30 พฤษภาคม 2551 08:15 น.

จะอยู่รอดกันไหมนี่

สะพั่งสะท้านไมภพ

ในหุบเขาส่วนตัวเร้นลับแห่งหนึ่ง
 เหล่าจอมยุทธฝีมือชั้นหนึงมารวมหัวกันในถ้ำแก้ว เหล่าจอมยุทธต่างๆเหล่านี้ต่างก็แบกหน้าตาเป็นพวกฝ่ายธรรมะ ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าสำนัก พวกมันประกอบไปด้วย พลเรือน ตำรวจ ทหาร 
   ในขณะที่อีกด้านหนึ่งในเมือง พลเรือน ตำรวจทหาร ที่มิได้เป็นเจ้าสำนึก หรือเกือบๆจะได้เป็นเจ้าสำนัก หรือพวกที่ถูกตีตราโมเมว่าเป็นพวกมารหรือฝ่ายอธรรม บ้างกำลังนั่งเหม่อลอยนึกถึงสิ่งที่ได้กระทำมาในอดีต บ้างก็ส่องพระ บ้างก็ทำธุรกิจ บ้างก็ตีกอล์ฟ บ้างก็เมาหัวราน้ำ บ้างก็บวช 
   ในแง่ของความคิดของคนต่างชาติแล้ว เขาใช้ชีวิตของเขาอย่างสนุกสนานไปวันๆ ดื่ม เที่ยว กิน หลับนอน จนกระทั่งวาระสุดท้ายมาเยือน บ้างก็ทิ้งสิ่งที่มีคุณประโยชน์ต่อคนส่วนมากเอาไว้ก็มีบ้าง
   กลับไปที่ถ้าจอมยุทธ
   เอาไอ้นี่ออก จากตำแหน่งไว้ก่อน เพื่อผมไม่ต้องมาสู้ กับมันภายหลัง
   โอเคเห็นด้วย
   มีข่าวว่าพวกที่ไม่ได้ใกล้ชิดชักจะเริ่มขาดความจงรักภักดีแล้วเนื่องจากการพิจารณาตำแหน่งสำคัญๆไม่ยุติธรรม
   มีข่าวว่า ทหารจับตาดูทหารเสืออย่างใกล้ชิด และอย่างไม่พอใจ
   ปัญหาของกระทรวงต่างๆมีมากขึ้น ของที่มีอยู่เดิมก็มากขึ้นเรื่อยๆ ผลัดไปผลัดมาคนจะเริ่มขาดความเชื่อถือแล้วนะ 
   ปัญหาใหม่ก็ตามมาก็ยังตามข่าวไม่ทัน
   ข่าวลือก็ออกมากันรายวัน
   แล้วในกลุ่มไฮโซที่ประชุมในถ้ำก็พากันดื่มกินสังสรรค์สนุกสนานด้วยความบันเทิงอย่างมีระดับ อย่างที่ชาตินี้บางคนมิสามารถจะได้พบบ้างแม้แต่จะคิด
   ขณะที่ฝ่ายที่เรียกตัวว่ากลุ่มบริหารกำลังสนุกสนานรื่นเริงกันอยู่
   ในสมองของคนที่ฐานะต้อยต่ำทางสังคม
    กำลังถามเสมอๆว่า ใครหลอกลวงกันแน่ จนถึงบัดนี้ยังไม่รู้เลยว่า ใคร ฝ่าย คน ไหนพูดจริง หรือ พูดโกหก กันแน่ ใครโกงกันแน่ ใครชั่วกันแน่ 
    บางคนก็ถามตนเองว่า จะเชื่อมั่นในตัวเจ้านายต่อไปดีละหรือ หรือจะเบี้ยวกันสักทีก็ดี
    บางคนก็มองไปทางซ้ายทางขวาและเริ่มจิกตัวอื่น
    ความหวังของคนจน ก็หวังว่าจะได้รับความสุข
    แต่แล้วก็แป่วววว
    ต่อไป ....จะไม่เชื่อใครอีกแล้ว บรรดาชาวชนชั้นรากหญ้าตะโกนกันลั่นในความเห็นด้วย
    เราจะไม่โง่จนเจ็บอีกต่อไป ใช่ไหม.....ใช่ๆๆๆๆๆเสียงขานรับกันระงม
    การเริ่มต้นไม่เชื่อก็เป็นจุดเริ่มต้นของการโง่จนเจ็บ หรือเป็นบันไดขั้นแรก
    โปรดเชื่อผม เลือกผมเถิด ผมจะทำให้ชาวบ้านมีสุข 
    ชาวบ้านทุกคนเริ่มเฮไปลงคะแนนให้กับไอ้เจ้าผีบุญตัวใหม่				
27 พฤษภาคม 2551 10:02 น.

