10 มิถุนายน 2553 14:43 น.
สมภพ แจ่มจันทร์
เธอคือคนที่ฉันนั้นฝันหา
ทุกเวลาทุกค่ำคืนที่คิดถึง
เธอคือคนที่ฉันเฝ้าคำนึง
คิดถึงเธอทุกคืนวันที่ผ่านมา
เธอคือรักแน่วแน่ไม่แปรผัน
เธอคือคืนและวันที่ฉันหา
เธอคือทุกๆ อย่างที่ผ่านมา
เธอมีค่ามากกว่าสิ่งใดๆ
เธอคือรักทั้งหมดที่ฉันมี
เป็นคนที่เปี่ยมล้นด้วยความหมาย
เป็นผู้สร้างชีวิตและกายใจ
เป็นผู้ให้อนาคตแห่งชีวี
ทุกทิวาราตรีเคยอยู่ใกล้
ยามที่ไกลจากกันฉันฝันหา
เธอคือมิตร คือเพื่อน มิ่งมารดา
เป็นผืนน้ำ แผ่นฟ้า ปฐพี
หากวันนี้จักได้ทดแทนคุณ
ที่เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงตราบวันนี้
แม้น้อยนิดจะตอบแทนคุณความดี
จะบอกว่าฉันนี้รัก...รักเพียงเธอ
10 มิถุนายน 2553 14:35 น.
สมภพ แจ่มจันทร์
ไหลเรื่อยเอื่อยล้นฝั่งนที
หล่อเลี้ยงชีวีมาช้านาน
ลัดเลาะเซาะฝั่งห้วยละหาน
แหวกม่านเมฆหมอกล่องลอย
อรุณรุ่งพุ่งแสงกระทบน้ำ
ประกายงามพริ้วไหวในกระแส
วันเปลี่ยนไปแต่สายน้ำไม่ผันแปร
ยังไหลเรื่อย ไม่เชือนแชในผู้ใด
ตามวิถีชีวีที่ผกผัน
แต่ละวันเป็นลำนำสายน้ำไหล
บอกเรื่องราวชีวาอันยาวไกล
ที่แฝงไว้ในน่านน้ำลำวารี
ยามอาทิตย์อัศดงลงลาดับ
แสงจันทร์จับวับวาวสกาวใส
ระลอกคลื่นฝั่งโขงบอกความนัย
เก็บเกี่ยวเรื่องราวไว้ในนาวา
5 มิถุนายน 2553 15:26 น.
สมภพ แจ่มจันทร์
ยอดหญ้าเสียดแทงแข่งผกา
ผลิดอกมาเย้ยหยันให้อดสู
นึกผยองกระหยิ่มยิ้มเจ้าพธู
ว่านี่กูสวยสดกว่าผู้ใด
ยิ่งผลิดอกออกโฉมโลมเล้าโลก
มิได้โศกเศร้าหมองมองช่อไหน
ยามแยกแย้มผลิดอกและออกใบ
เจ้านั้นไซร้มิกริ่งเกรงในภัยพาน
หอมกรุ่นกลิ่นเกสรชวนนอนฝัน
มิรู้วันจาบัลนั้นเพรียกหา
หลงระเริงในตัวตนม่านมายา
ว่าตัวข้าดอกดวงไม่ร่วงโรย
หมู่ภมรชอนไชในร่านรส
มีมีหมดสักวันเจ้าหลงใหล
ฝูงผีเสื้อเชยชมเลยผ่านไป
กี่ทิวาแล้วไซร้ให้ดอมดม
เมื่อผลิดอกแล้วนั้นให้ผันผ่าน
ไม่เหมือนกาลก่อนเก่าเจ้าเฝ้าหา
ยามโรยร่วงห่วงรูปที่ติดตรา
ตรึงวิญญาเจ้าไว้ในห้วงกล
แม้สายลมเพียงพัดเจ้าปัดปลิว
ลอยลิบลิ่วตามกระแสที่แปรผัน
ร่วงหล่นแล้วแก้วตาบุปผาพันธุ์
มิมีวันจิรังและยั่งยืน
24/1/03 บ้านผู้นำ
5 มิถุนายน 2553 14:25 น.
สมภพ แจ่มจันทร์
ต้นกล้าเขียวขจีเมื่อมีน้ำ
จะชูรวงพลิ้วงามเมื่อฉ่ำฝน
ที่เติบใหญ่ขึ้นมาเพราะมือคน
จึงให้ผลผลิตชนิดงาม
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกลิ่นสาบควาย
หยัดร่างกายเพื่อนชนในสยาม
เพื่อให้มีข้าวกินในทุกยาม
สู้กับความจนยากลำบากนาน
กว่าจะกรำแดดฝนคนปลูกข้าว
มือจับเคียวอันเก่าและคันไถ
ต้องลงแรงลงมือและร่วมใจ
เพื่อความหวังที่คาดไว้ ข้าวในนา
ถึงจะได้เม็ดข้าวที่ขาวผ่อง
ให้พี่น้องลิ้มรสเลิศอาหาร
ซึ่งหล่อเลี้ยงพี่น้องมาช้านาน
เพื่อสืบสานตำนานเม็ดข้าวไทย
เพราะนี่คือกระดูกสันหลังของแผ่นดิน
น่าเชิดชูทั้งสิ้นทุกเขตขันธ์
วันหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปแต่ละวัน
แต่พวกเขาเหล่านั้นยังคงเดิม
5 มิถุนายน 2553 13:58 น.
สมภพ แจ่มจันทร์
ทะเลซัดครืน ครืน คลื่นลม
โหมกระหน่ำถั่งโถมลมบ้า
น้ำสีครึ้ม เมฆสีหม่น คอยบังตา
ดั่งน้ำและฟ้าจะทะลุทะลวง
ละอองน้ำสาดกระเซ็นเห็นเป็นฟอง
ดุจใยยองปุยเมฆยามฟ้าสาง
ยิ่งเพ่งพิศยิ่งสาดซัดพื้นทรายงาม
ไม่เหลือความอ่อนโยนของทะเล
สายลมบางเบาหายไปสิ้น
รอบข้างเหมือนจะกินกลืนไปทั่ว
ดุจเสียงร้องก้องคำรามดูน่ากลัง
อยู่ในความมืดมัวของรัตติกาล
แม้จันทร์เจ้าจะทอแสงเปล่งลงมา
จากฟากฟ้ากระทบลงบนผิวน้ำ
แม้จะช่วยแต่งแต้มให้งดงาม
มิบรรเทาความบ้าของราตรี
29/4/99
หาดแสงจันทร์ ระยอง