28 มีนาคม 2549 16:19 น.
..สายลมทะเล..
อยุธเยศล่มฟ้าเคยปรากฎ
อัปยศสิ้นชาติพินาศสมัย
อัตลักษณ์อัตตาเมื่อปราชัย
สิ้นไทยก็พินาศ ร่วมฆาตกัน
ชนะใดไหนเล่าชนะจริง
ควายไก่หมากาลิงพลอยกลิ้งขัน
คนร่วมบ้านกำพร้าร้องท้ากัน
สัตว์คงหยัน มันมนุษย์ สุดเวทนา
กี่ร่างถม ล้มตาย จากหลายศึก
กี่น้ำตา จารึก บันทึกหน้า
กี่ทะเลเลือดไหล ท่วมไทยมา
กี่แผ่นดิน กี่ฟ้า..มาถึงเรา
....................................
วันนี้ ไม่มีใครมาชิงเมือง
ก็ขุ่นเคืองหาเรื่องกันเองเข้า
ข้างบ้าน ยิ้มรื่น ยืนดูเรา
ตายทั้งครัว รอเผา..ร่วมโลงเดียว
5 พฤศจิกายน 2548 13:24 น.
..สายลมทะเล..
ได้พบเธอครั้งแรกคนแปลกหน้า
อนิจจาใจตัวมันรัวสั่น
ไม่นึกเลยแรกพบสบตากัน
ใจของฉันก็พลันเป็นของเธอ
โชคชะตาอันใดอาละวาด
ด้วยประมาทไม่ระวัง จึงพลั้งเผลอ
พรหมลิขิตกระแทกหน้าจนตาเบลอ
ไม่เห็นใครแต่เห็นเธอ..เพ้อทั้งวัน
ยิ้มของเธอยิ่งกว่าโซดาหมด
แล้วยกซดรวดเดียว ร้อนแสบสันต์
เร่าร้อน ยิ่งกว่าไฟประลัยกัลป์
เผาหัวใจดื้อรั้น ฉันละลาย
มนต์เสน่ห์อันใด ใครสะกด
หรือฟ้าดินประชดนอนตื่นสาย
เวลามีก่อนหน้าตั้งมากมาย
กลับส่งเธอมาได้..ตอนแฟนมา
ตาที่เหล่เธอนั้น ยังเขียวอยู่
รอยหยิกแดงสองหู ยังอวดหน้า
ไม่ทันยื่นอุทธรณ์ร้องฎีกา
เทพธิดาก็ซัดทัดดอกไม้
หากสวรรค์มีตาโปรดปราณี
เห็นใจชายขี้หลีที่ใจง่าย
อย่าโยนเนื้อล่อเสือยั่วน้ำลาย
ยามนางพรานใจร้าย..ถือปืนรอ
4 พฤศจิกายน 2548 13:47 น.
..สายลมทะเล..
เสียงระเบิดกึกก้องเต็มสองหู
เศษสะเก็ดปลิวหวืออื้อพรายพร่า
ลมกระแทกจุกอกนรกดา
สายกระสุนสาดมา..ไม่ตั้งตัว
ฝ่าพง ดงระเบิดมาทุกย่าน
ใจชายกายทหารจึงยิ้มหัว
อินทร์พรหมยมบาลยังคร้านกลัว
อุทิศหัวเพื่อชาติ ขลาดอะไร
มโนมอบพระผู้ เสวยสวรรค์
พลีกาย ทรงธรรม์ ถวายให้
ดวงใจ มอบสิ้น ซึ่งเมียขวัญ
เกียรติศักดิ์รักนั้น สถิตตัว
......................................
ไม่เจ็บเลยสักนิด แต่เลือดไหล
หลังมาจากข้างใน เหมือนท่อรั่ว
เอะอะ เอ็ดตะโร กันเนียนัว
ภาพที่เห็นมืดมัว ลงช้าช้า
พระไพรีพินาศห้อยคอเพื่อน
แม้จะเลือนยังเตือนกับตนว่า
ชีวิต ทุกชีวิต มีเวลา
ได้เกิดมา ทำหน้าที่..ดีพอแล้ว
...........................................
