7 มิถุนายน 2549 01:23 น.
สร้อยแสงแดง
ไม่ยอมเข็ดขยาดประหลาดนัก
เรื่องความรักหญิงชายที่ไหลหลง
ต่างบูชารักแท้แน่มั่นคง
อธิษฐานซื่อตรงลงเกลียวกลม
ครั้นมินานความหวานเหมือนชานอ้อย
เมื่อเคี้ยวบ่อยรสหวานพาลขื่นขม
จนเหลือชานชืดจืดฝืดบรม
หวานเป็นขมมันเป็นเปรี้ยวเหี่ยวห่อใจ
พอโบยบินผินหาเถากาฝาก
ที่เกาะซากดูดซากจากไม้ใหญ่
หลงเพ้อละเมอพล่ามทำย่ามใจ
คว้าเถาไว้แนบจิตหมายคิดปอง
ก็แค่เถากาฝากดั่งกากเดน
ยังไปเห็นหลงใหลใช่เจ้าของ
แค่กาฝากฝากใจให้ชายลอง
แล้วก็ต้องซมซานกลับบ้านตน
6 มิถุนายน 2549 18:35 น.
สร้อยแสงแดง
ตัดอย่างไรไม่ขาดประหลาดนัก
ตัดเรื่องรักจากใจไม่เคยหมด
ว่าจะเลิกเลิกไม่ได้ไม่ราลด
เหมือนเป็นผดผื่นคันมันตอนเกา
นั่งคิดถึงตลึงแลชะแง้ง่า
ไปแอบรักกานดาจนบ้าเขลา
ทั้งที่รู้มีเจ้าของยังลองเดา
นั่งงี่เง่าเจ่าจุกลุกไม่ขึ้น
ต้องซื้อใจให้ได้ไม่ง่ายดอก
ไม่หวังมาปอกลอกฤาขัดขืน
หวังเพียงแต่แค่ฝันทุกวันคืน
ขอเชยชื่นดวงใจไม่จืดจาง
บางขณะแสดงดั่งแกล้งว่า
จวบเวลาดิ้นรนจนรุ่งสาง
บางเวลาแอบชิดไม่คิดห่าง
อ้อนไม่วางออเซาะฉอเลาะนำ
เมื่อใดหนอสาวเจ้าจะเข้าจิต
ว่าพี่คิดถึงเจ้าทุกเช้าค่ำ
เมื่อใดหนอจะเห็นใจไม่ชอกช้ำ
สุดระกำโหยหาจะบ้าตาย
จะเลือกใครก็ไม่บอกเหมือนหลอกเล่น
จะคัดใครเลือกเฟ้นเห็นจุดหมาย
จะให้เพ้อละเมอพร่ำจำจนตาย
โธ่ โฉมฉายปราณีพี่หน่อยนะ
ถ้ามีใจให้กันวันละนิด
คงไม่คิดนอกใจให้สละ
ให้ความหวังอีกนิดคิดถึงจ้ะ
แล้วพี่จะไม่ลดรักหมดใจ