24 ธันวาคม 2547 10:58 น.
สายน้ำนิรันดร์
ปีเก่ากำลังจะลับมุมโลกไปในเวลาไม่นาน
หลังจากร่ำลากันเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเตรียมจิตเตรียมใจ
ไว้รับปีใหม่ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่เราหวังว่าดีกว่าปีเก่า
ถึงแม้ว่าเราจะไม่แน่ใจนักว่า ปีใหม่นี้รถจะติดน้อยกว่าเก่าหรือไม่
มลพิษในอากาศจะลดลงแค่ไหน สายน้ำจะน่าอาบน่าว่ายเพียงใด
และป่าจะเพิ่มกว่าเดิมจริงหรือ กระนั้นก็ตาม ๓๖๕ วัน ข้างหน้า
ก็คงต้องมีเรื่อง น่าอภิรมย์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย
สำคัญอยู่ตรงที่ว่า เราจะช่างสังเกตหรือรู้จักมองหรือไม่
ถึงอากาศกรุงเทพฯ จะไม่น่าสูดเพียงใด
แต่ทุกเช้าดวงอาทิตย์ที่โผล่ลังเหลี่ยมตึกยอดอาคาร
ก็ยังน่าชื่นชมมิใช่หรือ
ริมตึกหรือข้างกำแพงเก่า ก็ยังมีตะไคร่เขียวสด
และแผ่นมอสคอยทักทายเราทุกครั้งที่เดินผ่าน
หวังอยู่แต่ว่าเราจะไม่เอาแต่หลับหูหลับตาเดิน
หรือหมกมุ่นครุ่นคิดกับแผนการ
จนไม่มีเวลาเปิดใจสัมผัสสิ่งงดงามข้างทาง
ถึงเราจะตีตัวออกห่างจากธรรมชาติเพียงใด
แต่ธรรมชาติก็ยังไม่ไปไหน
หากยังเฝ้าติดตามเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
รุ่งอรุณมีดวงอาทิตย์ ค่ำคืนมีดวงจันทร์และดวงดาว
แม้แสงไฟจะแรงกล้าเพียงใด
แต่ก็ยากจะบดบังเรามิให้เห็นแผ่นฟ้าในคืนเดือนมืดได้
บางวันหากปิดไฟ และลองจุดเทียนดูบ้าง
บางทีจะได้สัมผัสความลึกล้ำบางอย่างที่อยู่รายรอบตัวเรา
แต่เราก็ต้องลงแรงช่วยธรรมชาติบ้าง
จะคอยให้ธรรมชาติตามปลอบประโลมเราแต่ฝ่ายเดียว
ก็ดูจะใจจืดใจดำเกินไป
อย่างน้อยก็เจียดเวลาช่วยหมู่ไม้ให้ได้แพร่พันธุ์บ้าง
รดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้ได้เติบใหญ่และออกลูกออกหลานเต็มกระถาง
และถ้ามีที่ ก็อย่างลืมเอาลงดิน
เพื่อให้หมู่ไม้ได้ซึมซับพลังชีวิตจากผืนดิน
ยามท้อแท้ท้อถอย ความเขียวสดใสของใบไม้
คงเติมเรี่ยวแรงให้แก่จิตใจของเราได้มากทีเดียว
ใบไม้ที่ผลิบาน หน่ออ่อนที่แทงยอดพ้นดิน
และดอกตูมที่เตรียมเบ่งบานอย่างเต็มที่ในรุ่งเช้า
สะท้อนให้เราเห็นพลังสร้างสรรค์ที่มีอยู่อย่างเปี่ยมล้นในตัวเรา
ขอเพียงแต่เราได้ร่วมมือกับธรรมชาติเท่านั้น
พลังนฤมิตจะพลันส่งผ่านจากมือเรา
และให้กำเนิดชีวิตใหม่ ๆ แก่โลกรายรอบตัวเรา
ชีวิตมิได้มีแต่สิ่งเลวร้าย
โลกมิได้มีแต่บาดแผลของธรรมชาติ
หากยังคอยเปล่งประกายแห่งความสดใส
ให้เราได้สัมผัสทุกเมื่อเชื่อวัน
ขอเราเปิดใจรับสัมผัสแห่งธรรมชาติบ้าง
เมื่อสุขบังเกิดขึ้นในใจคุณค่าแห่งธรรมชาติก็ยิ่งประจักษ์ชัด
เมื่อนั้นการพิทักษ์รักษาธรรมชาติก็ปรากฏ
เพราะธรรมชาติที่แท้นั้นเริ่มต้นที่ใจเรา