิ่นหอม
แอบซ่อน..ค่อยๆคลี่มิยอมเผย..
บุหงารำเพย พร้อมลมหนาวเคล้านวลหมอก
นมแมว นางแย้ม เทียนหยด สล้างสดแย้มอวดดวงดอกงาม
ทิวาหวาม..ราตรีหวั่น
รอรับฝันรอรับโศกโลกสีไพลกลางดวงใจของสาวนา
ผู้รอท่ารักภักดี..มิยอมพ่าย..ใจ
สาวนา..ไขไส้ตะเกียงอีกนิด
ค่อยๆแขวนข้างเสาสูงส่อง
จุดไต้วางไม้เข้าไฟก่อ รอหุงข้าวหอมหอม
พันธุ์แก่นจันทร์จากแก่นใจถวายพระ
สาวนาเด็ดผักบุ้งนา มาได้กำใหญ่ตั้งใจลวกกะทิ
มีปลาช่อนเนื้อดีแดดเดียว
ทอดแกล้มแนมน้ำพริก
เอาผักกระเฉดมาเด็ด ล้างสะเด็ดน้ำ
วางไว้ในกระชอนไม้ไผ่
ตำเครื่องแกงส้มไหวสะเทือนมือระวิง
ตั้งใจแกงส้มแกล้มปลาช่อนกับผักยอดอ่อนงาม
และไม่ถึงชั่วยาม..ทุกอย่างก็แล้วเสร็จ
สาวนา..ละเรือนลงริมรั้ว ในสลัวตัดใบตองอ่อน
ล้างแล้วจัดผักซ้อนทับลงไป
ในถาดทองเหลืองใบงาม...
ตักข้าวใส่ขันพูนพร้อม
โรยหอมด้วยดอกมะลิเบ่งบาน
จบขันข้าวขึ้นทูนหัว
อธิษฐานแทนดวงใจ
*เกิดชาติหน้าชาติใด
ขอให้หัวใจลูกผ่องผุดพราวขาวนวลหอม
ดั่งดวงดอกมะลิที่ถวายพระ..
ให้เมตตาลูกได้พบพระพุทธศาสนานำทาง
ให้ใจว่างสะอาดสงบ
พบแค่ความฉ่ำเย็นเป็นสุขสมถะ..*
ราตรียังพอมีเวลา..
สาวนารีบเข็นเรือพายออกนอกเรือน
เดือนพราวดวง ดาวพริบพร่าง
กระจ่างใสสะท้อนสู่บึงกว้าง..
บัวสล้างตูมตั้งทั้งชูช่อเบ่งบาน
เกสรหวานหวานพ้นโคลนตม
รอแดดบ่มลมไหว..
เด็ดดอกไปบูชา..หน้าพระพุทธ แทนพิสุทธิ์ใจ..
สาวนาค่อยๆราพาย..
ยังจำจดคืนหวานผ่านเพ็ญเต็มดวง
ที่หยาดหวานทั่วคุ้งน้ำ ทั้งทุ่งทองริมคลอง
ริมบึงบัวบังใบ รินหัวใจ รินไหวหวาม
ให้ทุกยามคะนึงหา วสันต์ลา ผันผ่าน
ราตรีพรายพรากพลัดให้รักเราสองต้องหันเห
หันห่างแรมแรมไกล..
ดั่งบทเพลงครวญ..
ข้าวคอยเคียว ผ่องศรี วรนุช : : Key Cm
ได้ยินไหมพี่ เสียงนี้ คือสาวบ้านนา
พร่ำเพรียกเรียกหา ตั้งตานับเวลารอคอย
คอยเช้า คอยเย็น ไม่เห็นสักหน่อย
ปีเคลื่อนเดือนคล้อย
รักเอ๋ยจะลอยรักเอ๋ยจะลอยแรมไกล
อีกเมื่อไรรักจะคืนรื่นรมย์
ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
รวงข้าวคอยเคียว
น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย
ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
รวงข้าวคอยเคียว
น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย...
