27 ธันวาคม 2548 08:52 น.
สนสามใบ
.....ห้องนอนนี้เคยมีเจ้าเคียงใกล้
เคยลูบไล้ก่อนนอนออดอ้อนหวาน
เคย..หยอกล้อต่อเอินมาเนิ่นนาน
แล้วบันดาลให้เห็นเป็นสวรรค์
.....ที่นอนนี้พี่เคยได้หนุนตัก
ของคนรักแอบอิงไม่ทิ้งกัน
เคยสัญญาว่าจะอยู่คู่นิรันดร์
แม้นคืนวันจะผ่านแปรผันไป
.....แต่วันนี้ไม่มีเจ้าอีกแล้ว
เพราะน้องแก้วของพี่หลีกหนีหาย
จากห้องน้อยที่อยู่ดูอับอาย
ไปสบายกับหนุ่มที่ทุ่มเงิน
.....ต่อแต่นี้คงไม่มีน้องเคียงคู่
สุดอดสูดวงใจที่เขาเมิน
จะหันดูทางไหนก็ไม่จำเริญ
เหมือนเราเดินลงต่ำจมน้ำตาย
.....ห้องนอนนี้มีคนต้องทนช้ำ
สุดกลืนกล้ำชีวาว่าจะวาย
ห้องนอนนี้แสนเศร้าและเดียวดาย
ใจสลายสุดกู้ให้อยู่คืน
.....สนสามใบ....
21 ธันวาคม 2548 23:16 น.
สนสามใบ
....ณ.ดินแดนแสนไกลในไพรโพ้น
มีผู้คนไม่หลายอยู่ชายป่า
อ้อมล้อมรอบแลเหลียวดูเขียวตา
และผืนนาปลูกข้าวของชาวดอย
.....ยังมีสองตายายใกล้ถึงฝั่ง
แต่ก็หวังยังชีพไม่รีบถอย
ปลูกต้นข้าวหลายไร่มิใช่น้อย
แล้วก็คอยเก็บเกี่ยวเฉลียวใจ
....ในป่าไม้กิ่งดกมีนกกระจาบ
เกาะกิ่งราบกาบเกลี้ยงส่งเสียงใส
รวมเป็นฝูงหลายคู่เป็นหมู่ใหญ่
คอยบินไปหากินตามถิ่นฐาน
....เช้าขึ้นมาหาข้าวที่ตาปลูก
เอาเลี้ยงลูกกินเกลี้ยงแล้วเลี้ยงหลาน
สามัคคีอิ่มทั่วทุกตัวทาน
สุขชื่นบานอ้วนพลีดีมากมาย
.....จะกล่าวถึงตายายให้โมโห
นักเลงโตบินข้ามหยามกันได้
พวกลูกดกนกกระจาบไม่กลัวตาย
น่าไม่อายแอบแย่งไปแบ่งปัน
.....จึงคิดแผนสุดแค้นอย่างเหลือหลาย
ใช้ตาข่ายดักปลามาขึงกั้น
สองตายายคนแก่ยักแย่ยัน
ต่างช่วยกันขึงเสร็จสำเร็จไป
.....นกกระจาบไม่ทราบมาแต่ก่อน
ว่านาดอนตอนนี้นั้นมีภัย
ต่างโผผินบินตามอย่างย่ามใจ
พาเรียงรายติดแหแย่เต็มที
.....นกกระจาบหลายตัวสุมหัวคิด
ที่เราติดอย่าท้อแท้ทางแก้หนี
จงช่วยกันยันบินอย่างเต็มที่
สามัคคีพร้อมเพรียงอย่าเกี่ยงกัน
......คิดดั้งนั้นจึงช่วยกันอย่างเข้มแข็ง
ต่างออกแรงขยับปีกอย่างแข็งขัน
ฮุยเลฮุยลุยหิ้วแหที่ขวางกั้น
ขาดสะบั้นหลุดพ้นกลตายาย
.....กลับถึงรังนั่งสุมหัวรวมตัวคุย
เรื่องที่เราไปลุยผ่านตาข่าย
ต่างก็แกร่งแย่งความดีที่รอดตาย
จนวุ่นวายไม่มีใครยอมลงกัน
.....นกตัวโตพูดมากปากสว่าน
เป็นเพราะฉันร่างใหญ่ให้แข็งขัน
จึงยกแหตาห่างที่ขวางกั้น
ขาดสะบั้นลอยไปเหมือนสายลม
....พวกแกนั้นตัวเล็กเหมือนเด็กน้อย
เรี่ยวแรงด้อยกว่าข้าน่าขื่นขม
ต้องไปฝึกวิทยายุทธ์อีกนานนม
จึงจะบ่มพลังแรงแกร่งเท่าเรา
.....จึงทำให้นกส่วนใหญ่โมโหนัก
ใยมาหยามหาญหักให้ใจเศร้า
ทั้งที่ร่วมรวมแรงกันไม่เบา
จนได้เอาชีวิตรอดปลอดภัยมา
.......จนทำให้สามัคคีที่ราบรื่น
ต้องขมขื่นเพราะเสียงแยกแตกดังว่า
ความรักใคร่ที่เคยมีความเมตตา
ต้องสูญสิ้นโรยราให้ร้างไกล
.....เป็นเพราะปากพูดมากไม่ยั้งคิด
ไม่นึกถึงดวงจิตคนส่วนใหญ่
ใช้แต่ปากถากถางอยู่ร่ำไป
อีกไม่นานก็ฉิบหายวอดวายกัน
