28 มกราคม 2554 17:31 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
การไต่เต้ามันช่างยากเย็นเสียจริงๆ แม้ว่าจะได้รับประสบการณ์ปาฏิหารย์มาอย่างมากมายแต่ทว่าเมื่อสุดยอดวิทยายุทธมาเจอกันสิ่งที่ต้องใช้คือเชาวน์ปฏิภาณไหวพริบและบางครั้งต้องมีโชควาสนาด้วย และในครั้งนี้ซาปังได้พบกับยอดฝีมือสาวนางคืออสูรนางฟ้า เรื่องราวใดๆในโลกยากที่จะบ่งบอกให้ชัดเจน แม้จะมีวาจาหลายคำจะกล่าวแต่ทว่าอสูรนางฟ้านั้นกลับมิฟัง ฟ้าใกล้สางแล้วแต่ทว่าซาปัง และอสูรนางฟ้ากลับยืนตั้งท่าคุมเชิงกัน ดูทั้งสองสงบนิ่งไร้เภทภัย แต่ทว่าหากเป็นชาวยุทธ์แล้วมันกลับเป็นวินาทีแห่งการแตกหัก
ซาปัง ร้อยเพ้ย แล้วเริ่มต้นด้วยท่าฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า มังกรผยองได้สำนึก มังกรบินอยู่สวรรค์ มังกรโรมรันกลางไพร มังกรซ่อนกบดาน เชี่ยวชาญข้ามแม่น้ำใหญ่ หงส์ร่อนพสุธา ระดังโดยพลัน สะท้านขวัญร้อยลี้ ทะยานสู่มหรรณพ มังกรเทพสะบัดหาง มังกรผงาดกลางทุ่ง มังกรคู่ตักน้ำ มัจฉาทะยานสมุทร บังคับหกมังกร เมฆหนาไร้ฝน ลดสูญเสียเกิดผลลัพธ์ สัมผัสน้ำแข็งเหน็บหนาวกาย มังกรพิโรธ นางอสูรกลับมิได้ไหววิตกนางกลับใช้สิบเจ็ดฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย ซิมเกีย เน็กเถี่ยว ( เนื้อเต้นใจสะท้าน ) กีนั้งอิวเทียน ( วิตกทุกร้อนเกินเหตุ ) บ้อตังแซ่อู๋ ( เสกสรรปั้นเรื่องราว ) ทัวนี้ตั่วจุ้ย ( ยืดเยื้อชวนรำคาญ ) ไป๊ฮ้วยคงก๊ก ( วนเวียนหุบเขาร้าง ) ลักปุกชงซิม ( ใจสู้ขาดแรงหนุน ) เกียซีเจ้าเน็ก ( ซากศพเดินได้ ) ย้งนั้งจื่ออิว ( คนเขลาหาเรื่องใส่ตน ) ต้อเกี้ยเง็กซี ( ฝืนทวนความประพฤติ ) ฮุ่ยจิ้มบ้วงเจี๊ยะ ( ลืมกินไม่หลับนอน ) โกวเฮ้งเจียะเอี้ย ( เงาโดดเดี่ยวร่างเดียวดาย ) อิ้มหึงทุงเซีย ( กลืนความแค้นไม่ออกปาก ) ลักซิ้งปุกอัน ( จิตทั้งหกไม่สงบ ) ข้งทู้ม้วกโล่ว ( อับจนสิ้นหนทาง ) มิ่นบ้อนั้งเส็ก ( หน้าไร้แววผู้คน ) เสียยิบฮุยฮุย ( จิตฟุ้งซ่านรัญจวน ) ไง้เยียกบักโกย ( ตะลึงงันราวกิ่งไม้ )
ในการต่อสู้กระบวนท่าของนางอสูรขาดไปหนึ่งท่าดังนั้นนางจึงเริ่มใช้รอบที่สอง ซาปังพลันหัวเราะก้องต้องใช้สุดยอด ไม้ตาย กวางเหลียวหลัง นางอสูรสาว แย้มยิ้มหยาดเยิ้ม กลับร้อยเพ้ย แล้วใช้ท่าไม้ตายของนาง มณโฑนั่งแท่น ไม่คาดคิดเลยว่าซาปังจะเพลี่ยงพล้ำได้ นับแต่นี้ซาปังมิอาจไม่เป็นจอมยุทธอันดับสองได้