********
สาวนา พักใจ หักใจ พายเรือน้อยลอยลำกลับ
สู่ร่มรักเรือนไทยเรือนใจ ไปสู่ร่มธรรม
ในวันนี้ ที่เป็นแสนดีวันเกิดสาวนา
และมาตรแม้นว่า ไร้อ้าย..ชิดใกล้กาย
แต่หัวใจจิตวิญญาณสาวนาผู้บูชารัก
ก็แสนสุขนักในทุกทางงามง่ายนี้
ที่แม้นแสนสิ้นไร้รักสิ้นใร้ใจสิ้นไร้ใคร
ก็ยังเหลือเนื้อใจดวงดีดวงงามดวงหวานละมุนละเมียด
ที่ยินดีพลีพร้อมรัก ภักดิ์พลีใจ..ยอมเลือกเดิน..
8 กุมภาพันธ์ 2547 12:46 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4721
(ข้าวคอยเคียว)
ฝนหลงฤดูสั่งฟ้าลาพราก
ฝากหนาวในฤดีสาวนา..นวล..
พายุแรง พัดหลังคาจาก
หลุดหายพรายพรากไปกับพระพายในยามดึก
สาวนา..นึกรีบหาตุ่มมารองรับน้ำฝน
ที่พร่างพรมราวหยาดน้ำตานางฟ้า..ตรอมตรม..
ป่านนี้สายน้ำในลำห้วยคงท้นหลั่ง
ดอกไม้ป่าสองฟากฝั่ง
คงพากันคลี่กลีบหวานหวานบานสะพรั่งพรึบรับ
ให้หอม สลับสล้างอวลไกลไปทั้งราวไพร
แมลงภู่ผึ้งผีเสื้อคงขยับปีกไหวรอคลอคลึงเคล้า
เจ้าเกสรหวานหวานปานน้ำผึ้งรวง
นกนานาคงพากันจับคาคบร้องจิ๊บจิ๊บ..จิ๊บๆๆๆผสมผสานหวานก้อง
ไปกับท่วงทำนองดนตรีจากสายน้ำไหล..ระรี่ระริกริน...
หอมพรายมะม่วงที่พร่างฝนชะช่อล้อลมไหว
หอมเกสรใสพร่างนานาพรรณ
ของมวลดอกไม้ริมชายคากระท่อม
ดาวเรือง เหลืองละออรอพร่างพ้อรอราโรย
ชบา ช้องนาง การะเวกสล้าง แก้วเจ้าจอม
หอมกาหลง ดงดอกเกลียวสวาทพิลาสพิไล
บานชื่นบานไสวหลากสีสดระริกงาม
รอหยาดน้ำฝนหยดน้ำค้างพร่างดอกดวง
เข็มม่วง เข็มเล็ก ขี้เหล็กขนุนพุดซ้อนซ่อนกลิ่น
พากันระรินรสชู่ช่ออวดดอกดกดาษดื่นให้ชื่นฉ่ำใจ
ให้นวลใจสาวนาระรินร่ำตาม...
สาวนา..คว้าเคียวคมคอยเกี่ยวหญ้า
ตั้งใจว่าจะลงทุ่ง เก็บผักบุ้งมาสักกำ
ใกล้ๆชายน้ำมีระกำกอยักษ์
จะเก็บมาสับทำน้ำพริกสดแกล้ม
แถมอาจจะได้ปลาช่อนมาแกงส้มต้มโคล้งสักหม้อ..รอมื้อเย็น
ตาลเดี่ยวยังยืนต้นเหว่ว้า
ให้สาวนาดายเดียวหนาวใจตาม
อ้ายสัญญาบอกจะกลับมาเดือนสาม
มารอร่วมทำบุญสงกรานต์งานใหญ่
จะหาผ้าสวยผืนใหม่กางเกงยืนส์ยุ่ง
มาให้สาวนานุ่งแล้วคงยืนขาขวิดด้วยไม่เคย..