....จงตริตรองสักนิดคิดแล้วพูด
ให้ดึงดูดสามัคคีร่วมแข็งขัน
คนเป็นสิบเป็นร้อยช่วยแบ่งปัน
จึงเรียกว่าพูดสร้างสรรค์นั้นชื่นชม
.....ฝ่ายตายายแค้นใจให้ยิ่งหนัก
เสียแหรักถักสานที่สะสม
ถูกพวกนกพาหายกับสายลม
สุดระทมห่วงแหที่แลหาย
....แต่ยังมีอีกปากอยากทดลอง
เอาแหสองไปกางวางขยาย
ถ้านกติดคิดว่าน่าสบาย
สองตายายคงอิ่มยิ้มหลายวัน
....นกกระจาบย่ามใจหนีได้ครั้ง
มาวันหลังไม่กลัวตายภัยมหันต์
จึงพากันลงนาตาข่ายกั้น
ต่างพากันประชิดติดแหอวน
.....นกกระจาบยามนี้มีหลายฝ่าย
ติดตาข่ายหลายตัวมัวแต่สรวล
ต่างเกี่ยงกันหันเล่นไม่เป็นกระบวน
แถมก่อกวนอย่าพึ่งข้าหาทางเอง
.....นกต่างฝ่ายต่างบินคนละที
เพราะว่าความสามัคคีเริ่มโหรงเหลง
จนเรี่ยวแรงถอยลดหมดไปเอง
นกอวดเก่งขาดใจวายชีวัน
.....ต้องมาจบชีวิตติดตาข่าย
ให้ตายายต้มยำทำอาหาร
จนอิ่มเอม เปรมปรีย์ไปหลายวัน
ไม่ต้องซื้อกับข้าวทานหลายเพลา
.....อันนิทานให้อ่านทั้งหมดนี้
มีข้อดีให้คิดให้ค้นหา
เรื่องการเปล่งมธุรสในวาจา
ให้รู้ว่าพูดอะไรในหมู่คน
......แถมยังสอนเรื่องรักสามัคคี
ว่าต้องมีความมั่นทุกแห่งหน
ถึงคราวร่วมลงแรงอย่าแบ่งตน
สลัดพ้นเรื่องส่วนตัวอย่ามั่วกัน
.....สนสามใบ.....
19 ธันวาคม 2548 22:47 น.
สนสามใบ
.....ฉันมีบ้านคิดดูอยู่ไม่ได้
ต้องหนีไกลผู้คนพ้นหน้าเขา
กลัวชาวบ้านติฉินนินทาเรา
กลัวใจเศร้าร้องไห้ให้อายคน
.....เพราะน้องพี่คนดีจะแต่งงาน
หนุ่มต่างบ้านคนหล่อขอไปยล
สาวคนดีมีใจให้เขาดล
เธอไม่สนคนใกล้ใจหมดหวัง
.....เพราะวันนี้คนดีจะแต่งงาน
ต้องซมซานหลีกลี้หนีความหลัง
มาอยู่ที่กระท่อมน้อยห้อยเจียนพัง
เพื่อสร้างกำลังให้แกร่งเรี่ยวแรงมี
.....แล้วเขียนป้ายด้ายลัดมัดจนแน่น
นำไปแขวนหน้าบ้านจานด้วยสี
พออ่านได้เพราะลายมือไม่ค่อยดี
ในกระท่อมมีคนช้ำ มาทำใจ
.....สนสามใบ....
19 ธันวาคม 2548 09:39 น.
สนสามใบ
.....พระพิรุณทั่วฟ้า ภาคใต้
รินร่วงลงหลั่งใกล้ ใส่หน้า
ประชาหม่นหมองไหม้ น้ำบ่า ท่วมท้น
หนาวสั่นสุดเหว่หว้า ร่ำไห้ หิวโหย
.....หรือว่าความพ่ายแพ้ เลือกตั้ง
จากไม่มีที่นั่ง แบ่งให้
จึงเฉยนิ่งไม่สั่ง หวังว่า ให้อดตาย
จนกว่าจะสะใจ ค่อยแก้ แย่ตาย
......สนสามใบ
16 ธันวาคม 2548 22:38 น.
สนสามใบ
.....ยามค่ำคืนยืนดูมวลหมู่ดาว
ใสสกาวเปล่งแสงแดงลายตา
มีลมโชยโบยโบกถูกกายา
หนาวอุรากอดปืนยืนปวดใจ
.....แม้นบางคืนฝนตกจนหนาวสั่น
ก็ไม่หวั่นซุกกายใต้กิ่งไม้
เย็นชุ่มฉ่ำเมื่อน้ำรินหลั่งไหล
อยู่ในไพรไม่มีฟูกซุกหัวนอน
.....ด้วยหน้าที่ปกป้องส่องป่าเขา
ทำให้เราสิงสู่อยู่แรมรอน
คอยปกป้องรักษาป่าดงดอน
จึงขอวอนทั่วหล้าอย่าทำลาย
......แม้นมีใครล่าสัตว์เราขัดขวาง
รักษากวางเสือช้างมิห่างหาย
รักษ์สัตว์ป่าไม่ไห้ใครกล้ำกลาย
เดี๋ยวจะวายไม่เหลือเผื่อลูกหลาน
.....มวลพืชพันธุ์อันหายากจากพงไพร
อยู่กระจายตามป่ามาเนิ่นนาน
จงอย่าคิดมาบุกคอยรุกราน
จะต้านทานคอยดูอยู่ทุกวัน