ในอ้อมอกร้อนๆ

สะพั่งสะท้านไมภพ

ชายแดนภาคใต้ที่ยังระอุอุ่นด้วยกลิ่นดินระเบิด 
   ลูกน้องทหารช่างวิ่งเข้ามารายงาน 
   ผู้การครับ มันเป็นระเบิดปลอมครับ
   ผู้การสะพั่ง ที่นายชอบเรียกว่า ไอ้สะเพ่า พยักหน้า และเดินนวยนารถเข้าไปยังจุดที่ตรวจแล้วว่าเป็นระเบิดปลอม พร้อมๆกันนั้นโบกมือเรียกนักข่าวหลายๆฉบับ รวมทั้งนักข่าววิทยุโทรทัศน์เข้ามาดูด้วยเป็นกลุ่มใหญ่
   สักพักก็มีเสียงตูมสนั่นควันขโมงโฉงเฉง
   ทหารก็หมอบกันหมด
   สักพักทหารก็เอาเชือกมาผูกขาผู้การสะพั่งแล้วลากออกมาห่างจากจุดเดิมยี่สิบห้าเมตรแล้วก็พาตัวโทรมไปด้วยเลือดขึ้นไปไว้บนกระบะปิ๊คอัพ สักพักลูกน้องจ่าคนเดิมก็ถูกมาวางไว้ข้างๆรถกระบะ
   สะพั่งยังมีลมหายใจอยู่อย่างรวยริน และเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นลูกน้องจ่านอนข้างๆ อาการไกล้เคียงกัน พอเขาลืมตาขึ้น
   สะพั่งก็หัวเราะ ไงจ่าไหงบอกว่าปลอมไง
   จ่าครางด้วยความเจ็บนิดหนึ่งแล้วตอบว่า ผู้การเป็นไงบ้างครับ
   สะพั่งมองดูที่จุดยุทธศาสตร์ของตนและของจ่า ต่อไปก็มองขา และมองมือ 
   สะพั่งถอนหายใจ เออโชคดีวะที่ยังอยู่ครบทั้งคู่
   เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ๆรถปิคอัพก็พามาส่งที่โรงพยาบาล ปรากฏว่านักข่าวกลุ่มนั้นมานอนด้วยกันเรียงรายเต็มห้อง พอเห็นท่านผู้การสะพั่งตัวดี ก็เลยถามไถ่กันใหญ่ เป็นไงท่านผู้การ
   สะพั่งหัวเราะเคี๊ยก ยังไม่ทันให้สัมภาษณ์เลยโดนซะก่อน สัมภาษณ์กันตอนนี้เลยมะ
   นักข่าวทั้งหลายต่างก็รุมโห่ลั่นห้องพยาบาล
   สะพั่งก็ยิ้ม ในยามทุกข์ยามยากลำบากด้วยกัน ทหารไทยและคนไทยย่อมจะเป็นมิตรอบอุ่นอย่างนี้แหละ
   สะพั่งอมยิ้ม
   บรรดานักข่าวเมื่อเห็นผู้การสะพั่งอมยิ้มก็นึกในใจว่าท่านคงจะขวัญดี
   แต่หากว่ามีคนรู้ถึงจิตใจของน้าสะพั่งแล้วจะรู้ได้ว่า
   หนึ่งสะพั่งคิดว่า เอาละโว้ยเทอมนี้ได้เก้าขั้นละวะ
   สองได้เหรียญชายแดน ประดับด้วยเปลวระเบิด
   สาม ได้กลับไปอ้อนเมียที่บ้าน
   สี่ ถ้าโชคดีได้เป็นวีรบุรุษแล้วโว้ย
 ผ่านไปอีกหกเดือน
   เอ้าผู้หมวด เป็นยังไงบ้าง ไหนจับมือหน่อยซิ
   อดีตจ่าโดนระเบิดยื่นมือมาจับ แล้วยิ้ม แล้วผู้การละครับเป็นอย่างไรบ้าง
   สะพั่ง หัวเราะเคี๊ยกๆ ก็ยังดีและครบวะ
   แล้วผู้หมวดจะไปทำงานแบบเดิมอีกไหมครับเนี่ย
   อ๋อแน่นอนครับผู้การ คราวนี้ได้เป็นผู้พันแน่
   เฮ้ยเอาแน่หรือ
   เอาแน่ครับ