27 มกราคม 2554 06:42 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
สะพั่ง สะท้านไม นั่งครุ่นคิดถึงความยากลำบากของชาวเมือง ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น น้ำมันแพง โดยเฉพาะ ๙๑ สำหรับมาสด้าสามสองสามจีแอลเอ็กของกะพ้ม ก็ครุ่นคิดไปถึงการจะประหยัดได้ ก็คือการไม่ขับ แต่พอผ่านมาได้สามสัปดาห์ เครื่องทำท่าจะไม่ยอมติด ดังนั้นจึงต้องติดเครื่องแล้วขับบ้าง ก็เป็นอันว่าต้องเสียบ้างตามความจำเป็น
ทองคำโอ้ทำไมมันขึ้นแบบนี้ ซื้อไม่ลงจริงๆ ซื้อแล้วไม่รู้ว่าจะยัดใส้หรือเปล่า และเวลาขายเจ้าของร้านทองคำก็จะลีลาซื้อถูก มีแล้วก็ไม่กล้าใส่ ทองเหรียญห้าสิบสตางค์ใส่ไปแล้วก็โชว์ปลอมดำปื๊ด
บุหรี่มาโกโร ซองขาวก็แพง แต่ว่า ดูดแล้วกลิ่นไม่แรงเมียจับได้ยาก แต่ทว่าในยุคนี้เศรษฐกิจดีมากเกินไป ผมจึงไปได้เครื่องทำบุหรี่มาหนึ่งเครื่อง มันเป็นอะไรที่ถูกใจที่สุด สามารถแอบผลิตบุหรี่ได้ปริมาณเพียงพอความต้องการ ไม่ต้องจ่ายค่าบุหรี่ราคาแพงทุกสามวันนั่นหมายถึงไม่ต้องเสียภาษีซ้ำซากซ้ำซ้อนจนไม่รู้เรื่องหน้ามืดตามัว ขณะที่นั่งรถกลับมาจากคลองถม สายหกสิบ บรรเจิดแต่คิดจะหายาไป๊มาใส่เพื่อความหอมหวล แต่ทว่ากลับคิดได้ว่า สมัยก่อนไปทำงานภาคใต้ ได้ลองซื้อบุหรี่หนีภาษีมายี่ห้อหนึ่งชื่อสุริยา แดง ซองหนึ่งมีแค่สิบสองตัว แต่ยาวกว่าปกติ และซองหนึ่งสี่สิบห้าบาทขนาดหนีภาษี แต่ทว่าพอสูบดูแล้ว ใช่เลย และยังชอบอยู่เสมอ แต่ทว่าโอกาสซื้อไม่มีเพราะดันอยู่กรุงเทพ เมื่อความคิดบังเกิดใช่เลย กานพลู แต่ทว่าความคิดนั้นก็ต้องถูกรบกวนเพราะรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนเนี่ย ทุกช๊อตต้องเบรคเพื่อจอดที่ป้ายโดยสาร และต้องเกินป้ายอย่างต่ำครึ่งคันรถ อย่างมาก สามเท่าของความยาวรถ ผู้โดยสารที่จะลงก็ต้องวอร์มวิ่งเหยาะๆก่อนเพื่อจะได้ลงทันก่อนรถจอด และผู้โดยสารที่จะขึ้นก็ต้องทำทำเตรียมวิ่งก่อนที่กรรมการแข่งขันวิ่งจะยิงปืนให้ออกวิ่งได้ ร้อยป้ายจอดริมฟุตบาทสองป้ายคือป้ายที่อู่ออกกับอู่ที่ถึง เสียงเกียร์ของรถเมล์คันนี้เหมือนลากแล้วเฟืองเกียร์จะถลอกปอกเปิด หลังจากที่พบสถานที่ๆจะลงแล้วต่อรถได้นั่นคือแถวราม หนึ่งสองหก ผมก็วอร์มเตรียมตัวลง