31 ตุลาคม 2545 17:55 น.
สาวบ้านนา
ฝนกำลังโปรยสายพรายพลิ้วนอกชายคา
ฉันเอนอิงพิงหมอนนอนดูหยาดน้ำตานางฟ้า
ที่กำลังหลั่งรินพร่างพรม...
วสันต์ลาพาเมฆหมองหม่นเทาทึมมาทอดทับใจ
จุดเทียนวางไว้ให้หอมวูบไหว
สะบัดสะบิ้งพริ้งพรายล้อสายฝนลมแรง
พายุพัดแรง แสงฟ้าแลบแปลบปลาบ
สลับเสียงฟ้าร้องครางครืน
ราวครวญคร่ำร่ำไห้
หยาดเป็นสายแทนน้ำตาพี่น้องนองหน้าชาวนาภาคอิสาน
ที่เพิ่งผันผ่านน้ำนองนาน เนิ่นวัน..นานเดือน..
และราวกับไม่นำพากับเหงาเศร้ารานร้าวของหัวใจ ใครหลายๆคน
ที่เกิดมาแพ้ใจไหวหวั่นกับแสงเทียน เสียงสายฝนพรำ
และเสียงกระชากกระชั้นของสายลมครวญ
ที่บาดใจ ราวปีศาจวสันต์ มาลามากระชากพา
ให้หัวใจไห้โหยหาหลุดลอยลิ่วปลิดปลิวไปตามฤดูฤดี
มองแมกไม้ไทยราวราวไพรรายรอบบ้านที่
รับหยาดฝนพร่างสายแสนหวาน
เริงระบำรำฟ้อนซัดส่ายใบ
กุหลาบงามยามนี้ถูกพายุไหวถูกแกล้งกลีบใบให้รานแยก
การะเวกหอมละออพ้อฝนดอกพราวพื้น
หวานเศร้าจนซึมซึ้งถึงใจดวงละมุน..
ในม่านฝนหม่นมัว ในซอกสลัวของหัวใจ
กลับหวานไหวด้วยใจสุขล้นจนเกินรำพันรำพึง
เสียงโทรศัพท์ปลุกฝันให้ฉันตื่นจากภวังค์
เพื่อนที่รักและแสนหวังดี ที่เข้าใจและทราบว่าฉันนี้
บ้าขยันฝันจะเขียนงานงาม รีบบอกมาว่าจะมาชวนไปงาน
เปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีหญิงคุณ ลดาวัลลิ์
ที่หันมาเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ทางการเมือง
บ่ายสองโมงวันนี้ที่โรงแรมแถวราชดำเนิน
น่าเสียดายที่ฉันปฏิเสธง่ายๆกับคำชวนเพราะเหตุผลเบื่อแต่งตัวงาม
ไม่ฉะนั้นฉันคนนี้คงได้นำมาระบายให้ฟังนะว่างานนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
และนักอยากจะเขียนอย่างฉันก็เลยยังย่ำมืออยู่กับที่มิมีผลงานตีพิมพ์วางแผง
ไม่เหมือนอาจารย์ณธีร์ กวีศรีแดนไทผู้พิสมัยฝัน
จนสามารถฝ่าฟัน ฝากฝัน ฝากใจ
ฝากงานงาม ที่มากล้นคุณค่าที่รจนามาจากดวงใจสวยใส
ฝากไว้ให้ลือนามในผืนปฐพีให้ทุกคนที่รักได้พักใจได้ชื่นชมศรัทธา
และให้สมกับคำว่าได้ เขียนได้ทำงานด้วยหัวใจทอง
รอก็แต่ของรางวัล
คือปากกาทองคล้องใจหรือไม่ก็ซีไรท์ก็อาจจะเป็นได้ ทั้งนั้นบนถนนสายฝัน
ที่ต้องอาศัยทั้งพรสวรรค์พรแสวงนี้
และอย่างน้อยก็เป็นแนวทางให้นักอยากจะเขียนทั้งหลาย
ได้จุดประกายทำมือรวมเล่มเป็นอนุสรณ์รัก..
ฝากขอบคุณนะคะ ที่กรุณาเมล์มาว่าจะมอบให้
ขอรับไว้ด้วยความซาบซึ้งใจ
ด้วยคำขอบพระคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จะรีบเมล์ตอบบอกที่อยู่เร็ววันเลยค่ะ..
ขอจบไดอารี่วสันต์ลาพาครวญถึงอาจารย์ณธีร์ ที่เคารพรักไว้เพียงนี้นะคะ จนกว่า
จะบรรเจิดใจกับคิมหันต์มาและจะสัญญาจะกลับมารจนาอีกคราครั้ง
ด้วยรักและรักทุกดวงใจไทยโพเอมนะจะบอกให้..
30 ตุลาคม 2545 17:14 น.
สาวบ้านนา
ร่มไม้ใหญ่ไหวกิ่งฝันวันเคยเศร้า
ลบรานร้าวหนาวใจในวันหมอง
ใต้ร่มไม้ชายคาคอยช่วยกรอง
มลพิษของอากาศปราศลำเอียง...