   เอางี้ดวงเรามันสมพงษ์กันเด๋วค่อยเจอกันอีก
  อีกสามเดือนผ่านไป
   นายครับ ระเบิดปลอมอีกแล้วครับ
   ผู้การพั่งมองหน้าอดีตจ่าเพิ่งกลายเป็นผู้หมวด แน่ใจแล้วหรือ
   โธ่แน่ใจสิครับท่าน
   เอาวะ สะพั่งโบกมือเรียกนักข่าวเข้าไปอีก
   แต่คราวนี้ไม่มีใครยอมมาสักคน
   สะพั่งหัวเราะเคี๊ยกๆ มองหน้าผู้หมวดกระดูกเหล็ก
   เห็นไหมหมวดเขาไม่ไว้ใจผู้การแล้ว
   ผู้หมวดหัวเราะ แล้วผู้การละจะเข้าไปดูกันอีกไหมเพื่อขวัญและกำลังใจลูกน้อง
   สะพั่งมองหน้าแล้วชั่งใจ
   คราวที่แล้วได้น้อยไปหน่อย แต่ก็เพียงพอแล้วมั๊ง
   เอางี้ผู้หมวด ผู้การมิได้ไว้ใจผู้หมวด เพียงแต่ เพียงแต่ อ้อ วันนี้มีประชุมด่วนพอดี
   ขอญาตเผ่นไปประชุมก่อนละกัน
   ผู้หมวดหัวเราะเคี๊ยกๆๆ เมื่อเห็นสะพั่งนั่งรถจี๊บบึ่งกลับไปยังกองบัญชาการ
   เมื่อผู้การสะพั่งได้มาถึงกองบัญชาการ ก็ได้รับข่าว
   ระเบิดลูกที่หนึ่งปลอม ลูกที่สองไม่ทำงาน แต่ลูกที่สามมันเล่นแตกอากาศเลย
   สะพั่งนึกถึงรอยยิ้มของผู้หมวดที่เพิ่งเห็นกันหลัดๆ
   สะพั่งก็นึกปลง
   แล้วก็รีบขับรถไปโรงพยาบาล
   ใหห้องพยาบาล สะพั่งแทบไม่เชื่อสายตาปรากฏว่าผู้หมวดคนนั้นยังนอนยิ้มเผล่อยู่บนเตียงเลือดโทรมเต็มกายเหมือนเดิม
   สะพั่งดีใจรีบไปจับไม้จับมือ แล้วมองดูองคายพส่วนสำคัญ
   เฮ้ย ไอ้หมวด มึงอยู่ครบ
   ผู้หมวดยิ้มกึ่งฝัน ผมบอกผู้การแล้วใช่ไหมครับ ว่าให้เข้าไปด้วยกัน
   คราวนี้ผู้พันแน่ ผู้หมวดคนนั้นยิ้มแล้วสลบไป
   ผมสะพั่งในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาของเขา นึกสลดในใจ ที่จะต้องโกหกลูกน้อง แต่อย่างไรก็ตามเขาได้ความปลื้มปิติจนกระทั่งเขาหมดลมหายใจ
   ผมสะพั่งยืนตะเบ๊ะให้เขาตอนที่ใส่ดอกไม้จันทร์หน้าเตา
   เสียงเพลงแตรเดี่ยวบรรเลงอย่างโหยหวน
   น้ำตาของผมไหลมานิดหนึ่งแก่ทหารกล้าอีกคนที่ต้องจากไป
   ไปดีเถอะผู้การ ครับ ผู้หมวดคนนั้นได้เป็นผู้การแล้ว 
   สะพั่งนั่งคิดในใจ เมื่อไหร่จะหมดภารกิจอย่างนี้สักที
   แล้วสะพั่งก็นั่งรถจี๊บออกไปปฏิบัติภารกิจต่อไป
   เมื่อถึงจุดที่มีการวางระเบิดอีกครั้งหนึ่ง จ่าคนใหม่ก็วิ่งเข้ามารายงาน
   เป็นระเบิดปลอมครับท่าน
   ผู้การสะพั่ง มองหน้าจ่าคนใหม่ แล้วเริ่มต้นหัวเราะเคี๊ยกๆ
   แล้วจูงมือจ่าคนใหม่และเรียกลูกน้องออกมาห่างๆ 
   สะพั่งว่า ต่อ พนันกันไหมจ่า เดี๋ยวก็ระเบิดจริง				
26 พฤษภาคม 2551 20:52 น.