โชว์เฟอตีนผีขับผ่านโค้งทีไร รถเมล์เอียงวูบวาบทุกที เลนสองที่จอดให้ที่รามนับว่ามีเมตตาปราณีมากแล้วผมโชคดีหนึ่งสองหกมาพอดี วิ่งขึ้นทันที รถที่เสียเงินแปดบาทคงดีกว่ารถที่ไม่เสียเงิน แต่ผมคิดผิด หนักกว่าเก่าแม้บินจะชนนกยังเบรคซะขนหัวลุก ลงวัดพระศรีต่อรถตู้ เอออย่างน้อยมันก็ปลอดภัยกว่า แม้จะขับกวนประสาทชาวบ้านบ้างก็ไม่เป็นไรเพราะรวดเร็ว ถึงพานใหม่ เดินเข้าตลาดหาซื้อยาไป๊ก่อน แต่ทว่าไม่มี จึงเปลี่ยนเป็นหาซื้อกานพลู ได้กานพลูบดมาหนึ่ง ขีด ผมเริ่มผลิตยาสูบส่วนตนแล้วโรยผงกานพลูเข้าไป พอสำเร็จจุดสูบ ช่างสมใจนัก แต่ทว่าเกิดระลึกได้ว่า อาจมีอันตรายก็ได้เลยไปเปิดเน็ตดู เรียบร้อยผงของมันกินได้ มีประโยชน์ของสมุนไพรอย่างเต็มร้อย ดังนั้น ยาสูบที่ผลิตได้นี้จึงถูกใจ เบาสบาย ไร้กลิ่น ปากไม่เหม็น ร่างกายแข็งแรง จึงเรียกว่ายาสูบจริงๆไม่ใช่บุหรี่ แต่ยังคงผลิตแล้วใส่ซองมาโกโร่อยู่เพราะในเมืองนี้ชอบแบบนี้ หน้าตาดีไว้ก่อนดูเท่ห์ ชุ่มคอดีแท้ ถ้าเป็นของซูรียามันก็ตกตัวละสี่บาท แต่ทว่าของผม สามร้อยเจ็ดสิบบวกแปดสิบ เท่ากับสี่ร้อยห้าสิบ จำนวนเกินร้อยยี่สิบมวลหลายเท่าแน่นอน สมัยนี้ดีอย่างนี้แหละครับ หากเข้าใจคำว่าพอเพียง ก็สามารถพลิกพลิ้วกระบวนท่าไปได้เรื่อยๆอย่างไม่มีอับจนและจับทางได้ถูก ซึ่งขึ้นอยู่กับไหวพริบ แต่ทว่าผมชอบพ่นควันกลิ่นกานพลูไปนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีเวลาสว่างหรือมืด เห็นกลลวงทางการเมือง เห็นการหลอกลวงทุกวัน แต่ก็อย่างว่า สะพั่ง ยักไหล่ หากตัวตนไม่ได้มีความหวังลาภยศตำแหน่งชื่อเสียงหรือกลัวน้อยหน้าชาวบ้าน ขอเพียงแต่มีข้าวกิน มีที่นอนที่อบอุ่น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และมีความมุ่งหวังต่อชีวิตไว้เพียงได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ก็คงจะมีปอดที่อบอุ่นได้ ต้องกราบขอบพระคุณโรงงานยาสูบที่ได้ดูแลผมมาตั้งแต่ปี สองห้าสองหก จนถึงต้นปีนี้ หากมีสิ่งใดที่กระพ้มล่วงเกินไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ แนวความคิดในการดำเนินการต่อไปของสะพั่ง สะท้านไมภพ คือ หากล่องใส่บุหรี่สวยๆ ราคาตลาดๆมาแทนซองมาโกโร่ เพราะหากยังด้านหน้าใช้แบบดูดีอยู่มันผิดหลักการของกะพ้มครับ
11 มกราคม 2554 07:07 น.