ได้รื่นรมย์กับลั่นทมเศร้าหลากสี
ไหนจำปีที่เตือนใจริมเฉลียง
หอมพุดซ้อนซ่อนเศร้าในยามเที่ยง
กุหลาบเกี่ยงกันบานหวานจับใจ...
ใต้ชายคาแห่งรักพักใจฉ่ำ
ร่ายลำนำกลอนฝันวันหวามไหว
การะเวกเสกมนต์มาอย่าท้อใจ
ปีบไสวชูช่อรอฝนมา...
กระท่อมต้นไม้สร้างไว้เขียนงานฝัน
เอื้อมมือพลันเด็ดจำปีที่หอมหา
เอนอิงหลังฟังเสียงนกหวานอุรา
วิมานดินตรงหน้าบ้านของเรา
30 ตุลาคม 2545 16:40 น.
สาวบ้านนา
มองกอไผ่ไหวกิ่งทิ้งเสียงส่าย
ซู่ซ่าร่ายพรายพลิ้วทิวไพรสนธ์
เสียงใบไผ่นับพันพ้อลมบน
สุขกมลสายลมพัดสะบัดใบ....
ไผ่ลู่ลมโน้มล้อรอไหวรับ
สงัดจับจิตวิญญาณผ่านกิ่งไหว..
เรียวกิ่งกอละออเขียวเกี่ยวกิ่งใจ
สงบใจตะวันออกบอกเป็นมา...
ไผ่สีสุกปลุกแสงเรืองเขียวเหลืองใส
ทอลอดใบไหวตะวันให้ฝันหา
ศิลปินสร้างงานฝันดั่งมนตรา
ไผ่ธรรมดาเลอค่าปัญญาไทย...
จิตวิญญาณผ่านวัฒนธรรมย้ำใจบอก
ตะวันออกบอกวิถีที่พลิ้วไหว
รังสรรค์งานผ่านงามกิ่งและก้านใบ
ไผ่พลิ้วไหวในชายป่าค่าเลอเมือง....
29 ตุลาคม 2545 17:07 น.
สาวบ้านนา
ในชีวิตจริงของหญิงคนหนึ่ง
คนช่างซึ้งช่างฝันช่างหวั่นไหว
มีความงามเรียบง่ายอยู่ภายใน
รู้ทำใจรับสุขทุกข์เหมือนเงา
รับรอยกรรมเราทำได้เพียงแค่นี้
สร้างความดีมีมากทุนหมุนลบเขลา
โลกอิสระจิตวิญญาณไขว่คว้าเอา
แม้นแสนเหงาเราเลือกได้คล้ายเลวดี...
มองโลกนี้เป็นธรรมย้ำใจงามตามธรรมชาติ
ร่ายหวังวาดเวิ้งใจฝันไม่แต้มสี
สวยตรงตรงคงความจริงนิ่งคือดี
รู้พอดีมีอภัยใจสราญ...
ปาฎิหารย์จิตกระจ่างสว่างใส
เกิดกลางใจราวกระจกทั้งหกด้าน
มองโลกบวกบวกเพียงธรรมฝันตระการ
ดั่งบัวบานลอยเหนือน้ำยามอรุณ......
29 ตุลาคม 2545 16:48 น.
สาวบ้านนา
อาทิตย์ลาลับเหลี่ยมทางสันเขา
ฟ้าสีเทาเข้มครามยามเปลี่ยนสี
เหลืองส้มทองส่องรุ้งหวานระวี
จันทร์ราตรีโผล่ทิวไม้ทายทักไพร..
ไล่ยามพลบหลบหายชายคาเมฆ
สวรรค์เสกแสงดาวพราวฟ้าใส
ริมลำธารบ้านกลางป่าก่อกองไฟ
ลอยพลิ้วไหวเหนือไผ่กอรอเก้งมา..
จั๊กจั่นเสียดสีปีกกรีดร่ำร้อง
กบเขียดก้องลองเสียงเถียงซ้ายขวา
เบ่งคอพองร้องประชันกับไก่นา
อาณาเขตข้าขอจับจองร้องระงม..
นกทึดทือเสียงครือครือคนชรา
บ่างราวบ้าร้องโหยหวนชวนขื่นขม
ยามราตรีเงียบสงัดลมพร่างพรม
ทิวไม้ตรมระทมท้อรอพัดไกว
นกเค้าแมวลิงลมตากลมโตเป็นพิเศษ
ไว้เตือนเหตุเภทภัยไวเคลื่อนไหว
สัตว์กลางคืนตื่นทำงานผลัดเปลี่ยนไป
ดอกไม้ไพรไหวก้านกอรอรอรอ
หยาดน้ำค้างพร่างพรมลมลูบไล้
แสงจันทร์ฉายคลายเศร้าคอยเฝ้าขอ
ไกวชิงช้าเมฆเสกรวงดาวพราวสร้อยคอ
คล้องขวัญรอขอเกี่ยวใจไปนิรันดร์...