7 กันยายน 2549 21:07 น.
สนสามใบ
๐๐๐เห็นดาหลาสีแดงแทงช่อออก
มีหลายดอกเริ่มบานผ่านพื้นดิน
รับน้ำฝนโปรยปรายเป็นสายริน
ภมรบินตอมไต่ไม่เลือนราง
๐๐๐มีกลีบดอกงอโค้งเหมือนวงเคียว
ตรงปลายเรียวอ่อนรอบดูบอบบาง
กลีบสยายกลายออกนอกหนีกลาง
เหมือนแก้มนางแดงระเรื่อช่างเหลือใจ
๐๐๐ อันดาหลาที่สวยงามสุดบรรเจิด
ถิ่นกำเนิดมาจากทางภาคใต้
นำมาปลูกมากล้นจนเติบใหญ่
แล้วแพร่หลายไปทั่วแคว้นแดนดินไทย
๐๐๐สนสามใบ๐๐๐
29 สิงหาคม 2549 22:43 น.
สนสามใบ
๐๐๐ยกสิบนิ้วประนมก้มกราบเท้า
แม่ของเราแสนประเสริฐสุดเลิศล้ำ
เลี้ยงดูลูกผูกความรักเฝ้าตรากตรำ
ทุกเช้าค่ำเฝ้าอบรมบ่มนิสัย
๐๐๐ไม่ย่อท้อต่อเหนื่อยยากที่บากบั่น
แม่ไม่หวั่นแม้หิวโหยโรยร่างกาย
ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสุขสบาย
แม้มลายแม่ก็ยอมพร้อมชีพพลี
๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐
22 สิงหาคม 2549 17:30 น.
สนสามใบ
๐๐๐ปลูกเรือนหอรอกานดามาหลายปี
แต่งอย่างดีด้านในให้สวยหรู
ดูสดใสให้ภิรมย์สีชมพู
รอโฉมตรูมาร่วมหอพะนอกัน
๐๐๐เฝ้าอ้อนวอนงอนเง้าทุกเช้าเย็น
ก็ไม่เห็นกานดามาร่วมฝัน
หรือจะแกล้งให้พี่สิ้นชีวัน
แล้วจอมขวัญถึงจะอยู่ครองคู่ใคร
๐๐๐หรือไม่รักพี่แล้วน้องแก้วเอ๋ย
จงเฉลยจำนรรจามาเร็วไว
พี่ไม่ว่าหากกานดามาเปลี่ยนไป
ขอดวงใจจงเฉลยให้เอ่ยคำ
๐๐๐พี่จะรอคนดีอีกปีเดียว
หากไม่เหลียวมามองให้หมองช้ำ
พี่จะทาสีบ้านด้วยสีดำ
เตือนความจำว่าไร้คู่อยู่เดียวดาย
๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐
4 สิงหาคม 2549 23:14 น.
สนสามใบ
๐๐๐ จะมีใครไหมหนอขอถามหน่อย
มีเรื่องบ่อยกวนใจให้เวียนหัว
เรื่องมากมายฉันนี้ไม่เคยกลัว
เรื่องใกล้ตัวแก้ไม่ได้ให้อายคน
๐๐๐ แม่กับเมียเคลียกันนั้นแสนยาก
ต่างต่อปากต่อคำจำต้องทน
เอาแต่ใจไม่รักกันสานกมล
หันหน้าชนไม่รอมชอมหรือยอมกัน
๐๐๐ เมียนั้นหรือถือว่าใหญ่ใครอย่าสอน
เอาแต่นอนแล้วกินสิ้นไปวัน
ชอบปะแป้งทาตาหน้าเป็นมัน
ไม่ขยันแถมขี้คร้านงานไม่ทำ
๐๐๐ ส่วนแม่เราเขาเห็นเป็นเช่นนั้น
ก็รำพันด่าสะใภ้ใจแสนดำ
สุดจะทนขอบ่นให้ได้จดจำ
ปากพึมพำเจรจาว่าเรื่อยไป
๐๐๐ กลับจากงานมาบ้านรำคาญจิต
ทั้งเมียชิดแม่รักซักกันใหญ่
เสียงระงมระทมในดวงใจ
จะเชื่อใครก็ไม่ดีมีแต่ตรม
๐๐๐ ฝ่ายหนึ่งก็เมียรักมากหนักหนา
ยากตัดใจอำลาพาขื่นขม
อีกฝ่ายหนึ่งก็มารดาค่าน้ำนม
กลัวท่านตรมเราหันเหเนรคุณ
๐๐๐ ท่านผู้อ่านทั้งหลายใครก็ดี
มีวิธีบอกนิดอย่าคิดฉุน
จงสงสารผมเถิดจะเกิดบุญ
เป็นพระคุณสูงล้ำจำจนตาย
๐๐๐ สนสามใบ ๐๐๐
22 กรกฎาคม 2549 21:11 น.
สนสามใบ
๑... ในคืนนี้มีฟ้าหมองมองหาดาว
มีแสงวาวเพียงดวงเดียวที่เหลียวเห็น
ฟ้ามืดมิดน้ำค้างพราวสุดหนาวเย็น
ทนลำเค็ญยืนดูอยู่เนิ่นนาน
๒... จะเข้านอนแสนสะท้อนนอนไม่หลับ
ส่ายกระสับดิ้นรนทนร้าวราญ
ให้หวนคิดจิตคะนึงถึงตาหวาน
นวลนงคราญที่อยู่ห่างทางแสนไกล
๓... สัญญาวอนก่อนหน้านั้นในวันหนึ่ง
ถ้าคิดถึงยามเรานั้นจิตหวั่นไหว
จงแหงนหน้ามองดูดาวพราววิไล
สองดวงใจจะพบกันบนชั้นฟ้า
๔... ถึงจะเป็นสัญญาว่าเพ้อเจ้อ
ฉันและเธอก็ยังได้คลายอุรา
รออีกนิดอีกไม่นานนะกานดา
งานที่คาหมดเมื่อไรจะไปเจอ ฯ
๑๑๑ สนสามใบ ๑๑๑