สะพั่งสะท้านไมภพ
งักปุ้งคุ้งตัวเอกในนิยายกำลังภายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ได้เผยแพร่วิทยายุทธให้แก่ลูกศิษย์และแพร่หลายถ่ายทอดตกมาจนถึงปรัตยุบัน สำหรับเหล็งฮู้ชงตัวละครอีกตัวหนึ่งก็มีลูกศิษย์ลูกหาแพร่หลายตกทอดมาถึงเช่นเดียวกัน ตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันมีแบบนี้ คำโบราณพวกฮวนเผ่าหนึ่งกล่าวว่า หน้าไหว้หลังหลอก ข้างนอกสุกไสข้างในตะติ๊งโหน่ง กางเกงเก่าปะแล้วปะอีกของผมสีออกแนวเขียวกำลังจะไปขาวเป็นตัวที่ผมชอบมากที่สุด ภรรยาของผมแอบนำไปทิ้งแล้วหลายเที่ยวแต่ทว่า ผมต้องไปคว้ามาใส่ตลอดจนกระทั่งภรรยาไม่อยากจะยุ่งกับวิถีชีวิตของผมอีกแล้ว กางเกงตัวนั้นมันใส่แล้วทำให้ไม่มีผู้ใดอยากจะทักทาย หรือรู้จักแต่ก็ไม่กล้าทักทาย ผมกลับชมชอบอย่างยิ่ง เพราะผมก็ไม่อยากยุ่งกะใครเพราะเบื่อตัวเองและคนอื่นเหมือนกัน ผมมองคนหลายๆคนเที่ยวพลีเซ๊นตีหน้าหน้าตาไหลว่าปลาบปลื้มเห็นแล้วก็ได้แต่หัวเราะหึๆ ผมมองป้ายใหญ่โตเห็นได้ชัดของแต่ละคนที่แบกไปทำงานด้วยเอ้าเอากันเข้าไป ผมเห็นการทำตัวต่อหน้าของคนโง่ๆต่อคนที่โง่น้อยกว่า นึกถึงคำพูดของจานทูนขึ้นมาได้ว่า พั่งดูไก่ตรุษจีนซิพั่ง จิกกันเอง พั่งระลึกปล๊าบถึงปรมารจารย์ด้านความคิดคนหนึ่ง มีน่าโกวเล้งจึงได้มอบเพลงเก้ากระบี่เดียวดายให้กับน้าเหล็ง เก้ากระบี่เดียวดาย ความจริงมิใช่ท่ากระบี่ และอีกคำหนึ่งของจานทูนว่า พั่งคนโง่ในแผ่นดินนี้มีมากเกินไปจริงๆ ในความคิดการคิดอะไรชั่วๆได้เนี่ยผมว่ามันไม่โง่แล้วละครับ แต่ในมุมมองหนึ่งเท่านั้น ความสับสนของคนโง่แบบผมนิดหนึ่งเกิดความคิดขึ้นมาว่าแล้วทำไมไม่ทำตามแบบเขามั่ง ผมว่าการที่คนๆหนึ่งได้พบเจอะเจอสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเจอแล้วอยู่ได้น่าจะธรรมให้กระบวนการคิดทัศนคติของเขาปรับเปลี่ยนไป แต่ทว่าอีกคติหนึ่งคือพวกที่ออกไปเดินขบวนเนี่ยบางทีก็ต้องชื่นชมเพราะสละความสุขส่วนตัวเพื่อให้ได้มาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง (ถ้าคิดดีจริงๆ) ในด้านของความมีเหตุผล หากพิจารณาเจาะลึกให้ดีแล้วจะเห็นว่ามันมีความจำเป็นต้องทำ แต่ทว่าผู้มีความจำเป็นแต่ทำไม่ได้ก็ต้องยอมรับ มีหลานคนหนึ่งพ่อแม่เขาถามว่ามีเด็กในห้องเกเรหรือเปล่า หลานคนนั้นตอบกับพ่อแม่เขาว่าไม่มีเลยสักคนเดียว แต่อีกในหลายวันต่อมา พ่อแม่กลับได้รับจดหมายจากครูถึงผู้ปกครองว่าเด็กของท่านเกเรให้ช่วยดูแลด้วย คือหมายความว่าบางทีตัวเราเองอาจไม่รู้ว่าเราเป็นใครกันแน่ระหว่างลูกศิษย์อาจารย์งัก กับน้าเหล็งฮู้ จนกระทั่งมีโอกาสก่อน
เมื่อมีโอกาสมาถึงเราถึงจะรู้ว่าเราเป็นใครกันแน่
เมื่อมีโอกาสโกงมาถึงเราถึงจะรู้ว่าเราชั่วหรือไม่
แต่มีความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างหนึ่ง เหล่าคณิกาล้วนคบหาแต่เงินทอง แต่ทว่ามีบ้างกลับเถียงอย่างหัวชนฝา
กลับมามองดูพื้นฐานของบ้านเมืองแรกก่อตั้ง
ข่าวสารโคมลอยที่กลาดเกลื่อน
เทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
เยอะจนหาไม่เจอ
ผมสะพั่ง กลับนั่งหัวเราะ
จิบเฮนเนสซี่อย่างต่ำยี่สิบปี แม้แต่งกายราวกระยาจก แต่สุรารสเลิศเช่นนี้ไม่ควรพลาด
หัวเราะฮาๆด้วยความเมา
ทำให้เหล่าคณิกาบ้าคลั่งจนถึงขีดสุดได้
ทำให้ผู้บังคับบัญชาไฟธาตุแตกด้วยความโมโหได้
เคี๊ยกๆ