มึนหัวจัง

สะพั่งสะท้านไมภพ

มันไม่รู้ว่าจะไปเดินขบวนทำไม
ไปให้เขาถ่ายรูปหรือ ไปให้เขารู้ว่าตัวเชียร์ข้างไหน
ไม่แน่ว่าอาจรับค่าจ้างไปเดิน
ไม่ก็อยากเป็นไทยมุง เพราะว่าทีวีไม่ถ่ายทอด
ไม่ก็อยากดังเพื่อจุดเริ่มต้น
อีกหลายเหตุผลร้อยแปด
   ทำไมผมไม่ไปกะเขาบ้าง
   หรือสะพั่งเป็นคนไม่มีอุดมการณ์
   สะพั่งได้ยินคำถามก็หัวเราะเคี๊ยกๆ
   เอาเป็นว่าไม่มีเลยก็แล้วกัน พั่งตอบ เน้นบ่จี๊ว่ะ
แล้วพี่ไม่คิดจะไปทางฝั่งไหนบ้างเหรอ
พั่งตอบว่า ไอ้บ้า อย่าโง่นัก
อ้าวพี่ทำไมว่าผม
เอาน่าที่ว่าอย่าโง่ก็คือ ข้างไหนมากๆจึงจะไปด้วย
ผมไม่นึกเลยว่าพี่จะมีนิสัยอย่างนี้
ไอ้บ้า...เด๋วนี้เขาทำอย่างนี้กันทั้งนั้นแหละ...สะพั่งตอบแล้วค้อน
.........
นายก...เอจะทำอย่างไรดี
คนสนิท...ไม่ต้องทำอะไรครับ เดี๋ยวมันก็ออกมา
.........
สักพักเห็นทหารปีนรั้วออกมาจากกรมกอง
ไอ้พวกเดินขบวนเห็นก็เข้าไปทัก
อ้าวไอ้น้องจะไปไหน
แล้วพี่ละจะเดินขบวนถึงเวลาไหนกัน
น้องจะแอบหนีไปคลายความเคลียดสักเล็กน้อย
พี่ก็จะเดินขบวนเล่นๆสักพักเด๋วก็เผ่นแล้ว
...............
ผู้บัญชาการทหาร...เอาไงดีละ
ลูกน้องหมายเลขหนึ่ง....ก็ต้องทำแต่รอแป๊บนึง
ลูกน้องหมายเลขสอง....ผมว่าได้ทีแล้วนะ
ผู้บัญชาทหาร....เออเอาก็เอา
.........................
   ในสถานนางโรมแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
   เอ้าเพ่ วันนี้ไมมาได้
   เฮ้ย มันก็ต้องมีวันคลายเคลียดบ้างละวะ
   จำหน่ายเมียว่าอย่างไรเล่าพี่
   คิกๆ จำหน่ายว่า มาเดินขบวนวะ
   เอ้าแล้วพี่บอกว่าจะอยู่ข้างไหน
   อุวะไอ้นี่มัวคุยอยู่ได้ กรูก็อยู่ข้างเด็กไง อ้าวยังงงอีก รีบไปตามมา
.................
เมื่อเดินออกมาจากอาบอบนวด
เป็นไงนายสบายดีไหม
เออรู้งี้มาตั้งนานแล้ว
อ้าวไม่เคยเข้ารึครับ
เคยซิวะ แต่ไม่เคยเข้าฟรีวะ 
.................................
อ้าวฟังตั้งนานนึกว่าเรื่องเดินขบวน
เปล่าซักหน่อยไอ้เรื่องนั้นมันไม่เห็นประหลาด
เดี๋ยวก็ปฏิวัติ เดี๋ยวก็เลือกตั้ง
มันธรรมดาวะไอ้น้อง
ว่าแล้วทหารสี่คนก็ชวนไปหาร้านข้าวต้มกินต่อไป
.......................				
24 พฤษภาคม 2551 22:25 น.

