24 พฤษภาคม 2549 22:15 น.
สติแตก
จากหัวใจดวงนี้ที่เหงาหงอย
มันเลื่อนลอยเลอะเลือนเหมือนคนบ้า
มันคร่ำครวญพร่ำเพ้อเสมอมา
จนน้ำตาตกผลึกลึกกลางใจ
กี่วันแล้ววันเล่าคอยเฝ้าห่วง
แม่พุ่มพวงโฉมตรูเจ้าอยู่ไหน
อยู่กับความเงียบงันหวั่นฤทัย
จนถึงวัยเลี่ยมทองของชีวิต
เหมือนดั่งไม้ลอยน้ำตามกระแส
ไม่มีแม้ความรู้สึกสำนึกคิด
ปล่อยไปตามโชคชะตาฟ้าลิขิต
จึงรู้ฤทธิ์พิษเหงาเศร้ายิ่งนัก
ต้องอยู่อย่างท้อแท้ถึงแก่เฒ่า
คงเปลี่ยวเปล่าเดียวดายไร้คนรัก
เหมือนหัวใจไม่เลยเคยรู้จัก
มิพบพักตร์รักหวานให้ซ่านซึ้ง
จนวาระสุดท้ายในชีวิต
พรหมลิขิตขีดขั้นให้ฝันถึง
ลากสังขารบนล้อห้อตะบึง
พบที่พึ่งกับพระเพลิงเชิงตะกอน
4 พฤษภาคม 2549 22:24 น.
สติแตก
เรื่องอะไรไม่รู้ตูละเบื่อ
ไม่อยากเชื่อตัวเองเซ็งจริงหนอ
แค่กับเรื่องของตัวก็มั่วพอ
มันบ้าบอร้าวรวดปวดกะบาล
ยามคนนั้นเริ่มรักกับคนนี้
ก็เห็นมีความสุขสนุกสนาน
พอเริ่มรั่วเริ่มช้ำเริ่มรำคาญ
ความชื่นบานหมดหวังเริ่มนั่งปลง
จำต้องเป็นศิราณีที่ปรึกษา
พึ่งคนบ้าคงรื่นรมย์สมประสงค์
จะได้พากันวุ่นทำงุนงง
ไม่แคล้วคงบ้าบอพอพอกัน
เพราะว่าน้ำท่วมปากไม่อยากโบ้ย
อยากจะโกยอ้าวหนีสักปีฉัน
ให้พวกเขาวุ่นวายให้หายคัน
ใครจะปั่นหัวใครไม่อยากฟัง
ใครก็ได้คนดีมีน้ำจิต
จะเป็นมิตรหรือไม่ก็ไม่หวัง
หากว่ามีฉันนี้ดีใจจัง
ส่งไปนั่งเอ๋อที่ศรีธัญญา