อ้ายเอ๋ย..เมื่อคืนตอนฝนตกกราวใหญ่
สาวนานอนหนาวใจ
หลับแล้วฝันไกลใจลอย
ฝันว่าอ้ายมานอนเคียงในมุ้ง
และในเรียวรุ้งแห่งรักระหว่างเรา
ที่ถาโถมโหมถัก
ทอรักอันโหยหามายาวนาน
ไยน้ำตาสาวนาถึงซ่านซึ้งคลอ
รอถะถั่งรินรด
จนเปียกอกเปียกใจอ้าย
ไปพร้อมกันเล่าเจ้าดวงใจ..ของสาวนา...
และไฉนเลยในฝันอันงามงดนั้น
สาวนาพลันเห็นเด็กชายน้อยๆ
ผิวผ่องพิสุทธิ์ดุจใยบัว
ราวเทพบุตร..ผู้ประดุจมารับบท
สร้อยโซ่รักรัดร้อยรักเราราวเพชรพร่าง
ที่ยังกระจ่างใจมาจนนาทีนี้
เป็นฝันดี..ที่สาวนารอท่าอ้ายมาสลายมนต์ฝัน
ให้พลันเป็นจริงเพียงผู้เดียว..
.......
แต่วันนี้..
สาวนายังคงยืนเหว่ว้า
ดูข้าวกล้าระบัดรวงละล่องลิบ
ราวผืนผ้าไหมไหวระริกงามดั่งคลื่นฝันสีทอง
ในท้องทุ่งนา..ป่าผืนเดิม..กับใจดวงดี..ที่รักเดียว
รอเพียงเคียวคมใจของอ้ายมาเกี่ยวกอแตกช่อรักละไม
ไม่หวั่นไหวตามฤดู..กาล..แม้นฤดีระกำ..
*******
สาวนาเดินสะท้อนสะท้านใจ
ในทุ่งทิพย์ละลิบโล่งฝ่าลมหนาวพราวพรายพลิ้ว
พัดผ้าถุงผืนเก่าลิ่วสะบัดไหวไปกับแรงลม
*งอบ*ถูกลมวูบพัดปลิวไปกับพายุ
ปล่อยปอยผมสยายคล้ายนางไม้นางใจให้ใฝ่คว้า
เผยวงหน้าเนียนแดดละอองามเศร้าราวภาพฝัน
ลอมฟางพลอยนิ่งงันตรอมตรมตาม...ราวเสียดายงามนวล!
***********
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4721
ข้าวคอยเคียว .... ผ่องศรี วรนุช : : Key Cm
ได้ยินไหมพี่ เสียงนี้ คือสาวบ้านนา
พร่ำเพรียกเรียกหา ตั้งตานับเวลารอคอย
คอยเช้า คอยเย็น ไม่เห็นสักหน่อย
ปีเคลื่อนเดือนคล้อย
รักเอ๋ยจะลอยรักเอ๋ยจะลอยแรมไกล
อีกเมื่อไรรักจะคืนรื่นรมย์
ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
รวงข้าวคอยเคียว
น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่ม
กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย
ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
รวงข้าวคอยเคียว
น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย...
ฤดูกาลฤดีระกำ!
สาวบ้านนา
ฤดูกาลฤดีระกำกับลมฝน
กลางกมลเก็บช้ำร่ำร้าวไหว
แก้วร่วงกราวพราวพื้นพร่างพ้อใจ
แก้วกลางใจมากระจายหายลับลา
เกาะเกี่ยวฝันวันคืนยามฟ้าใส
กรีดเกี่ยวใจไหวหวั่นให้ฝันหา
เกิดสายใยในรักถักทอดวงชีวา
เกิดเสน่หาแกว่งใจใครคร่ำครวญ
กลับมาเยือนอีกคราวสันต์เศร้า
กลางใจร้าวกราวสายฝนก่นไห้หวน
ใจระกำย้ำบอกดอกเรรวน
ลมอย่าหวนทวนฤดีที่หลายใจ
ฤดูกาลดอกไม้หวานผ่านนานแล้ว
เหลือเพียงแนวรอยแผลใจไกลหวั่นไหว
ฤดูกาลผ่านมาก็ผ่านไป
เก็บหัวใจไกลรอยกรรมอย่าซ้ำรอย...