เจี๊ยก

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมเห็นเธอนั่งพิงตู้กระจกคนเดียว
   ผมกะแค่นั่งกินเบียร์ และดูว่าผลกระทบจากการกัดกันทำให้ชาวบ้านต้องมาเป็นหมอนวดแผนโบราณกันเยอะขึ้นหรือไม่อย่างใด
   เมาแล้วก็มึน
   ผมพาเข้าห้องนวด
   นวดไปนวดมา ก็เพราะความอยากรู้
   ผมเห็นความละโมภ ดูดทรัพย์ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
   ผมยิ้มหมดไปหลายตังค์ แต่ก็ได้รับคำตอบที่สงสัย
   ผมเบื่อกับการดื่ม ที่ทำให้จิตใจไขว้เขว

   แต่ทว่าสิ่งที่ผมได้รับกลับ
   นั่นคือรู้แล้วว่า ตัวตนของตนเองนั้นมันน่าเบื่อมากแค่ไหน
   การเสียเงินไปจำนวนมาก ทำให้ผมต้องคิดและลอง
   ผลจากการลอง ก็ทำให้เกิดหนทางไปได้และเห็นแสงรำไร
   ขอบคุณความบ้าของผมเองที่ทำให้ได้คำตอบและหนทางที่จำเป็นต้องเดิน

   ชีวิตของผู้หญิงที่ต้องทำใจยอมรับอาชีพที่ไม่มีใครอยากจะทำ
   แต่ทว่าต้องทำเพื่อตอบแทนคุณและเลี้ยงดูบุตรที่ไม่เคยรู้ว่าเงินที่แม่เขาหามาได้มาจากไหน
   แม้จะใช้วิชาฝีมือ หรือ เอาใจจนแขกเคลิ้มแล้วได้ตังเยอะ
   แต่ก็จำเป็นต้องกระทำเพื่อความอยู่รอดของตนเอง
   ส่วนที่หาไว้เพื่อการสำเริงสำราญและอวดรวยจะไม่พูดถึง
   แม้ว่าพวกเธอจะทำงานที่พวกผู้ดีรังเกียจ
   แต่ทว่ามองให้ลึกๆแล้ว
   ก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร

   หน้าที่ครับ หน้าที่ที่ทุกคนต้องกระทำ
   ใครทำอะไรไว้หากพิจารณาดีๆแล้วก็จะต้องได้รับผล
   เช่นทำข้อสอบผิด ผลที่ได้รับออกมาก็ต้องผิด แต่อาจารย์อาจตรวจแล้วว่าถูก 
   รถเมล์ที่จะต้องจอดตรงป้ายเป๊ะทุกครั้ง และคนขับก็ต้องการสอนคนขึ้นรถเมล์ว่าต้องไปขึ้นตรงป้ายเท่านั้น
   ตำรวจที่เป่านกหวีดชี้นิ้วให้รถตู้รถเมล์จอดตรงที่กำหนด 
   เจ้าหน้าที่ทหารที่เข้มงวดกวดขันและจริงจังต่อการรักษาความปลอดภัย หรือตรงเป๊ะจนรู้สึกได้
   หรือพวกป่าไม้ที่ตรงเป๊ะจนตาย
 
   อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น
   ไอ้พวกที่ดูว่าดีอาจไม่ดีหรือไม่มีดีเลยก็ได้
   หากสักวันเมื่อคนคนหนึ่งเริ่มเห็นความจริง
   วันนั้นแหละครับ ประเทศก็จะดีขึ้นมานิดหนึ่งเท่านั้น

   ขอเทิดทูนกำลังพลที่ยังคงเชื่อมั่นและกระทำงานด้วยความจริงใจ
   ทุกคน หากไม่เข้าใจอะไรเพียงพอ ก็จะยังต่อว่าข้าราชการเช้าชามเย็นชาม
   วิกฤตมาแล้ว
   การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น
   ไก่ขาวในเข่งก็กำลังจิกกันอยู่
   ประเทศเพื่อนบ้านโบกมือให้เราแล้วลิบๆ
   ก็หวังว่าจะมีชีวิตรอดได้ในวันพรุ่งนี้
   การหายใจไว้ก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับปัจจุบัน
   เกิดมาทำไมรึ
   เกิดมาสร้างหนี้ และใช้หนี้ธนาคาร
   เจ้ากรรมนายเวรไม่ค่อยกลัว
   กลัวเจ้าหนี้มากกว่า
   หวังว่าชาติหน้าจะเกิดเป็นเจ้าหนี้กะเขาบ้าง
  
   มีเพียงโน๊ตบุคตัวหนึ่งระบายความในใจ
   ร่างกายใจเหน็ดเหนื่อยหน่ายแทบจะไม่มีแรงต่อสู้แล้ว
   กำลังใจก็หวิวๆ หลายคืนนอนไม่หลับ
   ลูกๆหลายๆคนไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตนเครียดแค่ไหน
   สวดมนต์นั่งสมาธิช่วยให้ตัดความกังวลไปได้
   แต่ไม่มีทางแก้ปัญหา
   แต่พอมีปัญญาเกิดขึ้นแล้วอย่างน้อยก็พอแก้ปัญหาได้บ้าง
 
   เจี๊ยกๆ ลิงร้อง แต่คนส่วนมากร้องโหยหวนในใจ				
22 พฤษภาคม 2551 08:13 น.