หลับตาลงครานี้ พี่ไม่ตื่น
อย่าสะอื้นเสียใจ นะขวัญแก้ว
ชาตินี้ สิ้นบุญ หมดชาติแล้ว
พี่จะไปรอแก้ว..ชาติถัดไป
1 พฤศจิกายน 2548 17:19 น.
..สายลมทะเล..
กาลครั้งยังไม่นานตอนรุ่นหนุ่ม
แรกรักรุมกลุ้มใจเขียนจดหมาย
เสือกะล่อนละอ่อนจัดหัดออกลาย
สาธยายร่ายรักเป็นเพลงยาว
เจอกัน ครั้งแรก บนรถไฟ
ถึงก็ไป ไม่ถึงก็ไป อ้าปากหาว
ชึ่กชั่ก ปู้นปู้น เป็นครั้งคราว
สบตาสาว สาวตาสบ..เราพบกัน
แม่เธอ นั่งลงที่ตรงข้าม
แต่ก็ไม่อาจห้ามหัวใจฉัน
คนใจง่ายมือไวเมื่อแสบคัน
พรหมลิขิตขีดพลันเป็นบทกลอน
จนข้ามคืนตื่นเช้าไม่กล้าส่ง
ป้ายหน้าลง กระสับกระส่าย เพราะรักหลอน
วาสนาหรือสิ้นอรชร
ทั้งหัวใจรอนรอน ชิดกระชั้น
อยากจะหยุดหัวจักรที่ครึ่งป้าย
หัวใจชายหายวับเหมือนกับฝัน
รถไม่หยุดคนต้องไปไกลจากกัน
ฉันเดินทื่อตัวสั่นไปหาเธอ
ทิ้งกระดาษลงไปไม่มองหน้า
ตกตะกร้าแม่เธอฉันจึงเหวอ
ฉันหันหลังเดินกลับเหมือนละเมอ
พ่อของเธอรู้เข้า..ฆ่าฉันตาย
31 ตุลาคม 2548 13:35 น.
..สายลมทะเล..
เจ้าคนเล็ก ป.ตรีจบ มาซบไหล่
จะคิดมากทำไมละพี่จ๋า
ร้อยสองร้อยซื้อหวยบ้าง ก็ธรรมดา
อย่าไปว่าพ่อแม่พี่ ไม่ดีเลย
ผมระอาหน้ายิ้มเจ้าตัวเล็ก
น้องยังเด็กตาดำดำจึงทำเฉย
แม่เป็นครูศีลธรรมไหนละเลย
พ่อก็เคยสอนเลขสามสิบปี
ยิ่งพี่สาวตรีโทเอกคณิตศาสตร์
ย่อมรู้คาดโอกาสหวังอันริบหรี่
สมองเลิศกวาดรางวัลไม่เว้นปี
ไฉนมีที่ว่าง..ทางปัญญา
น้องคนเดียวในบ้านจบเฉียดฉิว
คนอื่นเรียนสูงลิ่วกันถ้วนหน้า
เกียรตินิยมน้องไม่มีมาตีตรา
ยังอุตส่าห์แก้ต่างให้..แต่ละคน
สิบห้าวันซื้อฝันด้วยเงินร้อย
การรอคอยด้วยหวังเป็นเหตุผล
ชีวิต เป็นชีวิต แต่ละคน
เพราะดิ้นรน ฝันและหวัง นะพี่ชาย
อาจจะจริง ดังคำของน้องว่า
ชีวิตยังมีค่า เพราะขวนขวาย
เมื่อไร้หวังไหนต่างจากคนตาย
เลือดในกายนายตำรวจ..จึงเย็นลง