16 กรกฎาคม 2549 00:57 น.
สร้อยแสงแดง
สมมุติฟ้าเป็นใจให้รักกัน
เธอกับฉันคงสุขสมสโมสร
แล้วไม่ต้องไปรักใครให้เหนื่อยอ่อน
คงเคียงอ้อนเธอฉันฝันทวี
สมมุติว่าเวลาประจวบเหมาะ
เราฉอเลาะคำหวานสำราญที่
แอบกระซิบว่ารักนะคนดี
คงไม่มีอุปสรรคมาปักกัน
สมมุติว่าโลกนี้มีแค่เรา
ก็ไม่เหงาด้วยสัญญานำพามั่น
ถนอมจิตบำรุงใจไว้ทุกวัน
พาสุขสันต์มีเพียงเราเท่านั้นเอง
แต่เจ้าตัวสมมุติมาหยุดนิ่ง
ไม่ไหวติงฝันสลายมลายเคว้ง
ฉีกความหวังเป็นเสี่ยงดั่งเสียงเพลง
ช่างไม่เกรงใจเราเขลาเต็มทน
โอ้เพื่อนเอ๋ยเจ้าสมมุติอย่าหยุดนะ
ช่วยข้าสะสางต่อขออีกหน
อยากรักต่อรักนานเกินการตน
ขออีกคนแล้วคงพอขออีกคน
14 กรกฎาคม 2549 23:46 น.
สร้อยแสงแดง
เมื่อตอนรักก็ชมฟ้าว่าน่ารัก
ฝนตกหนักก็ชมฝนว่าหล่นสวย
น้ำเชี่ยวกรากก็ชมน้ำฉ่ำลำห้วย
จนหรือรวยไม่หวั่นปันน้ำใจ
มองอะไรได้เห็นเป็นดีหมด
โลกใสสดสะพรั่งสว่างไสว
พอหลับตาเห็นหน้าแม่ยาใจ
มาคลอเคลียไม่ไกลหายห่างกัน
ครั้นเริ่มหน่ายแดดอ่อนๆก็ร้อนรุ่ม
ฝนเย็นชุ่มก็ว่าเลอะเปรอะเข้านั่น
มองอะไรขัดใจไร้ชีวัน
เห็นหน้ากันกลับเมินเดินหลีกจร
คนอกหักมักโกรธโทษดินฟ้า
โทษชะตาโทษท้าอย่าว่าสอน
โทษแต่เขาไม่โทษเราเฝ้าว่าวอน
จนสั่นคลอนใจรักที่มักกลาย
13 กรกฎาคม 2549 22:45 น.
สร้อยแสงแดง
คืนเข้าพรรษาฟ้าสุกสกาว
หมู่เมฆขาวล้อจันทร์อยู่ไหวๆ
ศศิธรเปล่งแสงเป็นนวลใย
นภาลัยดูสะพรั่งอลังการ
อยากนับดาวเพ่งมองทั้งสองตา
แสงเดือนจ้าบดแสงดาวฉาน
ดาวจึงด้อยดั่งหิ่งห้อยน้อยใจนาน
เพราะแสงจันทร์แผดผงาดพาดโพยม
แต่ไฉนใยจันทร์ดูพลันเศร้า
ยามที่เมฆตั้งเค้าเข้าถาโถม
จันทร์พลันมืดดาวพลันมิดดั่งปิดโคม
ฝนก็โลมสาดซัดพัดทลาย
จันทร์เจ้าเอ๋ยส่งแสงแรงแค่ครู่
พอฝนพรูจันทร์ก็หลบเลือนหาย
อยากนับดาวมองจันทร์ตลอดไป
แต่นับเดียวเปลี่ยวใจแท้แค่ชั่วยาม
ถ้ามีใครนอนนับอยู่กับอก
ฝนจะตกฟ้าจะเบ่งไม่เกรงขาม
ไม่มีดาวก็ยังนับจับใจตาม
ลมจะลามฝนจะไล้ก็ไม่กลัว
13 กรกฎาคม 2549 13:57 น.
สร้อยแสงแดง
เมื่อแรกเกิดศรรักปักตรงจิต
สุดจะคิดบิดงอพอหลุดถอน
ช่างฝังแน่นตรึงใจไม่โยกคลอน
แล้วเจ็บย้อนนอนซมตรมอุรา
ทั้งที่รู้อยู่ว่ารักษายาก
ยังแอ่นอกรับปากอยากนอกหน้า
โอ้ว่ารักมีพิษจิตชินชา
สุดหายาถอนพิษที่ติดใน
ครั้นเนิ่นนานพิษซ่านผ่านสรรพางค์
รักเริ่มจางพิษเริ่มคลายหายสงสัย
พอเพลาผ่านพาเนิ่นนานไกล
รักก็หายกลายเป็นแหนงแคลงอุรา
นี่แหละหนอคนเราก็เท่านี้
พอยามดีก็หวานกันถ้วนหน้า
ครั้นรักหน่ายไม่แลแม้หน้าตา
รักจึงชาเย็นชืดจืดอารมณ์
แต่ธาตุแท้คนเราเข้าใจยาก
ฝ่าหนามขวากอยากรักกันทั้งนั้น
พอศรปักก็ลุ่มหลงวงชีวัน
พอผ่านฝันแผลหายคลายคงคืน