ไอ้สุนัขรับใช้

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมเก็บข้าวของใช้ส่วนตัวลงกล่อง แล้วเดินออกไปเพื่อไปอำลานาย 
พี่ครับ ผมขออนุญาตลาแล้วครับ
ขอบคุณนะ พั่ง ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
   ผมว่าผมใจคอมั่นคงแล้วนะ ไม่ยึดติดแล้วนะ แต่ทว่ามันก็รู้สึกว่าน้ำตาของลูกผู้ชายกำลังจะทะลักออกมาอย่างเขื่อนแตก ผมรีบเดินเข้าห้องทำงานผมโดยหวังว่าทำนบน้ำตาจะหลั่งไหลออกมาโดยไม่มีใครเห็น แต่ทว่าน้ำตาไม่ได้ไหลออกมามากอย่างที่คิด น้ำตาหยดสองหยดเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชาย
   เมื่อจิตใจสงบลงผมก็ออกไปอำลาลูกน้องหน้าห้อง ลูกน้องเท่าที่จะอำลาได้ แล้วก็ใช้ลูกน้องให้ยกของเอาไปใส่รถ แล้วผมก็ขับรถมาสดาสามสองสามจีแอลเอ็กซ์สีเทาดำ กลับบ้าน และเปิดเพลง ....กลับบ้านเรา.....รักรออยู่.........ไม่มีงานเลี้ยงอำลาอีกแล้วเหมือนๆกับหลายๆที่ที่ไม่มีแม้แต่พิธีจะอำลา
   ผมสะพั่ง สะท้านไมภพ ความจริงก็เตรียมตัวเตรียมใจรับกับความไม่ก้าวหน้ามานานแล้วด้วยวิธีการทำงานของผม แต่ทว่าการหลงลืมตนไปก็ทำให้ตัวเราหลงทางหลงคิดออกนอกลู่นอกลอยไป 
   พั่งใหญ่เจ้านายผมเก่า ท่านเคยบอกว่า หากสมองไม่ดีก็ให้ออกกำลังกายให้แรงดีไว้ก่อน หรือถึกไว้ก่อน เอ้านึกได้ก็เลยวิ่งตอนเช้าทุกวันๆละหกกิโล เดินอีกสองกิโล เมื่อมีแรงดีแล้วเอาละวะแต่งตัวไปหานายเก่าคือ พั่งใหญ่ ๆ กำลังมีงานมากมาย แกเดินผ่านผม ทักคำเดียวแล้วก็เดินผ่านไป 
   ผมว่าจะรอ แต่ทว่าประดาหน้าห้องพูดทำนองไม่อยากให้อยู่รอนายต่อไปนัยว่าเสียเวลาเปล่าๆ ผมสะพั่ง สะท้านไมภพ ตัดสินใจว่าจะกลับ และจะไม่กลับมาเหยียบอีก 
   เวลาได้ดีแล้วก็ไม่ค่อยใส่ใจกับลูกน้อง ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับลูกน้อง หรือเห็นว่าเป็นเพียงแค่สุนัขรับใช้ขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
   ผม สะพั่ง หัวเราะเยาะตัวเอง แต่ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ได้ลองแล้ว แม้จะไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ก็น้าพั่งใหญ่แกสอนผมไว้เอง ผมก็ใช้หลักการของแกสร้างผลงานที่ตื่นตะลึงมานักต่อนักแล้ว ผมยักไหล่ และสำนึกดีว่า เบี้ยไร้ประโยชน์มันเป็นเช่นนี้เอง
   เวลาผ่านไปใจคนเปลี่ยนแปร 
   ชีวิตของผมทำตนเป็นสุนัขรับใช้มานาน จนกระทั่งในวันนี้ดีหน่อยเป็นสุนัขหางกุด มีหลวงพ่อเป็นที่พึ่ง วันๆก็ทำมาหากินเล็กๆน้อยๆพอประทังชีวิต และก็มั่นใจว่าอีกหน่อยก็คงจะเข้มแข็งพอที่จะยืนบนลำแข้งของตนเองได้ในฐานะพ่อค้า
   ตั้งแต่ผมละที่จะทำแต่สิ่งที่มีสาระ และตั้งใจจะทำแต่สิ่งที่ไม่มีสาระ
   กลับปรากฏว่า ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิตครับ 
   เดิมผมคิดจะสร้างความสุขให้เกิดในปัจจุบันทุกวัน
   แต่พอตั้งใจทำสิ่งที่ไร้สาระแล้วมันก็มีความสุขทุกวัน
   นอนหลับทุกคืน เมียก็มีความสุข ลูกก็มีความสุข ยังสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวมได้วันละหลายๆครั้ง 
   สุนักหางด้วนอย่างผมก็ตะเหร็ดเตร็ดเตร่ไปตามที่ต่างๆเรื่อยๆตามประสา ของผม หาเช้ากินค่ำไปตามวาสนาพอยาไส้บ้างไม่พอบ้าง 
   และผมไม่สามารถจะเป็นสุนัขรับใช้ได้อีกแล้วเพราะไม่มีหางจะกระดิก ขอบคุณรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ตัดหางให้ผม
   สักวันผมจะใช้สิ่งที่ผมมี สร้างสิ่งที่ผมต้องการ ด้วยสติปัญญาของผมเอง
   ปล.ไม่เข้าข้างคนบ้าครับ จุ๊บๆๆ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