5 กุมภาพันธ์ 2547 12:27 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1675
(คลิ๊กURL..ฟังสาวนาคอยคู่กระหึ่มหูกระหน่ำใจนะจ๊ะ)
และ
เพื่อเป็นสีสันแห่งบทบันทึกรักบันดาลใจจากค่าคำจรัสเจรือง.
(สุดทนแล่วนะแม่ข้าเหอ!)
ของลำน้ำน่านจากงานน้องน้อยผู้หญิงไร้เงานะคะ
*เพราะเราคู่กันคู่กัดดั่งแหล๊กขู๊ดวัดกับพร่าวว..น่าวว*
*********
ฉันขูดใจถอดใจรักให้เธอไปทั้งหมด
ฝากจำจดยามจากไกลใจเพ้อหา
กี่คืนวันกัปป์กัลป์ชาติสวาทลา
กี่เหว่ว้าจะเฝ้าคอยรับรอยบุญ..
และ
มะพร้าวเน่านี้ที่เธอคอยประชด
ใจงามงดเกินค่าราคาหนุน
เธอจะด่าว่าอย่างไรใจหอมกรุ่น
*ใน*ละมุนแม้นเน่านอกหลอกตาเธอ..
ไม่จีรังอะไรถึงใหม่สด
มันเป็นกฎจีรังหวังผ่านเพ้อ
สดวันนี้เน่าวันหน้าอย่าละเมอ
วันปีเผลอเธอฉันนั้นพอกัน
เป็นเหล็กขูดขูดเนื้อใจใครสดสด
ใช้ใจจรดแทงใจใครหลงฝัน
ผ่านคืนวันฝันลาเลยก็เท่านั้น
สบสวรรค์หรือนรกยกให้เธอ..เพียงผู้เดียว!
สบสวรรค์หรือนรกยอมยกให้เธอ..ขูดเนื้อใจฉันเพียงผู้เดียว!
และบทขอต่องานงาม
***
งามใจงามคำจากสุดยอดจอมใจจอมฝัน
ในยุทธจักรกวีกระวาดนี้ที่เกี่ยวใจทุกดวง
ในร่มรักเรือนใจเรือนไทยแห่งนี้นะคะ
มนต์รักที่ราบสูง........ ลำน้ำน่าน
สิ้นฤดูอีกคราวหนาวจรผ่าน
เมื่อดอกจานตูมเต้ายามเช้าใหม่
ลมหนาวเอยโบกพลัดไปแหล่งใด
จึงทิ้งใจลอมฟางไว้กลางลาน
เหลืองระยับทุ่งทองรอคล้องเคียว
รวงข้าวเหนียวโน้มกอคลอรวงสาน
หอมวิญญาณบ้านทุ่งจรุงบาน
ต่อตำนานมนต์เพลงบรรเลงแล้ว
ที่ราบสูงยูงยางสร่างใบ
เมื่อลมแล้งโบกไกวบ่วงใบแผ่ว
หล่นลาร่วงถมกว้างเต็มทางแนว
กี่ดวงใจคลาดแคล้วจะจรคืน
มารับขวัญท้องทุ่งหุงข้าวใหม่
ก่อฟืนไฟไล่ล่องท่องนาผืน
โห่ลมว่าวหนาวเอยเชยกลับคืน
มาพัดครืนเกรียวฟางอย่าร้างลับ
เกี่ยวเก็บฝันต้นฤดูมาสู่ท้อง
เมื่อดุเหว่าแว่วร้องพร้องเดือนดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นให้เกินนับ
ให้คว้าจับแกะเคียวไปเกี่ยวรวง
มนต์ท้องนาป่าไพรในส่วนลึก
หว่านผลึกจรดแหล่งแสบงหลวง
เกลี่ยเกรียวอาบม่อนเนินดั่งเงินยวง
เขียวสุดท้ายรอร่วงอยู่ลิบลิบ
เพลงเกี่ยวข้าวกังวานซ่านในอก
เมื่อหมู่นกร้องครวญชวนใจจิบ
วิหคใดห่างร้างกลางเมืองลิบ
หอบชีวิตยากไร้ไปเดียวดาย
ลมว่าวเอยอย่าช้าพามนต์ทุ่ง
ไปจรุงหอมรินกลิ่นความหมาย
แม้นอกสั่นพรั่นพรึงถึงความตาย
จงโอบกายผ่อนหนักอย่าชักช้า
เพลงฤดูอีกคราวหนาวจะผ่าน
ยังกังวานแกล้มกลิ่นรินบุปผา
ดอกโสนจานใจไหวกลีบมา
เป็นมนต์เพลงมนตราข้ายลยิน
แสงแดดฉ่ำสะท้อนย้อนรวงข้าว
ริ้วลมหนาวจรจากพรากทิ้งถิ่น
มนต์เสน่ห์ที่ราบสูงคลุ้งระริน
อบวิมานบนดิน...กลิ่นทุ่งไทย
มนต์เสน่ยังหยัดสูงคลุ้งระริน
อวลวิมานอบกลิ่น....ผืนดินใคร?
