10 ตุลาคม 2548 22:02 น.
สนสามใบ
.....ถึงสิ้นเดือน ชวนเพื่อน แสนสนิท
ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นให้มึนหัว
ทิ้งความโศกความเศร้าออกจากตัว
ไปเมามัวกับสุราน่าเพลิดเพลิน
......เมื่อได้ที่ก็มีเรื่องนินทา
หมดวาจาก็พาเมียมาสรรเสริญ
กล่าวอย่างนั้นอย่างนี้ที่จำเริญ
ไม่มีเขินเรื่องว่านินทาเมีย
....เมาแล้วพูดไม่หยุดยั้งตั้งฉายา
เมียของข้าอีหอยคอยปากเสีย
ด่าเจ็ดวันไม่ซ้ำไม่อ่อนเพลีย
เอาขวดเบียร์ไล่ตีทุกวี่วัน
..... หากวันนี้กลับไปไม่เปิดประตู
มึงคอยดูเถิดผองลองฤทธิ์ฉัน
คอยดูเพื่อนคอยดูก็แล้วกัน
จะล๊อคบ้านขังเมียกูอยู่ข้างใน
....ให้มันหลับทรมานอานทั้งคืน
นอนสะอื้นคนเดียวเปลี่ยวหัวใจ
นอนเหว่หว้าปวดร้าวจนหนาวตาย
กูสบายหน้าประตูนอนดูมัน.........
2 ตุลาคม 2548 23:06 น.
สนสามใบ
.....ดวงตะวันหันหัวลงในพงไม้
แสงรำไรใกล้หมดลดตรงหน้า
บินขวักไขว่เสียงก้องของนกกา
ต่างถลาพากันหันกลับรัง
.....ถึงยามค่ำย่ำมาอีกคราแล้ว
โอ้น้องแก้วลารับไม่กลับหลัง
จากพี่ไปปล่อยให้หลงวงภวังค์
หมดสิ้นหวังห่างไกลสุดใจพา
.....ด้วยความจนทนทุกข์ยากลำบากแท้
สุดจะแก้ความจนทนทุกคลา
แบกหามทำงานหนักไม่พักลา
ได้เงินตรามาประทังยังไม่พอ
.....ด้วยเหตุนี้เจ้าจึงจากพรากหนีไกล
ไม่อาลัยความหลังดั่งเดิมหนอ
หนีพี่ไปหาใหม่ไม่รั้งรอ
ไปพะนอสบายแสนแดนสุขี
.....ในเมืองหลวงควงหนุ่มหน้าสดใส
เป็นเพชรไพรอยู่ในวงษ์ดงเศรษฐี
จากเด็กบ้านนาสู่ป่าคนมี
เปลี่ยนชีวีได้ทุกอย่างดั่งใจหมาย
.....หากวันใดหมดสิ้นทุกสิ่งหวัง
จงหันหลังกลับถิ่นที่เกิดกาย
กลับบ้านนากลับมาไม่ต้องอาย
ตัวพี่ชายจะรอรับซับน้ำตา .....