1 กุมภาพันธ์ 2549 00:40 น.
สร้อยแสงแดง
เขาว่าพบไม้งามยามขวานบิ่น
คมก็สิ้นความคมตรมไฉน
ขวานก็บิ่นด้ามก็คุดหลุดหายไป
แล้วจะฟันอะไรสงสัยจัง
ยิ่งได้เจอไม้งามยามตกยาก
ยิ่งลำบากอ่อนล้าพาหมดหวัง
จะผ่าฟืนกลับบ้านฉันกลัวจัง
กลัวเขียงนั่งหน้างอเป็นตอตะโก
พอเลือกดูไม้งามอยู่ตามตู้
ตาก็ดูใจก็นึกตรึกอักโข
คิดว่าเป็นไม้งามตามที่โชว์
อพิโธ่เธอโดนฟันเป็นพันแล้ว
อุตส่าห์แบกขวานวานเขาซ่อม
อุตส่าห์หว่านล้อมไปหลายแก้ว
จึงลากขวานคู่ใจไปเป็นแนว
คนเขาฟันเอาไปแล้วแก้วตาตู
31 มกราคม 2549 14:16 น.
สร้อยแสงแดง
โอ้ลมหนาวโชยเอื่อยเลื้อยลัดป่า
แทรกพนาเซาะดอยดูหงอยเหงา
เปลวหมอกแผ่คลุมครึ้มดูซึมเซา
เพียงสองเราเดินคล้องประคองเคียง
สุริย์สีสิ้นแสงแฝงภูผา
ศศิธรหลบหน้าลับตาเลี่ยง
มีแต่ดาวพร่างพราวนภาเพียง
ที่มาเรียงล้อเราไม่เหงาใจ
ไม่อยากให้คืนนั้นมันสิ้นสุด
แต่จะให้ใครฉุดก็ไม่ได้
ได้แต่เพียงมองตาด้วยอาลัย
มิอยากให้วันเดือนเคลื่อนไปเลย
เมื่อใดหนอจะได้กลับมารับขวัญ
ชื่นชีวันขวัญชีวีของพี่เอ๋ย
เมื่อใดหนอจะได้กลับมาชื่นเชย
อิงเขนยโอบกระหวัด รัดนงคราญ
31 มกราคม 2549 14:13 น.
สร้อยแสงแดง
จะปลูกสักในป่าสนให้เป็นสน
เปรียบเหมือนคนแปลงชาติประหลาดนัก
ปลูกอย่างไรก็มิได้ดั่งตระหนัก
สักคือสักสนคือสนอย่าปนกาล
อยู่ด้วยกันได้ไหมใคร่จะรู้
มันก็อยู่ที่ดินถิ่นอาหาร
จะดัดแปลงอย่างใดไม่ได้การ
เพราะพงศ์พานว่านเครือไม่เอื้อเอย
31 มกราคม 2549 09:07 น.
สร้อยแสงแดง
เธอคือใครจากไหนฉันไม่รู้
มาผลุดอยู่ตรงกลางหว่างใจฉัน
เธอเป็นใครมาจากไหนไม่สำคัญ
เพราะว่าฉันมั่นใจในตัวเธอ
ขอขอบคุณสิ่งดีๆที่มีให้
ขอมอบใจใว้ให้เธอเสมอ
แม้ว่าเราไม่ประสพเคยพบเจอ
ฉันก็เพ้อรอคอยน้อยใจจัง