*************
เวอร์ชั่นรักพิสุทธิใสจากใจสาวนา
ผู้รักเดียวใจเดียว
ราวเคียวคมรอเกี่ยวรอเก็บใจมิไหวหวั่น
หลงรอท่า.....
ผู้*อ้าย*ปากหวานหว่านแค่ลมลิ้น
ว่ายังถวิลหานา..สาวนานานเนิ่น..
แลทุกฤดูฤดีที่ลาลับมิคืนเคยกลับมา..เลย..ชั่วฟ้าดิน..
*******
ตะแบกร่วงพรายพร่างกลางลานหอม
นกแรมรอนหว่านคำเพ้อละเมอหา
รักหรือลวงเล่นลิ้นถวิลนา
เสน่หาหรือแสร้งแกล้งนาคอย..(สาวนาคอย)..
รักระยับเรียวรวงไยไม่กลับ
ลมระบัดหนาวเนื้อกี่หนาวหนอ
เคียวสิ้นคมแขวนคารอและรอ
อ้ายมาขอเกี่ยวคู่รวงรู้ใจ...
ที่ราบสูงไร้ยางยูงดินแห้งผาก
เหมือนคนยากนาน้อยคอยน้ำใส
หวังน้ำรักน้ำฝนรินรดใจ(ใบ)
ยอดดวงใจหลงแสงสีมิจรคืน...
รอรับขวัญกับผ้าถุงทอผืนหอมใหม่
อิงกองไฟดูดาวพรายใกล้นาผืน
ท้าลมว่าวหนาวแค่ไหนอุ่นรักคืน
ร้อนกว่าฟืนหอมกว่าฟางใจร่างรับ...
แล้วหยาดหวานกว่าฝนหล่นเรียวร่าง
ดุเหว่าหวานยังหยุดร้องเดือนยอมดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นเกินนานนับ
ให้คว้าจับน้ำผึ้งหวานผ่านร่างรวง...
มนต์ท้องนาจะเห่กล่อมจนรุ่งสาง
หอมเจือจางดอกจานหว่านหวานร่วง
ดาวหัวเราะจันทร์อวยพรอ้อนโอบรวง
โศกในทรวงล่วงลาลอยฟ้าไกล..
เพลงเกี่ยวข้าวคลอคู่ใจแสนซ่านซึ้ง
หวานตราตรึงนกไพรคืนคอนมิจรไหน
วิหคเอ๋ยอย่าหลงเชยไม้เมืองใด
คืนสู่ไพรคืนสู่รังหวังเคียงดิน..
ลมว่าวเอยอย่าช้าพัดพาหมอง
น้ำตานองเรียวรวงรอถวิล
ดอกโสนเหว่ว้าน้ำตาริน
ดอกจานสิ้นหว่านหวานประจานใจ..
ดับแดดกลางดวงใจรดน้ำรัก
หว่านกล้ารักแตกหน่อกอไสว
นาผืนน้อยนาคอยเคียวนาน้อยใจ
อย่าแรมไกลหว่านเพียงลมพรมผืนดิน... พรมผืนนา!!
*******************
5 กุมภาพันธ์ 2547 12:01 น.
สาวบ้านนา
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1675
(สาวนาคอยคู่)
เพื่อเป็นที่ระลึกจากคำ..
บรรเจิดใจบันดาลรักจรัสเจรืองค่า
เพราะเราคู่กัน..*ดั่งแหล่กขู๊ดกับพร่าวน่าวว.*นะจ๊ะ
(กระต่ายขูดมะพร้าวกับมะพร้าวเน่า)
มนต์รักที่ราบสูง..ลำน้ำน่าน
สิ้นฤดูอีกคราวหนาวจรผ่าน
เมื่อดอกจานตูมเต้ายามเช้าใหม่
ลมหนาวเอยโบกพลัดไปแหล่งใด
จึงทิ้งใจลอมฟางไว้กลางลาน
เหลืองระยับทุ่งทองรอคล้องเคียว
รวงข้าวเหนียวโน้มกอคลอรวงสาน
หอมวิญญาณบ้านทุ่งจรุงบาน
ต่อตำนานมนต์เพลงบรรเลงแล้ว
ที่ราบสูงยูงยางสร่างใบ
เมื่อลมแล้งโบกไกวบ่วงใบแผ่ว
หล่นลาร่วงถมกว้างเต็มทางแนว
กี่ดวงใจคลาดแคล้วจะจรคืน
มารับขวัญท้องทุ่งหุงข้าวใหม่
ก่อฟืนไฟไล่ล่องท่องนาผืน
โห่ลมว่าวหนาวเอยเชยกลับคืน
มาพัดครืนเกรียวฟางอย่าร้างลับ
เกี่ยวเก็บฝันต้นฤดูมาสู่ท้อง
เมื่อดุเหว่าแว่วร้องพร้องเดือนดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นให้เกินนับ
ให้คว้าจับแกะเคียวไปเกี่ยวรวง
มนต์ท้องนาป่าไพรในส่วนลึก
หว่านผลึกจรดแหล่งแสบงหลวง
เกลี่ยเกรียวอาบม่อนเนินดั่งเงินยวง
เขียวสุดท้ายรอร่วงอยู่ลิบลิบ
เพลงเกี่ยวข้าวกังวานซ่านในอก
เมื่อหมู่นกร้องครวญชวนใจจิบ
วิหคใดห่างร้างกลางเมืองลิบ
หอบชีวิตยากไร้ไปเดียวดาย
ลมว่าวเอยอย่าช้าพามนต์ทุ่ง
ไปจรุงหอมรินกลิ่นความหมาย
แม้นอกสั่นพรั่นพรึงถึงความตาย
จงโอบกายผ่อนหนักอย่าชักช้า
เพลงฤดูอีกคราวหนาวจะผ่าน
ยังกังวานแกล้มกลิ่นรินบุปผา
ดอกโสนจานใจไหวกลีบมา
เป็นมนต์เพลงมนตราข้ายลยิน
แสงแดดฉ่ำสะท้อนย้อนรวงข้าว
ริ้วลมหนาวจรจากพรากทิ้งถิ่น
มนต์เสน่ห์ที่ราบสูงคลุ้งระริน
อบวิมานบนดิน...กลิ่นทุ่งไทย
มนต์เสน่ยังหยัดสูงคลุ้งระริน
อวลวิมานอบกลิ่น....ผืนดินใคร?
เวอร์ชั่นรักพิสุทธิใสจากใจสาวนา
ผู้รักเดียวใจเดียว
ราวเคียวคมรอเกี่ยวรอเก็บใจมิไหวหวั่น
หลงรอท่า.....
ผู้*อ้าย*ปากหวานหว่านแค่ลมลิ้น
ว่ายังถวิลหานา..สาวนานานเนิ่น..
แลทุกฤดูฤดีที่ลาลับและมิคืนเคยกลับมา..เลย..ชั่วฟ้าดิน..
*******
ตะแบกร่วงพรายพร่างกลางลานหอม
นกแรมรอนหว่านคำเพ้อละเมอหา
รักหรือลวงเล่นลิ้นถวิลนา
เสน่หาหรือแสร้งแกล้งนาคอย..(สาวนาคอย)..
รักระยับเรียวรวงไยไม่กลับ
ลมระบัดหนาวเนื้อกี่หนาวหนอ
เคียวสิ้นคมแขวนคารอและรอ
อ้ายมาขอเกี่ยวคู่รวงรู้ใจ...
ที่ราบสูงไร้ยางยูงดินแห้งผาก
เหมือนคนยากนาน้อยคอยน้ำใส
หวังน้ำรักน้ำฝนรินรดใจ(ใบ)
ยอดดวงใจหลงแสงสีมิจรคืน...
รอรับขวัญกับผ้าถุงทอผืนหอมใหม่
อิงกองไฟดูดาวพรายใกล้นาผืน
ท้าลมว่าวหนาวแค่ไหนอุ่นรักคืน
ร้อนกว่าฟืนหอมกว่าฟางใจร่างรับ...
แล้วหยาดหวานกว่าฝนหล่นเรียวร่าง
ดุเหว่าหวานยังหยุดร้องเดือนยอมดับ
ปลุกวิญญาณนานเนิ่นเกินนานนับ
ให้คว้าจับน้ำผึ้งหวานผ่านร่างรวง...
มนต์ท้องนาจะเห่กล่อมจนรุ่งสาง
หอมเจือจางดอกจานหว่านหวานร่วง
ดาวหัวเราะจันทร์อวยพรอ้อนโอบรวง
โศกในทรวงล่วงลาลอยฟ้าไกล..
เพลงเกี่ยวข้าวคลอคู่ใจแสนซ่านซึ้ง
หวานตราตรึงนกไพรคืนคอนมิจรไหน
วิหคเอ๋ยอย่าหลงเชยไม้เมืองใด
คืนสู่ไพรคืนสู่รังหวังเคียงดิน..
ลมว่าวเอยอย่าช้าพัดพาหมอง
น้ำตานองเรียวรวงรอถวิล
ดอกโสนเหว่ว้าน้ำตาริน
ดอกจานสิ้นหว่านหวานประจานใจ..
ดับแดดกลางดวงใจรดน้ำรัก
หว่านกล้ารักแตกหน่อกอไสว
นาผืนน้อยนาคอยเคียวนาน้อยใจ
อย่าแรมไกลหว่านเพียงลมพรมผืนดิน... พรมผืนนา!
1 กุมภาพันธ์ 2547 09:41 น.
สาวบ้านนา
ชิงช้าเมฆ
******************
อาทิตย์ลาลับเหลี่ยมทางสันเขา
ฟ้าสีเทาเข้มครามยามเปลี่ยนสี
เหลืองส้มทองส่องรุ้งหวานระวี
จันทร์ราตรีโผล่ทิวไม้ทายทักไพร..
ไล่ยามพลบหลบหายชายคาเมฆ
สวรรค์เสกแสงดาวพราวฟ้าใส
ริมลำธารบ้านกลางป่าก่อกองไฟ
ลอยพลิ้วไหวเหนือไผ่กอรอเก้งมา..
จั๊กจั่นเสียดสีปีกกรีดร่ำร้อง
กบเขียดก้องลองเสียงเถียงซ้ายขวา
เบ่งคอพองร้องประชันกับไก่นา
อาณาเขตข้าขอจับจองร้องระงม..
นกทึดทือเสียงครือครือคนชรา
บ่างราวบ้าร้องโหยหวนชวนขื่นขม
ยามราตรีเงียบสงัดลมพร่างพรม
ทิวไม้ตรมระทมท้อรอพัดไกว
นกเค้าแมวลิงลมตากลมโตเป็นพิเศษ
ไว้เตือนเหตุเภทภัยไวเคลื่อนไหว
สัตว์กลางคืนตื่นทำงานผลัดเปลี่ยนไป
ดอกไม้ไพรไหวก้านกอรอรอรอ
หยาดน้ำค้างพร่างพรมลมลูบไล้
แสงจันทร์ฉายคลายเศร้าคอยเฝ้าขอ
ไกวชิงช้าเมฆเสกรวงดาวพราวสร้อยคอ
คล้องขวัญรอขอเกี่ยวใจไปนิรันดร์...